‘ดีเจนุ้ย’ลั่นพอแล้วกับข่าวบันเทิง พร้อมเคลียร์ทุกประเด็นดราม่า!


เพิ่มเพื่อน    

 

          คิวทองมากๆสำหรับดีเจและพิธีกรชื่อดัง ดีเจนุ้ย-ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร ที่ไม่ว่าจะเปิดรายการไหนก็มักเจอเจอหน้าของเจ้าตัวอยู่เป็นประจำ แต่ก่อนที่นุ้ยจะมาเป็นพิธีกรนั้น เจ้าตัวบอกว่าเริ่มเกิดมาจากการเป็นนักข่าวบันเทิงแต่เบื่อกับการทำข่าวบันเทิงจึงผันตัวไปสู่หน้าที่อื่น โดยล่าสุดพิธีกรชื่อดังได้มาเปลือยชีวิตพร้อมตอบทุกประเด็นดราม่า ทั้งเรื่องดังแล้วหยิ่ง  โดนโรคจิตราวี หรือแม้กระทั่งการที่เจ้าตัวพูดมาตลอดว่าตนถือพรหมจรรย์ ผ่านรายการคุยแซ่บshow

          “ก่อนที่มาเป็นดีเจนุ้ย นุ้ยเป็นนักข่าวบันเทิง แต่สามารถบุกไปโรงพัก โรงพยาบาล ศาล วัด อะไรพวกนี้  แล้วมีข่าวที่ซ่อนกล้องไปสถานีโทรทัศน์รายการหนึ่ง เพื่อจะไปถามความคืบหน้าความรักของนางสาวไทยคนหนึ่ง จนยามโดนไล่ออก แล้วนางงามคนนั้นก็โทร.ด่าเจ้าของบริษัท เราก็เลยตัดสินใจว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ถึงขั้นไล่ยามออกแล้วก็โทร.ด่าเจ้าของบริษัท เราเป็นเด็กตัวเล็กลาออกก่อน นุ้ยรู้สึกมาตลอด นุ้ยเลยหยุดทำข่าวบันเทิงเลย

          ตอนนั้นพูดข่าวแล้วโดนพี่เป็ก สัณณ์ชัย สายตรงเลย แต่คือนุ้ยโดนสายตรงเยอะมาก ตอนพี่เป็กโทร.มาก็กลัว เราก็ขอโทษไป แต่นุ้ยไม่ได้เจอแค่พี่เป็กนะ นุ้ยยังเจอสายที่โทร.มาขู่เลยนะ แบบว่านุ้ยถามเขาว่าได้เบอร์มาจากไหน เขาบอกไม่ต้องรู้หรอก นุ้ยบอกพี่ใจเย็นๆ นะ เขาบอกผมใจเย็น ถ้าผมใจร้อนคุณก็รู้ผมเป็นยังไง ตอนนั้นก็ยืนสั่นอยู่ในลิฟท์ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เน้นความน่ารักสดใส นายมาบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องแรงมากก็ได้ ตอนแรกเราอินกับการจัดรายการ เต็มที่ แฉก็คือแฉ พอนายมาบอกเราก็ดึงความเป็นตัวเรากลับมาเน้นความสนุก จนปีหลังๆ นุ้ยเบื่อข่าวบันเทิงแต่บอกใครไม่ได้ ณ ตอนนั้นนุ้ยยังนั่งอยู่ในตำแหน่งแฉแต่เช้าอยู่ จนวันหนึ่งเราตัดสินใจเซย์ กู๊ด บาย

          ถามว่าชอบงานในวงการบันเทิงไหม คือชอบงานในวงการ ตั้งแต่เด็กๆ มีความไฝ่ฝันที่จะเข้าวงการบันเทิง แต่พอส่องกระจกดูหน้าตัวเองก็ตกใจ ลำพังตัวเองยังตกใจแล้วคนอื่นคงตกใจแน่ๆ เมื่อก่อนอยากเป็นนักร้อง มีพี่โบ สุนิตา เป็นไอดอลพี่โบบอกเขาเป็นนักร้องเพราะความฝัน นุ้ยก็มีความฝัน นุ้ยเคยประกวดเดอะสตาร์ไม่ปี1 ก็ปี2 ที่คนยังไม่ต่อแถว คือเราเป็นคนมีความฝันแต่ไม่พยายาม ดึกไปก็กลับบ้าน เวที AF ก็เคยไป ตอนนั้นเป็นนักข่าวแล้ว

 

 

          ส่วนเรื่องที่นุ้ยชอบเจอโรคจิต ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอเซ็กส์โฟน ถ้าเป็นยุคนี้จะรับสายฟังแล้วสู้กับมัน แต่ยุคนั้นมันตกใจยังเด็กอยู่ คือตอนนั้นเขาไม่พูด พอรับก็ครางเลย สักพักเราก็วางแล้วเขาก็โทร.มาอีก เราก็ตัดสินใจโพสต์เบอร์ไปเลย แล้วแฟนๆ ที่ติดตามเราโทร.ไปด่าเขา จนเขาปิดเบอร์หนี กลับมารู้ตอนหลังเป็นแฟนคลับคนนึงของคลื่นวิทยุเรา เหมือนมีอาการทางจิต

          วิธีการจัดการ นี่ไงโพสต์เบอร์ไปเลย จริงๆ โรคจิตอย่างเดียว เราอย่าไปกลัวเขา นุ้ยเคยเจอบนรถไฟฟ้าด้วย คือมีผู้หญิง 2 คนเขากรี๊ดแล้ววิ่งไปอีกโบกี้นึง เราก็ไปนั่ง แล้วเขาก็ถือโทรศัพท์มานั่งข้างๆ เราเลย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหัวเราะฮึ ฮึ แล้วเราก็มองไปที่โทรศัพท์เขาเป็นคลิปหนังกำลังภายใน เป็นคิวบู๊กำลังแทงกันอยู่ ทางเราก็ตกใจ แต่ต้องตั้งสติ แต่ถ้าเป็นยุคนี้นุ้ยจะตะโกนเลยว่า อีโรคจิต แต่ยุคนั้นสิ่งที่เราทำมันกลายเป็นเขาตกใจเรา เพราะเราดูคลิปกับเขาไปด้วยพักหนึ่ง มันก็เลยตกใจเรา ว่าทำไมเราไม่ตกใจเหมือนผู้หญิงสองคนนั้น แต่หัวเรา ต้องคิดต่อว่าเราจะหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้ยังไง โดยการที่ถึงสถานีพอดีประตูรถเปิด ไม่ออก สู้ แต่เราหาจังหวะเวลาประตูกำลังจะปิดวิ่งกระโดดสวนประตูออกไปเลย ออกไปโทร.หาเพื่อนมือไม้สั่น

 

 

          ประเด็นเราถือพรหมจรรย์ คือ ถือตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต หลายครั้งที่เราเดินผ่านกระจกก็รู้สึกว่าเราสวยนะ ดูดี แต่เราเป็นบททดสอบของชีวิต และเป็นบททดสอบที่เราเชื่อว่าเบื้องบนทดสอบเราให้อดทน เพื่อแลกกับความสำเร็จ นุ้ยไม่รู้นะ แต่ว่ามันมีอะไรพิเศษๆ ไม่งั้นเขาจะเอาไปแห่กันเหรอ คือเขาต้องเลือกคนบริสุทธิ์ก่อนจะไปทำพิธี พูดไปก็เป็นปมของนุ้ย ถ้าวันใดเราพลาดขึ้นมาก็เลยไม่อยากเชื่ออะไรมากมาย แต่ว่าเราสามารถหยุดฟ้า หยุดฝนได้ อีเว้นท์ไหนอยากไล่ฝน นุ้ยรับสตาร์ทที่ 3 แสนบาท งานรอดทั้งงาน แลกกับเงินแค่นี้ถือว่าคุ้ม

          อีกเรื่องคือกระแสว่าเราหยิ่ง ไม่ได้หยิ่ง ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหน นุ้ยชอบใส่แมสเอาไว้ เวลาขึ้นเครื่องบิน แล้วมีคนเดินมาบอกว่าจำได้นะใส่ทำไม โอ้ย ไม่ต้องใส่หรอก รู้อยู่แล้วว่าใคร แต่เจตนาของนุ้ยคือนุ้ยไอมาประมาณ 1 เดือน ก็คือนุ้ยพักผ่อนน้อย ป่วยง่าย ก็ฉีดวัคซีนไว้ตลอดเพราะไม่อยากให้ป่วยหนัก ไปหาหมอฉีดยาแล้วกำลังจะหายก็ป่วยซ้ำไปอีก ก็เลยแบบไปไหนมาไหนจะใส่แมส แต่เราก็เข้าใจแฟนๆ ที่เขาคิดว่าเราหลีกเลี่ยงเขาหรือเปล่า หรือเราไม่อยากคุยกับเขาหรือเปล่า ไม่ใช่นะคะ คือเราไม่สบาย ป่วยง่าย เราเลยจำเป็นต้องใส่แมสเอาไว้”

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม djnui


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"