ซาอุฯ เล็งเปิดหลักฐานมัดอิหร่านโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน


เพิ่มเพื่อน    

รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเตรียมเปิดเผยหลักฐานโยงอิหร่านกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุฯ เมื่อวันเสาร์ ก่อนหน้าที่ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะมาเข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมารในวันพุธ เพื่อหารือมาตรการตอบโต้

ภาพถ่ายดาวเทียมจากแพลเน็ตแล็บเผยความเสียหายที่โรงงานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียที่เมืองอับกาอิก วันที่ 14 กันยายน 2562 / PLANET LABS INC. / AFP

    การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่เมืองอับกาอิกและบ่อน้ำมันคูราอิสของบริษัทพลังงาน อารัมโก ของซาอุดีอาระเบียเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ 14 กันยายน กระทบต่อการผลิตน้ำมันราวครึ่งหนึ่งของซาอุฯ หรือเท่ากับ 6% ของอุปทานน้ำมันโลก กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนซึ่งทำสงครามกับกองกำลังผสมภายใต้การนำของซาอุฯ ในเยเมนมานาน 5 ปี ประกาศว่า เป็นผลงานการโจมตีของพวกเขาโดยใช้โดรน 10 ลำ

    รัฐบาลซาอุฯ กล่าวว่า อาวุธที่ใช้โจมตีนั้นผลิตโดยอิหร่าน แต่ซาอุฯ ยังไม่ได้กล่าวโทษอิหร่านโดยตรง ในขณะที่สหรัฐเชื่อมั่นว่าอาวุธเหล่านี้ถูกยิงหรือปล่อยมาจากอิหร่าน ไม่ใช่จากเยเมน

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน ว่ากระทรวงกลาโหมซาอุฯ จะประกาศผลการสอบสวนและ
เปิดเผยหลักฐานและอาวุธของอิหร่านที่ได้จากที่เกิดเหตุ ซึ่งพิสูจน์ว่ารัฐบาลอิหร่านเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายครั้งนี้

    เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซึ่งเป็นองค์ประมุขโดยพฤตินัยของราชอาณาจักรแห่งนี้ ตรัสเมื่อวันพุธว่า การโจมตีหัวใจของอุตสาหกรรมน้ำมันซาอุฯ เป็นการทดสอบเจตจำนงของโลกอย่างแท้จริง และทรงเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศแสดงจุดยืนที่หนักแน่น

    ก่อนหน้านั้นในวันอังคาร เจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงาน ประกาศว่า ผลผลิตน้ำมันของซาอุฯ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในปลายเดือนนี้ และว่า คณะสอบสวนนานาชาติ รวมถึงจากองค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมการสอบสวนด้วย เนื่องจากซาอุฯ ต้องการหลักฐานพิสูจน์บนมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างสากลและเป็นมืออาชีพ หลักฐานเหล่านี้จะนำเสนอก่อนหน้าปอมเปโอมาถึง

    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมีกำหนดเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายโมฮัมหมัด เพื่อหารือมาตรการตอบโต้การโจมตี ที่สหรัฐระบุว่ามีการใช้มิสไซล์ครูซจากอิหร่านด้วย เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีว่า สหรัฐจะเสนอหลักฐานต่อสมัชชาใหญ่ยูเอ็นสัปดาห์หน้า

    รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ กล่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคารว่า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัล์ ทรัมป์ ได้กล่าวไว้ สหรัฐไม่ต้องการทำสงครามกับใคร แต่สหรัฐก็เตรียมพร้อม

    เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ยังคงยืนกรานเช่นเดิมว่าอิหร่านไม่เกี่ยวข้อง แต่เป็นฝีมือของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เขาบอกว่าการโจมตีของฮูตีเป็น "การส่งสัญญาณเตือน" ถึงสงครามขนาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อตอบโต้ที่ซาอุฯ แทรกแซงเยเมน

    สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานด้วยว่า เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลอิหร่านได้ส่งบันทึกอย่างเป็นทางการถึงสหรัฐผ่านสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ที่ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐ ชี้แจงว่า อิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุฯ พร้อมกันยังเตือนว่า อิหร่านจะตอบโต้การดำเนินการใดๆ ที่กระทำต่ออิหร่านโดยทันที และขอบเขตของการตอบโต้จะไม่จำกัดเพียงแค่คำขู่

    เมื่อวันอังคาร ทรัมป์เผยกับผู้สื่อข่าวแล้วว่า เขาไม่อยากพบกับประธานาธิบดีโรฮานีของอิหร่านอีกต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้ทรัมป์เปิดทางสำหรับการเจรจานอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์กสัปดาห์หน้า แต่อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศชัดว่าจะไม่มีการเจรจากับสหรัฐไม่ว่าในระดับใด จนกว่าสหรัฐจะกลับเข้าสู่ความตกลงนิวเคลียร์ที่ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวเมื่อปีที่แล้ว แล้วรื้อฟื้นการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างเต็มสูบ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"