นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ประกาศกร้าวว่ากัมพูชาจะไม่ยอมก้มหัวให้สหภาพยุโรป ที่เตรียมประกาศผลการตัดสินใจในวันพุธว่าจะยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าของกัมพูชาหรือไม่ เพื่อลงโทษการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    กัมพูชาได้รับประโยชน์จากโครงการสิทธิพิเศษด้านภาษี "ทุกอย่างยกเว้นอาวุธ" (อีบีเอ) ของสหภาพยุโรป (อียู) ที่อนุญาตให้กัมพูชาส่งออกสินค้าส่วนใหญ่ไปอียูได้โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ที่ผ่านมาอียูขู่ว่าจะระงับสิทธิพิเศษที่ว่านี้ สืบเนื่องจากความวิตกเรื่องที่ฮุน เซน ปราบปรามฝ่ายค้าน, องค์กรเอกชน และสื่อมวลชน

    อียูเรียกร้องมาโดยตลอดให้รัฐบาลกัมพูชาถอนข้อกล่าวหาต่อเขม โสกา ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน กู้ชาติกัมพูชา ที่โดนศาลสั่งยุบพรรค และตัวเขาถูกฟ้องฐานพยายามก่อกบฏโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่หลายฝ่ายมองว่ามีแรงจูงใจจากการเมือง โดยวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ อียูจะประกาศผลการตัดสินใจว่าจะระงับสิทธิพิเศษดังกล่าวหรือไม่

    ระหว่างกล่าวปราศรัยเมื่อวันอังคาร นายกฯ ฮุน เซน ซึ่งครองอำนาจมานานกว่า 35 ปี กล่าวว่า เขาจะไม่ยอมทำตามความต้องการของอียู "ผมไม่จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ใดๆ เพื่อร้องขอพวกเขาคงไว้หรือถอน (อีบีเอ) สิทธิอยู่ในมือของพวกเขา โปรดตัดสินใจตามความเหมาะสม"

    "เพราะฉะนั้น เราเรียกร้องประชาชนกัมพูชาลุกขึ้นมาปกป้องเอกราช, อธิปไตยและสันติสุขของกัมพูชา พวกเราจงอย่าก้มหัวให้ใคร เราต้องทำงานหนักเพื่ออยู่รอด" ฮุน เซน ปลุกเร้าแรงงานในโรงงานสิ่งทอ "เราอยากเป็นมิตรและหุ้นส่วนกับทุกประเทศในโลก แต่หากพวกเขาไม่เข้าใจเราและต้องการบังคับเรา เราก็ไม่เห็นด้วย พวกเราผ่านสงคราม ผ่านโศกนาฏกรรมมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่พวกเราก็ไม่ตาย"

    อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นภาคที่จ้างงานมากที่สุดในกัมพูชา หรือมีแรงงานมากกว่า 700,000 คน มูลค่าการส่งออกสิ่งทอไปอียูเมื่อปี 2561 นั้นอยู่ที่ 5,400 ล้านดอลลาร์ โดยเว็บไซต์ของรัฐสภายุโรประบุไว้แค่ว่า การถอนอีบีเอจะกระทบสินค้าบางอย่าง แต่ไม่รวมข้าว.