ตุรกีพิโรธ กองทัพซีเรียยิงปืนใหญ่ถล่มที่มั่นของฝ่ายตุรกีในจังหวัดอิดลิบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันจันทร์ ฆ่าทหารตุรกี 4 นาย ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน สั่งปืนใหญ่ตอบโต้ทันควัน พร้อมเตือนรัสเซียอย่าขวางทาง กลุ่มสิทธิเผยทหารซีเรียตายอย่างน้อย 13 แม้ตุรกีจะโวว่าฆ่าได้ 35 นาย

กลุ่มควันลอยขึ้นจากเป้าหมายการโจมตีทางอากาศที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเครื่องบินรบรัสเซียและซีเรีย ในเมืองซาร์มิน ทางเหนือของจังหวัดอิดลิบ เมื่อวันอาทิตย์

    รายงานเอเอฟพีวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เผยด้วยว่า การโจมตีทางอากาศในพื้นที่เดียวกันนั้นทำให้พลเรือนสังเวยชีวิตอย่างน้อย 9 รายด้วย

    การยิงปืนใหญ่ตอบโต้กันระหว่างตุรกีกับซีเรียครั้งนี้ทำให้เกิดการล้มตายมากที่สุดนับแต่ตุรกีส่งทหารมาวางกำลังในซีเรียเมื่อปี 2559 กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียเผยว่า การปะทะเริ่มต้นตั้งแต่คืนวันอาทิตย์เมื่อกองทัพซีเรียยิงปืนใหญ่โจมตีที่มั่นของตุรกีในจังหวัดอิดลิบ

    กระทรวงกลาโหมตุรกีกล่าวว่า มีทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 9 นาย ทั้งที่มีการประสานงานก่อนหน้านี้แล้วว่ากำลังพลของตุรกีจะเข้าไปในภูมิภาคนั้น ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกลับกล่าวว่า ตุรกีไม่ได้เตือนล่วงหน้าว่าทหารตุรกีจะเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ

    สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีตุรกีเพิ่งวิจารณ์รัสเซียแบบที่เกิดไม่บ่อยนัก โดยกล่าวหารัสเซียว่าไม่เคารพข้อตกลงเพื่อการป้องกันการรุกโจมตีของซีเรียในเขตอิดลิบ

    ภายหลังสั่งการให้กองทัพยิงตอบโต้ แอร์โดอันก็คุยกับผู้สื่อข่าวที่นครอิสตันบูลก่อนออกเดินทางเยือนยูเครนในวันจันทร์ว่า มีทหารซีเรียโดนฆ่าตาย 30-35 นาย จากการโจมตีเป้าหมาย 40 จุด และปฏิบัติการตอบโต้ยังดำเนินอยู่

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มสังเกตการณ์ฯ กล่าวว่า ตุรกียิงจรวดตอบโต้กองทัพของรัฐบาลซีเรียทั้งที่จังหวัดอิดลิบ และจังหวัดฮามาและลาตาเกียที่อยู่ติดกัน ฆ่าทหารซีเรียอย่างน้อย 13 นาย บาดเจ็บอีก 20 นาย แต่รายงานของสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียกลับอ้างว่าไม่มีทหารซีเรียเสียชีวิตแม้แต่นายเดียว

    แอร์โดอันบอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่ตุรกีจะนิ่งเงียบเมื่อทหารของตนโดนฆ่าตาย พร้อมกับเตือนรัสเซียว่าอย่าขวางทางปฏิบัติการตอบโต้ของตุรกี

    ซีเอ็นเอ็นเติร์กอ้างคำพูดของโอเมอร์ เซลิก โฆษกพรรครัฐบาลของแอร์โดอันว่า การโจมตีทหารตุรกีและการรุกโจมตีของรัฐบาลซีเรียโดยทั่วไป ดำเนินการภายใต้การคุ้มครองของรัสเซีย รัสเซียควรยกเลิกการคุ้มครองกองกำลังของซีเรียที่โจมตีทหารตุรกีในภูมิภาคนั้น "เป้าหมายของเราไม่ใช่รัสเซีย เป้าหมายของเราคือกองกำลังของรัฐบาลในภูมิภาคนั้นที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้" เขากล่าว

    ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า เหตุการณ์รุนแรงในจังหวัดอิดลิบนับแต่เดือนธันวาคมทำให้ชาวเมืองไร้ถิ่นฐานมากกว่า 388,000 คน จำนวนมากอพยพไปยังชายแดนตุรกี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เพิ่งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสู้รบ ทว่าการโจมตีทางอากาศ ซึ่งจำนวนมากเป็นปฏิบัติการของเครื่องบินรัสเซีย ยังคงดำเนินต่อไป

    เมื่อวันจันทร์ กลุ่มสังเกตการณ์ฯ เผยว่า การโจมตีทางอากาศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย คร่าชีวิตพลเรือนอีกอย่างน้อย 9 ราย วันก่อนหน้านั้นการโจมตีแบบเดียวกันก็เพิ่งสังหารพลเรือนไป 14 ราย ผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นชาวบ้านไร้ถิ่นฐานที่รถยนต์ของพวกเขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของจรวด แต่คำแถลงไม่ระบุว่าจรวดนี้เป็นของฝ่ายใด ชาวบ้านเหล่านี้เพิ่งอพยพออกจากพื้นที่ปะทะกันในจังหวัดอาเลปโป ทางฝั่งตะวันออกของอิดลิบ

    ช่วงหลายเดือนมานี้ กองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ที่มีรัสเซียหนุนหลัง กำลังรุกคืบขึ้นเหนือเพื่อไปยังเมืองอาเลปโป โดยมีอิดลิบเป็นทางผ่าน แต่ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับตุรกีปี 2561 อนุญาตให้ตุรกีวางกำลังทหารที่ด่านสังเกตการณ์รอบเมืองอิดลิบได้.