"ณัฏฐพล" หนุนอาชีวะร่วมมือกับบริษัทเอกชนชั้นนำ ย้ำต้องไม่ใช่แค่การทำซีเอสอาร์ แต่ต้องทำให้สถานศึกษาเข้มแข็ง


เพิ่มเพื่อน    


23ก.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการชั้นนำกับสถานศึกษาภาครัฐ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในการยกระดับคุณภาพผู้เรียน ซึ่งในเรื่องความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการชั้นนำกับสถานศึกษาภาครัฐนั้น   ถือเป็นเรื่องสำคัญที่มีการวางแผนมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ.แล้ว ทั้งในเรื่องการเชิญชวนภาคเอกชนที่มีความสามารถมาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้เรียนอาชีวศึกษา โดยเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เพราะตนไม่ได้ให้การสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน เป็นเพียงความรับผิดชอบทางสังคมเชิงบรรษัท หรือ ซีเอสอาร์ เท่านั้น แต่ความร่วมมือระหว่างสถาบันอาชีวศึกษากับภาคเอกชนจะต้องทำให้เกิดความร่วมมืออย่างเข้มข้น ซึ่งถือเป็นมิติหนึ่งที่ตนต้องการที่จะเห็นการผลักดันการศึกษาอาชีวะให้มีความเข้มแข็ง เพราะต่อจากนี้ไปอาชีวศึกษาจะต้องเป็นแกนหลักขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะต้องมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเรื่องนี้

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำร่องจับคู่สถานศึกษาอาชีวะ 21 แห่ง กับ 23 สถานประกอบการ ใน 8 กลุ่มวิชาชีพ เช่น Networking Programming Digital Marketing และ P-Tech เป็นต้น โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือว่าตรงกับความต้องการแล้วหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่ถึงกับช้าหรือเร็วเกินไปที่เราได้นำภาคเอกชนชั้นนำมาร่วมมือกับวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่งส่วนตัวตนอยากให้เกิดความร่วมมือแบบนี้อีกให้ครบทุกวิทยาลัย เพราะเชื่อมั่นว่าบริษัทเอกชนมีความรู้และความเชี่ยวชาญที่จะร่วมจัดหลักสูตรการเรียนการสอนสายอาชีพได้ตรงตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ศธ.เองก็ต้องติดตามดูผลการดำเนินงานของแต่ละวิทยาลัย เพื่อที่จะเป็นกระตุ้นขวัญกำลังใจให้แก่ภาคเอกชนที่มาเข้าร่วม รวมถึงต้องจัดให้มีการประเมินผลนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการด้วย ว่า เมื่อเด็กได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงแล้ว เด็กของเราจะสามารถเรียนรู้ได้มากน้อยเพียงใด จะต้องมีการวัดให้เห็นภาพชัดเจน นอกจากนี้ ศธ.จะเร่งจัดงบประมาณเพื่อมาเดินหน้าให้เกิดความร่วมมือในลักษณะนี้ เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่เด็กอาชีวะ

“ผมต้องการให้มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นเยอะ เพราะผมมั่นใจเรื่องความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความรู้ ความสามารถ รวมไปถึงเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณและการจัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาถ่ายทอดความรู้ และผมอยากให้การขับเคลื่อนของอาชีวะมีความคล่องตัวมากกว่า ซึ่ง ศธ.ก็ได้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ อยู่ เพื่อที่ทำให้การขับเคลื่อนอาชีวศึกษา สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศตามเป้าหมายของ ศธ.” รมว.ศธ.กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"