ทำเนียบขาวขวาง 'โบลตัน' ให้การซัด 'ทรัมป์'


เพิ่มเพื่อน    

ทีมทนายความของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขัดขวางความพยายามของพรรคเดโมแครตที่ต้องการให้เรียก "จอห์น โบลตัน" อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าให้การในการไต่สวนข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนทรัมป์ในวุฒิสภา รีพับลิกันเร่งโหวตศุกร์นี้โดยไม่เรียกพยานให้การแม้แต่รายเดียว

แฟ้มภาพ จอห์น โบลตัน

    ความคืบหน้าของกระบวนการไต่สวนในวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม เกิดขึ้นควบคู่กับการเปิดเผยว่าทำเนียบขาวส่งจดหมายเตือนไปยังทนายความของจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวที่โดนทรัมป์ปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ว่าหนังสือบันทึกความทรงจำ "The Room Where it Happened" ของเขามีเนื้อหาละเมิดกฎหมายความลับของทางราชการ และห้ามตีพิมพ์

    จดหมายเตือนฉบับนี้ส่งถึงทนายความของโบลตันเมื่อวันที่ 23 มกราคม แต่เพิ่งเป็นข่าวเมื่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสซี) แถลงในวันพุธว่า หลังการตรวจทานร่างเบื้องต้น ตามระเบียบขั้นตอนเมื่อลูกจ้างของทำเนียบขาวประพันธ์หนังสือ ก็พบว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่เป็นข้อมูลลับจำนวนมาก "ข้อมูลบางอย่างจัดอยู่ในระดับลับสุดยอด" เอ็นเอสซีกล่าวเตือน

    รายงานกล่าวว่า หนังสือของโบลตันเปิดโปงว่าประธานาธิบดีทรัมป์บอกกับเขาด้วยตนเองเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนนั้นเกี่ยวโยงโดยตรงกับข้อเรียกร้องให้ยูเครนสอบสวนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองของทรัมป์ ด้วยข้อกล่าวหาคอร์รัปชันที่ไม่มีมูล คำกล่าวอ้างนี้สอดคล้องกับข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนทรัมป์ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม

    ทรัมป์ทวีตโจมตีโบลตันเมื่อวันพุธว่า อดีตผู้ช่วยของเขารายนี้จะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นข้อกล่าวหาที่สร้างความเสียหายแก่ตัวเขาในหนังสือที่ไม่เป็นความจริงและน่ารังเกียจ สาเหตุเป็นเพราะโบลตันโดนเขาปลดจากตำแหน่ง และยังอ้างด้วยว่า หากเขาฟังคำแนะนำของโบลตัน สหรัฐคงเผชิญสงครามโลกครั้งที่ 6 ไปแล้ว

    การงัดข้อกันในวุฒิสภาระหว่าง ส.ว.เดโมแครตและรีพับลิกันเกี่ยวกับการเรียกโบลตันเข้าให้การนั้นดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อสมาชิกสลับกันตั้งคำถามเป็นลายลักษณ์อักษรต่อฝ่ายกฎหมายของเดโมแครต 7 คนจากสภาล่าง และทนายความของทำเนียบขาว โดยมีผู้พิพากษาจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกา ทำหน้าที่ประธานอ่านคำถาม

    ส.ว.มีกำหนดประชุมกันอีกทีเวลา 13.00 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยชัค ชูเมอร์ ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครต ยอมรับว่า การระดมเสียงสนับสนุนให้มากพอเพื่อเรียกโบลตันเข้าให้การนั้นเป็นการต่อสู้ที่ยากเย็นยิ่ง

    พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภานี้ด้วยจำนวน ส.ว. 53 คน ส่วนเดโมแครตมี 47 คน พวกเขาต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.รีพับลิกัน 4 คน จึงจะเรียกโบลตันซึ่งประกาศว่าเขาพร้อมเข้าให้การต่อคองเกรส มาให้การได้

    ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ ส.ว.รีพับลิกันคัดค้านการเรียกพยานเข้าให้การในการไต่สวนเพื่อถอดถอนเขา ซึ่งวางแผนจะลงมติกันในวันศุกร์นี้ โดยไม่ได้เรียกพยานเข้าให้การแม้แต่รายเดียว และเสียงข้างมากจะลงคะแนนสนับสนุนทรัมป์อย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อเปิดทางสะดวกให้ทรัมป์แถลงนโยบายประจำปีอย่างสบายใจในวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์

    จอห์น บาร์ราสโซ ส.ว.รีพับลิกันจากไวโอมิง ตอกย้ำจุดยืนของพรรคที่คัดค้านการเรียกพยานเข้าให้การ โดยบอกว่าอเมริการับฟังมามากพอแล้ว ส่วนทำเนียบขาวยืนยันว่าจะคัดค้านการให้การแน่นอนและการต่อสู้ก็จะต้องไปจบในชั้นศาล ซึ่งจะเสียเวลาอีกหลายเดือน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"