อย่าทะเลาะเรื่องตั้งชื่อสะพาน'ไพศาล'แนะแนวทางพัฒนาภาคใต้สานเจตนารมณ์'ป๋าเปรม'


เพิ่มเพื่อน    


17ม.ค.63-นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี  โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol มีเนื้อหาดังนี้
อย่าไปเสียเวลาทะเลาะกันเรื่อง การขอให้สร้างสะพานแล้วตั้งชื่อเป็นสะพานจันทร์โอชาเลยครับ
ถ้าเสนอตั้งชื่อแล้วทำได้จริงก็เอาเลย
ผมก็ขอเสนอให้สร้างถนนสาย เชื่อมจากสนามบินหาดใหญ่มาที่ชายทะเลสาบสงขลา
จะให้ตั้งชื่ออย่างไรก็ได้ทั้งนั้น
ที่บอกว่าอย่าทะเลาะกันเลยเสียเวลาเปล่านั้น เพราะต้องไปดูงบประมาณ ถ้าไม่มีระบุไว้เป็นงบลงทุนในงบประมาณแล้วก็ทำไม่ได้
ต้องเร่งสร้างถนนเชื่อม สนามบินหาดใหญ่มายังชายทะเลสาบสงขลา ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะทำให้การพัฒนา การลงทุน การค้าขายท่องเที่ยว จังหวัดรอบทะเลสาบสงขลาคือสงขลานครศรีธรรมราชและพัทลุงเฟื่องฟูอย่างแน่นอนและจะเป็นฐานสำคัญที่ค้ำยัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มั่นคงปลอดภัย
เชื่อว่าอีกไม่นานการลงทุนจะหลั่งไหลไปพื้นที่นี้อย่างแน่นอน

จากนั้นนายไพศาลโพสต์อีกว่า ก่อนอสัญกรรม ป๋าเปรมได้ฝากฝังธุระไว้ประการหนึ่งคือ ให้หานักลงทุน มาลงทุนพัฒนาพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลา คือสงขลา นครศรีธรรมราชและพัทลุงให้เจริญรุ่งเรืองมั่นคงมั่งคั่งเพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการค้ำยัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีการพัฒนารุ่งเรืองและมั่งคั่งต่อไป
นี่คือความคิดเชิงยุทธศาสตร์ของป๋าเปรม ชุดสุดท้ายในชีวิตของท่านที่ชาวสงขลา ชาวภาคใต้และชาวไทย พึงร่วมใจกัน ช่วยกันทำให้สำเร็จ
ขอให้พี่น้องประชาชนรอบทะเลสาบสงขลาและพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งพี่น้องทั่วภาคใต้ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสนับสนุน ให้การดำเนินงานเรื่องนี้ก้าวหน้าไปให้ประสบความสำเร็จเถิด
ถ้าทำได้สำเร็จ เรื่องนี้ จะเป็นเหตุปัจจัยสำคัญในการพัฒนาภาคใต้ซึ่งถูกทอดทิ้งมาช้านานแล้ว
เพราะหลังจากรัฐบาลท่านชวน หลีกภัย ได้สร้างถนน 4 เลนทั่วภาคใต้แล้วหลังจากนั้นมาก็ไม่มีการพัฒนาอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
อย่าทำให้พี่น้องประชาชนภาคใต้รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งเป็นอันขาด

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"