ฟิลิปปินส์ระทึก อดีตยามโกรธแค้นโดนเลิกจ้าง ใช้ปืนบุกยิงยามของห้างในกรุงมะนิลาบาดเจ็บ แล้วจับตัวประกันไว้ภายในห้าง 30 คน ตำรวจเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน หัวหน้าแถลงขอโทษลูกน้องเก่า พร้อมประกาศลาออก สุดท้ายเหตุการณ์จบลงได้โดยไม่นองเลือด

หน่วยสวาทเตรียมบุกเข้าไปภายในศูนย์การค้าชานกรุงมะนิลา ขณะเกิดเหตุจับตัวประกันเมื่อวันจันทร์

    เกิดเหตุระทึกขวัญในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม เมื่อคนร้ายใช้อาวุธปืนพกบุกเข้าไปในศูนย์การค้า วี-มอลล์ ซึ่งอยู่ในเขตซานฮวนซิตีของกรุงมะนิลา แล้วยิงเหยื่อคนหนึ่ง ก่อนที่จะบุกเข้าไปจับผู้คนภายในไว้เป็นตัวประกันอยู่ในสำนักงาน

     ขณะเกิดเหตุภายในห้างมีผู้มาใช้บริการเนืองแน่น ศูนย์การค้าแห่งนี้มีความสูง 4 ชั้นและมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ตำรวจได้ส่งหน่วยสวาทพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจมเข้าไปปิดล้อมที่เกิดเหตุ และอพยพผู้คนภายใน

    ผู้เห็นเหตุการณ์ชื่อจอห์น พอล บัวนาวิสตา บอกกับเอเอฟพีว่า เขาเห็นคนบาดเจ็บคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นยามของศูนย์การค้า ถูกเคลื่อนย้ายด้วยวีลแชร์ออกไป พวกเขาได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด และผู้คนพากันวิ่งหนีโดยบอกว่ามีคนยิงปืน

    ฟรานซิส ซาโมรา นายกเทศมนตรีซานฮวนซิตี กล่าวว่า คนร้ายมีปืนพก 1 กระบอก และร้องตะโกนว่ามีระเบิดมือด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีระเบิดจริงหรือไม่ เขาขังตัวเองในสำนักงานพร้อมกับตัวประกันที่คาดว่ามีประมาณ 30 คน ส่วนยามที่โดนยิงได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลและขณะนี้อาการทรงตัวแล้ว

    "เราจะทำเต็มที่ที่สุดเพื่อให้เรื่องลงนี้ลงเอยอย่างสันติ" ซาโมรากล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่าคนร้ายไม่พอใจที่ถูกไล่ออกจากงาน

    ถึงช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขามอบตัว โดยเจรจาผ่านวิทยุสื่อสารนานหลายชั่วโมง  และได้จัดแถลงข่าวโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทนายจ้างมาแถลงด้วย หัวหน้าของยามคนนี้กล่าวว่า เขาเสียใจอย่างยิ่งต่อความบกพร่องของตนเอง และประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเป็นทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นานคนร้ายก็ยอมมอบตัวโดยดี

    เอเอฟพีรายงานว่า อดีตยามคนนี้ได้รับอนุญาตให้พูดกับนักข่าวสั้นๆ ก่อนที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือจะเข้าจับกุมเขา โดยเขาระบายกับสื่อว่าโดนนายจ้างรังแก ส่วนตัวประกันก็ได้รับอิสรภาพแต่ตำรวจไม่เปิดเผยว่ามีตัวประกันถูกจับตัวไว้กี่คน และมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่

    กรุงมะนิลาเคยเกิดเหตุจับตัวประกันเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2553 คนร้ายเป็นอดีตตำรวจใช้ปืนเอ็ม-16 จี้รถบัสนำเที่ยว เหตุการณ์จบลงเมื่อเขาเริ่มฆ่าตัวประกัน หน่วยคอมมานโดจึงจู่โจม แต่ทำให้ตัวประกันที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเสียชีวิตด้วย 8 คน.