‘ลุงตู่’ลุยยะลา ทุ่มทุกสรรพวิธี พัฒนาแดนใต้


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กตู่" ควง ครม.ใหม่ลงพื้นที่ยะลา หยอดภาษายาวี อ้อนหอบความรักความห่วงใยมาฝาก ลั่นทุกศาสนาคือคนไทยแบ่งแยกไม่ได้ ยันทุ่มทุกสรรพวิธีดูแลพัฒนาชายแดนใต้ เจอหนามทุเรียนตำเลือดซิบ!  ยังชมเปาะอร่อยหวานมัน

    เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,  นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนเดินทางต่อไปยัง จ.ยะลา ด้วยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5 กจ 2204 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจราชการ ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรกพร้อมรัฐมนตรี หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 
    โดยจุดแรก พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองยะลา มี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4,  พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐ ได้แก่ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.เขต 1 ยะลา,  นายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.เขต 1 นราธิวาส และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 2 นราธิวาส มาร่วมต้อนรับด้วย 
       ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด ใช้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด บุคคลที่จะเข้ามาภายในบริเวณศูนย์ราชการฯ ต้องผ่านการตรวจอย่างละเอียด ทั้งการติดสติกเกอร์ ผ่านเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย ภายในห้องจัดงานได้จัดโซนที่นั่งแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ระหว่างเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการอิสลามและประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ปลดอาวุธทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าการเตรียมพร้อมเต็มร้อยกลับสะดุด โดยเวลา 08.30 น. ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางมาถึง ปรากฏว่าบันไดเลื่อนที่จะขึ้นมาบริเวณห้องประชุมชั้น 2 ได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ส่งกลิ่นไหม้ ทำให้บันไดเลื่อนใช้การไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหา และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่พร้อมในการจัดงาน
    จากนั้นเวลา 09.45 น. นายกฯ ได้เดินทางมาถึงศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยโบกมือทักทายประชาชนฝั่งตรงข้ามถนนที่มายืนรอรับ ก่อนทำพิธีกดปุ่มเปิดป้ายอาคารอย่างเป็นทางการ ต่อมารับฟังรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาพื้นที่ และเป็นประธานกิจกรรมมอบเงินค่าตอบแทนการทำงานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจาก 5 จังหวัด มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้แทนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 5 ราย และมอบหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน (โฉนดที่ดิน) จำนวน 200 แปลง ให้กับผู้นำศาสนา และผู้แทนประชาชนของ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี จำนวน 3 ราย
อ้อนหอบความรักมาฝาก
    "อัสลามมูอาลัยกุม ขอสวัสดีพี่น้อง วันนี้ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง วันก่อนสื่อถามมีอะไรจะมาฝากคนใต้ ผมมีความรักความห่วงใย มีนโยบายของรัฐบาล โดยในเรื่องราคายาง ถ้าเราแก้ให้ครบวงจรมันก็จะแก้ได้ ซึ่งวันนี้มีหลายคนที่มาร่วมรัฐบาลใหม่ จะมาสืบทอดการทำงานอย่างต่อเนื่อง อะไรที่ใหม่ๆ ก็ขับเคลื่อนต่อไป โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เลือกมา" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรามาเยี่ยมเยือน 3 จังหวัดกลุ่มภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาแก้ปัญหาต่างๆ เราให้ความสำคัญกับพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้อย่างยิ่ง เพราะเป็นพื้นที่พิเศษ มีปัญหาในเรื่องความมั่นคง ซึ่งจะมี ศอ.บต.เสริมงานในระบบ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็จะเข้าสู่ระบบ ขอให้พี่น้องเข้าใจในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนายกฯ ห่วงใยทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา แม้ที่นี่ชาวมุสลิมจะมากกว่าชาวพุทธ แต่ทุกอย่างอยู่ที่สันติสุข 
    ทั้งนี้ ยะลาเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวการเกษตร และผังเมืองประเทศไทยได้รางวัลประเทศที่มีผังเมืองดีที่สุดในโลก ส่วนเรื่องแก้ประมงผิดกฎหมาย รัฐบาลก็หน้าแหกโดนด่าเละ ซึ่งไม่อยากให้ใครเดือดร้อน สำหรับความมั่นคงความปลอดภัย จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาและความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน ทุกศาสนา ที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย นี่คือแผ่นดินของเรา จะแบ่งแยกไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม 
    "ผมทานข้าวไม่ค่อยได้ บางทีทานไม่ค่อยลง มันหลายอย่าง คำนินทาก็มีเยอะ ก็ช่างมัน เอาความดีชนะ หวังว่าพวกเราคงเข้าใจกันบ้าง วันนี้ตั้งใจทำหน้าหล่อๆ พูดจาดีๆ แต่พอพูดไปแล้วมันเครียด สมองคิดไว วันนี้หน้าตาอาจจะดูโหดร้ายดุร้ายไปบ้าง แต่จริงๆ ผมใจดี เคารพทุกศาสนา เพราะทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี แก่นแท้ศาสนา คือให้ทุกคนอยู่กันอย่างสันติ ประเทศไทยมี 5 ศาสนา ฝากความรักความห่วงใยให้กันเสมอ" นายกฯ กล่าว
    ทั้งนี้ ก่อนกลับนายกฯ ได้ทักทายชาวบ้านเป็นภาษายาวีที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ สวัสดีตอนเช้า กินข้าวด้วยกันนะ 
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดยะลาว่า เมืองทุเรียนจังหวัดยะลามีหลายสายพันธุ์ที่ดีมาก มีโรงงานเกิดขึ้นในพื้นที่ เมื่อสักครู่ตนได้พบกับนักลงทุนต่างประเทศด้วย ซึ่งจะพัฒนาเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ 2-3 ปีผ่านที่มา มาตรการลงทุนในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความก้าวหน้าขึ้น ก่อนหน้านั้นอาจมีความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย วันนี้แสดงว่าสถานการณ์ดีขึ้น การพัฒนา ศอ.บต.รายงานดีขึ้น แต่ส่วนที่ยังมีปัญหาเราต้องแก้ไข วันนี้ดูจากสีหน้า ประชาชนที่มาพบ และร้านค้าสองข้างทางมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ในการจัดงานต่างๆ หรือในงานศาสนาก็มีคนมาร่วมและไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งก็ใกล้วันอีดิ้ลอัฎฮาแล้วด้วย
    เมื่อถามว่าพอใจเรื่องการพัฒนาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พอใจระดับหนึ่ง จะพอใจสูงสุดไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ครบทุกภาคส่วน ตนบอกในที่ประชุมแล้วว่า คนก็ต้องคาดหวังกับรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลจึงต้องดูแลและเร่งรัดหลายอย่าง ไปปรับแผนดูแลเพิ่มเติม
    นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องราคายางพาราว่า ราคายางหลักๆ หากดูในภาพรวมสต๊อกยางในโลก ประกอบกับราคาน้ำมันตกต่ำ ปริมาณยางพาราในสต๊อกของเราและของโลก ปริมาณยางพาราที่ผลิตเพิ่มขึ้นในแต่ละปี เหล่านี้คือโครงสร้างเดียวกันทั้งหมด ทุกคนต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้ามองแต่ตัวเราก็แก้ไม่ได้ รัฐบาลต้องมองทั้งข้างในและข้างนอก ที่สำคัญทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง หากราคายางต่ำ จะปลูกอย่างอื่นด้วยได้หรือไม่  จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่มีรายได้สูงที่สุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังถือว่าต่ำอยู่ เป็นระดับท้ายจาก 77 จังหวัด แต่รายได้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า กินทุเรียนยะลาเป็นอย่างไรบ้าง รสชาติอร่อยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทานแล้วอร่อยทุกอย่าง อยู่กรุงเทพฯ ตนก็ชอบอาหารใต้ เช่น แกงเหลือง ต้มยำ ไก่เบตง ปลาทราย น้ำพริกกุ้งเสียบ ผัดสะตอ ผัดใบเหลียง บูดูก็ชอบทาน ทานได้ทุกประเภท 
ทุ่มทุกสรรพวิธีดูแล ปชช.
    ต่อมาเวลา 13.50 น. นายกฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการทุเรียนคุณภาพและการบริหารจัดการทุเรียนคุณภาพของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ที่ตลาดกลางยางพารา อ.เมืองยะลา โดยกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า มาเยี่ยมเยียนในฐานะรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง ขอบคุณมิตรไมตรีที่มีให้กับตน ใครฟังไม่รู้เรื่องก็ขอให้ยกมือ แต่ถ้ามีคนยกมือเพียงคนเดียวก็รู้สึกเสียใจ ตนอาจจะพูดเร็วไปนิด ต้องปรับตัวหากัน อยากให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมือง รักกันไว้เถิดเราเกิดเป็นคนไทยด้วยกัน ยืนยันรัฐบาลใหม่จะทุ่มทุกสรรพวิธีดูแลประชาชน แต่การแก้ปัญหาด้วยเงินอย่างเดียวมันไม่ยั่งยืน ต้องทำให้ถูกวิธี 
    หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมการคัดแยกทุเรียน พร้อมใช้ไม้เคาะเพื่อเช็กความสุกและเกรดของทุเรียน และทดลองป้ายน้ำยาที่ขั้ว พร้อมกับโยนทุเรียนเพื่อขนขึ้นรถ และชิมทุเรียนพันธุ์กลาแต (ทุเรียนดอกสีชมพู) และทุเรียนพันธุ์ยาตงซูซู (ทุเรียน 300 ปี) ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของนราธิวาสและยะลา โดยเมื่อนายกฯ ได้ชิมถึงกับบอกว่า อร่อย หวานมัน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ลองยกทุเรียนพันธุ์หมอนทองโดยไม่สวมถุงมือ ทำให้หนามตำมือจนเลือดออก แต่นายกฯ บอกว่าไม่เจ็บ ไกลหัวใจเยอะ ไม่เป็นไร จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนและข้าราชการ พร้อมกับบอกว่า "รักนายกฯ ก็ต้องรัก ครม.ของผมด้วย ทุเรียนมีเกรดเอ เกรดบี เกรดซี สำหรับผมนะเกรดเอ"
    ด้านนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ยะลามีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน  67,164 ไร่ สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี จังหวัดยะลาจึงได้กำหนดวาระจังหวัด ในการขับเคลื่อนให้จังหวัดยะลาเป็นเมืองทุเรียน (Durian City) แห่งภาคใต้ตอนล่าง โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาด ดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้แนวนโยบายในการนำศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ โดยร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 664 ราย พื้นที่ปลูก 1,125 ไร่ ต้นทุเรียน 22,508 ต้น คาดการณ์ผลผลิต 2,440 ตัน สามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 183 ล้านบาท.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"