"ปลัด วธ." เผย นัดผู้จัดละครหารือต่อยอดกระแส "ออเจ้า" 11 เม.ย. พร้อมจัดนักประวัติศาสตร์หนุนข้อมูล ระบุ "บุพเพสันนิวาส" ทำนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยช่วงสงกรานต์มากขึ้น

    เมื่อวันที่ 8 เมษายนนี้ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีสั่งการให้รณรงค์วัฒนธรรมไทยต่อยอดกระแสละครบุพเพสันนิวาส ว่า นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ได้นัดผู้จัดละคร ผู้เขียนบทละครจากทุกช่อง และผู้ประพันธ์ ร่วมหารือถึงการทำละครและภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ เพื่อรณรงค์วัฒนธรรมไทยในวันที่ 11 เม.ย.นี้ โดยกระทรวงวัฒนธรรมพร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องของข้อมูลองค์ความรู้ ซึ่งจะให้นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี มาให้ข้อมูล เพื่อให้ละครและภาพยนตร์ที่จะทำมีความสมบูรณ์ เช่นเดียวกับละครบุพเพสันนิวาส ที่ผู้ประพันธ์เป็นนักประวัติศาสตร์ จึงทำให้ละครออกมาน่าสนใจ ส่วนเรื่องงบประมาณเราคงไม่ต้องสนับสนุนอะไรเป็นพิเศษ เพราะผู้จัดละครมีความพร้อมอยู่แล้ว 
    อย่างไรก็ตาม แม้ละครบุพเพสันนิวาสใกล้จะอวสาน ก็ไม่กลัวว่ากระแสจะหายไป เพราะเชื่อว่าผู้จัดละครได้เตรียมต่อยอดเอาไว้แล้ว และจากกระแสดังกล่าวที่ทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์แล้ว ยังพบว่าต่างชาติให้ความสนใจประวัติศาสตร์ไทยเช่นกัน ส่งผลให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น และจะแต่งกายชุดไทยเข้าร่วมงานอีกด้วย
    เมื่อถามถึงกรณีมีการเผยแพร่ผู้หญิงแต่งชุดไทยนั่งในสถานบริการนั้น ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นภาพดังกล่าว แต่คิดว่าคนไทยทุกคนคงต้องช่วยกันในการรักษาวัฒนธรรมไทย ส่วนจะต้องตรวจสอบหรือกำชับเรื่องการแต่งชุดไทยให้เหมาะสมหรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องของจิตสำนึก เพราะชุดไทยเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของทุกคน เชื่อว่าคงคิดกันเองได้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ
    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “แต่งชุดไทย ผ้าไทย เล่นน้ำในวันสงกรานต์” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2561 โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,250 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงการแต่งชุดไทย ผ้าไทย เล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.96 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเป็นการอนุรักษ์ความเป็นไทย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย แสดงถึงความเป็นไทย และอยากให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง เป็นประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ ดูเรียบร้อย สวยงาม รองลงมา ร้อยละ 14.00 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะชุดไทยเป็นชุดที่มีเกียรติ จะใส่มาเล่นน้ำดูไม่เหมาะสม เคลื่อนไหวลำบาก ไม่สะดวก มีราคาค่อนข้างแพง ดูสิ้นเปลือง และกลัวชุดพังเพราะโดนน้ำ ขณะที่บางส่วนระบุว่า การเล่นน้ำของเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยเหมาะกับชุดไทยผ้าไทยเท่าไหร่นัก และร้อยละ 1.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
    ประชาชนร้อยละ 64.24 ยังบอกว่าอยากแต่งชุดไทย ผ้าไทยไปเล่นน้ำสงกรานต์ด้วย ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงข้อเสนอที่จะให้ภาครัฐและภาคเอกชนช่วยรณรงค์การแต่งชุดไทย ผ้าไทย เล่นน้ำสงกรานต์ ร้อยละ 50.40 ระบุว่า ปลูกจิตสำนึกและค่านิยมให้เยาวชน ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมไทย รองลงมา ร้อยละ 48.88 ระบุว่า ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหันมาใส่ชุดไทย ผ้าไทย เล่นน้ำสงกรานต์อย่างทั่วถึง ร้อยละ 35.36 ระบุว่า ให้หน่วยงานภาครัฐจัดกิจกรรมประกวดการแต่งชุดไทย ผ้าไทยในวันสงกรานต์ ร้อยละ 30.40 ระบุว่า ให้ดารา นักร้อง หรือคนที่มีชื่อเสียงร่วมรณรงค์แต่งชุดไทย ผ้าไทย เล่นน้ำสงกรานต์.