ผู้ว่าฯโคราชสรุปสถานการณ์เหตุกราดยิง พร้อมเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยผู้สูญเสีย


เพิ่มเพื่อน    

10 ก.พ. 63 – ที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงค่ำของเมื่อคืนวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายแพทย์นรินทร์รัชต์  พัชญาคามินทร์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และพัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัดนครราชสีมา  ยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา   แถลงข่าวข้อมูลสถานการณ์เหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุยิงประชาชนว่า  จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง  30 รายและบาดเจ็บจำนวน 58 ราย โดยมี 9 รายอยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งในจำนวนนี้ 3 รายไม่รู้สึกตัว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  1 นายและประชาชน 2 ราย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาจนยุติลงแล้ว นำมาซึ่งความเสียใจที่มีความสูญเสียประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก  

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตาและห่วงใย  ผู้ประสบเหตุทั้งเสียชีวิต บาดเจ็บ และญาติพี่น้อง ตลอดจนพสกนิกรชาวจังหวัดนครราชสีมา จึงทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ มาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ และรับทราบสถานการณ์เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่  พระราชทานพวงหรีดให้แก่ผู้เสียชีวิต และรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งในวันนี้ ( 10 ก.พ.) พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์ ประธานองคมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลศพผู้เสียชีวิต ที่วัดสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นอกจากนั้นยังพระราชทานโรงครัวให้แก่จิตอาสาและผู้ปฏิบัติงานในการฟื้นฟูพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ตลอดจนชาวจังหวัดนครราชสีมาอย่างหาที่สุดมิได้
 
สรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพอสังเขป ดังนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63 เวลาประมาณ 15.00 น. จ.ส.อ.จักรพันธ์  ถมมา ได้ใช้อาวุธปืนยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ และนางอนงค์  มิตรจันทร์ เสียชีวิต และได้แย่งชิงอาวุธปืนพร้อมยานพาหนะจากค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ซึ่งระหว่างทางได้กราดยิงประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายก่อนหลบหนีเข้าไปในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 โคราช ในเวลาประมาณ 17.00 น.   ซึ่งในขณะนั้นมีประชาชนอยู่ในห้างเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้พยายามเข้าระงับเหตุ และมีการปะทะกัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.10 น. (วันที่ 9 ก.พ. 63) จึงสามารถคลี่คลายสถานการณ์ลงได้  สรุปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 30 คน (รวมผู้ก่อเหตุ) และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน  58 คน        
 
นพ.นรินทร์รัชต์  พิชญคามินทร์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า ข้อมูลจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  ณ  เวลา 15.20 น. มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 คน ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 30  คน  อยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา    21 คน  รพ.ค่ายสุรนารี   4  คนรพ.เซ็นต์เมรี่   1 คน รพ.กรุงเทพราชสีมา  3 คน  รพ. ป.แพทย์   1 คน  ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวและกลับบ้านแล้ว  28 คน รวมผู้ประสบเหตุทั้งหมด   88 คน
 
สำหรับความช่วยเหลือเบื้องต้น จังหวัดจะดูแลเรื่องการจัดพิธีศพ ที่วัดสามัคคี แต่สำหรับผู้เสียชีวิตที่มาจากต่างจังหวัด ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ดูแลจัดที่พักให้สำหรับญาติผู้เสียชีวิตที่จะเดินทางมาร่วมงานที่กองบิน 1 ซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 120 คน วันนี้มีญาติเดินทางมาพักแล้ว 30 คน และจะช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้านอื่น ๆ อีก สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ และสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 เตรียมการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และครอบครัวอย่างเต็มที่ โดยกระบวนการให้ความช่วยเหลือ มีดังนี้

ให้นักสังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อสอบถามความต้องการ สัมภาษณ์เก็บข้อมูล ประเมินสภาพปัญหา พิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นรายกรณีและติดตามผลหลังการช่วยเหลือ
 
สำหรับแผนการให้ความช่วยเหลือและรูปแบบการให้บริการ  1.กรณีผู้เสียชีวิต เป็นหัวหน้าครอบครัว พิจารณาช่วยเหลือ เป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว เงินสงเคราะห์เด็กสำหรับบุตรผู้เสียชีวิตที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ฝึกอาชีพให้กับสมาชิกในครอบครัว 2.กรณีเด็กและเยาวชนพิจารณาช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาเด็กหรือพิจารณาเข้าร่วมโครงการครอบครัวอุปถัมภ์ 3.กรณีผู้เสียชีวิตมีบิดา-มารดาสูงอายุ พิจารณาตรวจสอบสิทธิการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ/ทุนฌาปนกิจผู้สูงอายุ 4.กรณีผู้ได้รับบาดเจ็บและภายหลังการรักษามีภาวะพิการ พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามสิทธิคนพิการ อาทิแนะนำการเข้าสู่กระบวนการ ออกบัตรคนพิการ เบี้ยยังชีพคนพิการ การฝึกอาชีพสำหรับคนพิการ เงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพ โดยจะมีการมอบสิ่งของจำเป็น เช่นเครื่องอุปโภคบริโภคในการดำรงชีพให้ด้วย
 
นอกจากนี้ จังหวัดนครราชสีมา เปิดรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธา ที่ประสงค์จะช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์เทอร์มินอล 21 โคราช ทางธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 โดยจังหวัดนครราชสีมา “ หมายเลขบัญชี 678-9-97951-4.
                                             


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"