ตร.คุมตัว 'บารมี-สุวรรณา-กรกช-อานนท์' 4 แกนนำม็อบปลดเเอกฝากขังศาลอาญาแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

20 ส.ค.63 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้นำตัว นายบารมี ชัยรัตน์ อายุ 53 ปี น.ส.สุวรรณนา ตาลเหล็ก อายุ 48 ปี นายกรกช แสงเย็นพันธ์ อายุ 27 ปี สามผู้ต้องหาคดีชุมนุมร่วมกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญาครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-31 ส.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องทำการสอบสวนพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา

โดยฝากขังผู้ต้องหาทั้งสามในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด

ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจรโดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันวางตั้งยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร, ร่วมกันตั้งวางหรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 เวลาประมาณ 16.00 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวกได้จัดกิจกรรม“ ใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประธิปไตย” โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยรวมตัวกันบนทางเท้าหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในระหว่างชุมนุม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานและปฏิบัติหน้าที่ ได้เข้าไปชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมไม่ปฏิบัติตาม

โดยนายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้มีการโพสต์ชักชวนประชาชนให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเกิดเหตุโพสต์ว่า “เดี๋ยววันนี้เจอกันแชร์ภาพคนมาร่วมชุมนุมแจ้งว่าใครอยู่บ้านก็รีบมา” ขึ้นเวลาปราศรัยเมื่อเวลา 20.56 น. โดยกล่าวว่า “เลือกตั้งไปแล้วกลับมาเหี้ยกว่าเดิม ยึดอำนาจยึดสิทธิเสรีภาพของเราไปเรียกร้อง 3 ข้อ”

นางสาวสุวรรณา ตาลเหล็ก ผู้ต้องหาที่ 2 ได้มีการโพสต์ชักชวนประชาชนให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขึ้นเวทีปราศรัย เมื่อเวลา 20.00 น. ชักชวนให้ผู้ที่มาชุมนุมที่มีโทรศัพท์มือถือยกขึ้นมาพิมพ์ข้อความไปถึงญาติพี่น้องเราว่าใครมีเสบียงให้นำมาให้พวกเรากินด้วย..ใครมีเพื่อนเป็นตำรวจส่งเสียงหน่อยตำรวจก็มีมือถือโทรไปบอกที่บ้านว่าฉันจะอยู่ที่นี่กับพี่น้องประชาชนทั้งคืน เรามาชุมนุมวันนี้ถึงแม้ว่าฝ่าฝืน พรก. เรากลัว พรก. มั้ยกลัวไม่กลัว...คนเยอะพอสมควร ทั้งคนที่อยู่ที่นี่ อยู่ที่บ้านและคนที่คอยเปิดเฟซบุ๊คเปิดไลฟ์อยู่ยังมาทัน เพราะเรายังอยู่ถึงพรุ่งนี้เช้าใครที่สะดวกอยู่ก็อยู่ด้วยกันเด็กๆ วันนี้เค้าบอกว่าจะเฝ้าประชาธิปไตยและโพสต์ข้อความว่า “ไม่เคยหมดศรัทธาเพราะไม่เคยศรัทธาเลย” มีการแชร์โพสต์ขอสนับสนุนเครื่องดื่มของนางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์และโพสต์ขอสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มในการชุมนุมและปราศรัยเรียกร้อง 3 ข้อและชักชวนให้ผู้ชุมนุมค้างคืน

นายกรกช แสงเย็นพันธ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ได้มีการโพสต์ชักชวนประชาชนให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG เป็นผู้คอยช่วยเหลือในการชุมนุมและเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและสวมใส่ชุดคณะราษฎร์เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและในวันเกิดเหตุตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไปนายกรกช ผู้ต้องหาที่ 3ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย โดยจะเดินไปมางานอยู่ตลอดและมีคนรุ่นน้องที่ร่วมทำกิจกรรมคอยเดินตามอยู่ตลอด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานอำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-3 ไม่ประสงค์ให้การต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้เตรียมที่จะยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน โดยได้ยื่นคัดค้านทั้ง 4 ราย (รวมนายอานนท์ นำภา) ที่ถูกนำฝากขังในวันนี้

จากนั้นเวลา 11.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม จึงควบคุมตัวนายอานนท์ นำภา มาฝากขังถึงศาลอาญา ทั้งนี้ ศาลไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพผู้ต้องหาทั้งหมดในการคุมตัวฝากขังยังห้องเวรชี้ในวันนี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"