26 ก.ย.62 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความกรณีการเสียชีวิตของ "ลัลลาเบล" สาวพริตตี้ว่า เธอตายในสังคมทุนนิยมสามานย์ ข่าวพริตตี้สาวเสียชีวิตเป็นข่าวโด่งดัง แต่แปลกที่ผู้คนในสังคมถามไถ่กันเพียง"ความตาย"ของเด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใจจดใจจ่อกันเพียงว่าเธอตายด้วยสาเหตุอะไร ใครทำให้ตาย ตายเวลาเท่าไหร่?

เมื่อสังคมได้รับรู้และได้เสพความอยากนี้แล้ว ข่าวของเธอก็จะเลือนหายไปเหมือนประเทศนี้ไม่เคยเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น จนกว่าความตายของพริ้ตตี้คนใหม่จะเกิดขึ้นอีกสังคมก็จะตื่นเต้นกันอีกครั้งหนึ่ง สังคมที่สังเวยชีวิตเด็กสาวอายุ 25 ปี ด้วยแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 400 มิลลิกรัม ในความเห็นผมเป็น"สังคมทราม"

ผมในฐานะนักกฎหมาย ก็มีสื่อสอบถามเรื่องคดีนี้มาเยอะ ผมไม่แสดงความเห็นอะไร แต่พอประเมินสถานการณ์ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น สังคมนี้ เราไม่สนใจกันจริงๆหรือครับว่า ทำไมเด็กหนุ่มสาวในวัยบริสุทธิ์ต้องไปกินเหล้าแลกเงินจนตัวตาย เราไม่คิดในมุมกลับหรือครับว่า ถ้าเด็กหนุ่มสาวนั้นเป็นลูกหลานเรา เราจะทำอย่างไร เราคิดกันเพียงว่า ก็เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกหลานเราแต่เป็นลูกหลานของคนอื่น ถ้าเราคิดกันเพียงนี้ ผมก็ยังจะเรียกสังคมนี้ว่าเป็นสังคมทรามเหมือนเดิม

อย่าห่วงท่าน ส.ส.ท่าน ส.ว.หรือท่านรัฐมนตรีเลยครับ เพราะแต่ละท่านมีทรัพย์สินเป็นพันๆล้านลูกหลานของท่านคงไม่ลำบากถึงขนาดต้องกินเหล้าแลกเงินหรอก อย่างดีก็จ้างพริตตี้มากินเหล้าด้วย เงินของท่านเหล่านั้นเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็นำมาฟาดหัวคนจนคนละ 500 เข้าไปเป็นผู้แทน การที่พริตตี้กินเหล้าแลกเงินจนตัวตายปัญหานี้ไม่อยู่ในสมองของท่านหรอก

ผมถามจริงๆเถอะ เราคนไทยได้ยินท่านส.ส./สว./รัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งท่านนายกรัฐมนตรี เผยอริมฝีปากพูดถึงเรื่องนี้สักแอะบ้างหรือยัง ท่านอาจคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กแต่สำหรับผมเรื่องนี้ถือเป็นความเป็นความตาย ถือเป็นความล่มสลายของสังคมเลยทีเดียว ผมเรียกสังคมที่เด็กสาวต้องกินเหล้าแลกเงินจนตัวตายว่าเป็นสังคมที่เลวทรามต่ำช้าหรือ "สังคมทุนนิยมสามานย์"

ในฐานะคนไทยที่เกิดร่วมสังคมผมก็ต้องร่วมรับผิดชอบกับการเสียชีวิตของเพื่อนในสังคมของผม แม้ความรับผิดชอบของผมไม่เท่ากับของท่านส.ส./สว./รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี แต่ผมก็ต้องขอขมาต่อดวงวิญญาณของพริตตี้ที่เสียชีวิต ขอให้ดวงวิญญาณเธอสู่สุคติครับ