โจชัว หว่อง แอคติวิสต์คนดังของฮ่องกง ออกเดินทางเยือนเยอรมนีแล้วเมื่อวันจันทร์ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวภายหลังโดนจับกุมด้วยความผิดพลาด 1 คืนฐานละเมิดเงื่อนไขประกันตัว เจ้าตัวมีแผนพบนักการเมืองเยอรมนี จากนั้นจะไปสหรัฐอเมริกาต่อ ด้านสื่อจีนยืนกราน ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แบ่งแยกไม่ได้

โจชัว หว่อง (กลาง) พร้อมด้วยเอ็ดดี ชู ส.ส.ฮ่องกง (ซ้าย) และลั่ว เวินเจี๋ย เลขาธิการพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวัน แถลงข่าวที่กรุงไทเปของไต้หวัน เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 / Sam YEH / AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน ว่า การเดินทางเยือนต่างประเทศของโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกง วัย 22 ปี มีขึ้น 1 วันภายหลังผู้ประท้วงชาวฮ่องกงชุมนุมกันด้านนอกสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยปลดปล่อยฮ่องกง

    หว่องโดนจับกุมที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงช่วงเช้าวันเดียวกันนั้นภายหลังเดินทางกลับจากไต้หวัน ตำรวจอ้างว่าเขาฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัว แต่ในวันจันทร์ ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัวหว่อง สถานีข่าวอาร์ทีเอชเครายงานว่า การควบคุมตัวหว่องเป็นความผิดพลาดเรื่องขั้นตอน เนื่องจากเงื่อนไขประกันตัวนั้นอนุญาตให้เขาเดินทางไปต่างประเทศได้ หากเป็นแผนการเดินทางที่เตรียมการไว้ก่อนการจับกุม

    หว่องโดนตำรวจจับกุมที่สนามบินเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ขณะเตรียมเดินทางไปญี่ปุ่น ตำรวจตั้งข้อหาเขาหลายข้อหา ซึ่งรวมถึงการยุยงปลุกปั่นให้บุคคลอื่นเข้าร่วมการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ก่อนจะเดินทางออกจากฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ หว่องทวีตว่า การควบคุมตัวเขาไว้ 1 คืนนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้และไม่มีเหตุผล

    หว่องเปิดเผยด้วยว่า เขากำลังจะเดินทางไปเยอรมนี และมีแผนจะเดินทางไปสหรัฐหลังจากนั้น ที่เยอรมนี เขามีแผนจะพบกับนักการเมืองเยอรมนีจากพรรคต่างๆ และจะไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยฮุมบ็อลต์แห่งเบอร์ลิน เขาจะเรียกร้องให้เยอรมนียุติการเจรจาการค้าและการขายอาวุธแก่ฮ่องกงและจีน จนกว่าจะมีการเพิ่มประเด็นสิทธิมนุษยชนเข้าไว้ในการเจรจาด้วย

    ด้านพรรคเดโมซิสโตของเขา กล่าวว่า หว่องจะเดินทางไปสหรัฐต่อจากนั้น และจะกลับฮ่องกงปลายเดือนนี้ แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดแผนการเดินทางของเขา

    การชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกงนับหมื่นที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์เป็นไปอย่างสันติ แต่ในที่แห่งอื่น นักเคลื่อนไหวยังคงก่อเหตุปะทะกับตำรวจเหมือนเช่นที่ผ่านมา พวกเขาจุดไฟวางเพลิงสิ่งกีดขวางบนถนนและทำลายทรัพย์สินภายในสถานีรถไฟใต้ดินเอ็มทีอาร์หลายสถานีที่อยู่ใกล้เคียง บริเวณทางเข้าของสถานีเอ็มทีอาร์ในเขตเซ็นทรัลก็โดนผู้ประท้วงวางเพลิงด้วย ส่วนสถานีเอ็มทีอาร์อีกสถานีที่ย่านช็อปปิ้งของคอสเวย์เบย์ ผู้ประท้วงโดนตำรวจยิงแก๊สน้ำตาขับไล่

นักเรียน, ศิษย์เก่า และครู ยืนเรียงกันเป็นโซ่มนุษย์ด้านหน้าอาคารเรียนเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 / Anthony WALLACE / AFP

    รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ก่อนเข้าชั้นเรียนวันจันทร์ นักเรียนในหลายโรงเรียนพร้อมกับศิษย์เก่าพากันจับมือกันเป็นโซ่มนุษย์ เพื่อสนับสนุนการประท้วงและเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงปฏิบัติตามความต้องการ 5 ข้อของผู้ประท้วง อันรวมถึงการนิรโทษกรรมผู้ถูกจับกุมและถอนการเรียกผู้ประท้วงว่าผู้ก่อจลาจล

    หลังการชุมนุมที่สถานกงสุลสหรัฐ รัฐบาลฮ่องกงกล่าวเตือนนักการเมืองต่างชาติว่า อย่าได้แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง และเมื่อวันจันทร์ หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีของทางการจีนระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้พิสูจน์ว่ามีพลังอำนาจจากต่างชาติอยู่เบื้องหลัง และเตือนผู้ชุมนุมว่าอย่าพยายามทดสอบความอดทนของรัฐบาลกลาง

    "ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แบ่งแยกไม่ได้ และไม่ว่าใครก็ไม่ควรท้าทายเรื่องนี้ ไม่ว่าผู้ชุมนุม พลังอำนาจจากต่างชาติที่กำลังเล่นเกมสกปรก" บทบรรณาธิการของไชน่าเดลีกล่าว.