3 ก.ย.62- ​ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครขอนแก่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ เจ้าหน้าที่ อปพร.เทศบาลนครขอนแก่น ต่างเร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทราย เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งการเร่งทำแนวกั้นน้ำในพื้นที่ที่เสี่ยวงต่อการเกิดน้ำท่วมขัง รวมทั้งการจัดการจราจรทางน้ำให้เป็นไปตามที่กำหนด หลังอิทธิพลของพายุโซนร้อนคาจิกิ ได้พาดผ่าน จ.ขอนแก่น จนทำให้ขณะนี้ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนจำนวนมากทยอยมาติดต่อขอรับกระสอบทรายอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ได้นำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทุกประเภท ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันฯ และ อปพร. รวมทั้งพลเมืองดี ได้ทำการจัดเก็บจากจุดต่างๆที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมมาเก็บรวบรวมและรักษาไว้เพื่อให้เจ้าของรถนั้นมาติดต่อขอรับกลับคืน หลังพบว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่  31 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีป้ายทะเบียนของรถทุกชนิดนับร้อยแผ่นถูกกระแสน้ำพัดจนหลุดและลอยน้ำมาตกตามสถานที่ต่างๆอย่างต่อเนื่องทุกวัน

นายกิตตินันท์  วงศ์ทองเจริญ ประธานศูนย์ อปพร.เทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า ป้ายทะเบียนเกือบ 100 แผ่น ที่นำมาเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์ป้องกันฯแห่งนี้นั้น นอกจากเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯจะทำการเก็บได้แล้วยังคงมีพลเมืองดีจำนวนมากที่เก็บป้ายทะเบียนได้ และนำมาส่งเพื่อที่จะส่งกลับคืให้กับเจ้าของรถตัวจริง ซึ่งป้ายทะเบียนดังกล่าวนี้นั้นมีทุกประเภท ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมไปถึงรถบรรทุก

“ นอกจากการถ่ายภาพป้ายทะเบียนเผยแพร่ผ่านโซเชียนมีเดียและเพจต่างๆแล้ว ยังคงมีกาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆให้กับเจ้าของรถที่มั่นใจว่าป้ายทะเบียนรถของตัวเองนั้นหลุดขณะขับรถผ่านจุดที่เกิดน้ำท่วมในเขต จ.ขอนแก่น ได้มาติดต่อขอรับกลับคืน โยขณะนี้เทศบาลฯได้กำหนดให้พื้นที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ป้องกันฯเป็นจุดเก็บรักษาและรวบรวมแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหมด”

นายกิตตินันท์ กล่าวต่ออีกว่า ตลอดทั้งวันมีเจ้าของรถมาติดต่อขอรับแผ่นป้ายทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบรายละเอียดและส่งมอบป้ายทะเบียนกลับคืน อย่างไรก็ตามป้ายทะเบียนทั้งหมดที่มีอยู่รวมไปถึงที่กำลังถูกทยอยส่งมาจากจุดบริการต่างๆของเทศบาลฯในจุดที่เกิดน้ำท่วม จะถูกเก็บรักษาไว้เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อให้เจ้าของรถมาติดต่อขอรับ ซึ่งหากเลยระยะเวลาที่กำหนดก็จะส่งมอบให้กับสำนักงานขนส่ง จ.ขอนแก่น เป็นลำดับต่อไป.