เลิกใช้ชื่อมธ.เสียที! 'อดีตรองอธิการฯ'สุดทนฉะม็อบใช้วิชามารบิดเบือนงาน5ธันวา


เพิ่มเพื่อน    

7 ธ.ค. 63 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "Face Book page ของ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์เมื่อวานซืน มีข้อความว่า “เห็นรุ้ง Panusaya Sithijirawatranakul ถามมาว่า งานที่สนามหลวงวันนี้ คนเยอะไหม แอดมินเลยขอนำภาพมุมสูงมาเปรียบเทียบให้ดูค่ะ”

ในโพสต์ แสดงภาพมุมสูงของม็อบวันที่ 19 ก.ย. ที่สนามหลวง กับภาพมุมสูงของงานคล้ายวันพระบรมราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งจัดที่สนามหลวงเช่นเดียวกัน มาเปรียบเทียบกัน

จะเห็นได้ว่าแอดมินของ page แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จงใจนำภาพมุมสูงของงานวันที่ 5 ธ.ค. ในขณะที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ยังไม่ได้เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวัง และงานพระราชพิธีที่สนามหลวงยังไม่เริ่ม ประชาชนจึงยังไม่เข้าไปในสนามหลวงแต่รอเฝ้ารับเสด็จอยู่ 2 ฝั่งถนนด้านนอกของพระบรมหาราชวัง และรอบนอกของสนามหลวงฝั่งศาลฎีกา (ดังภาพ) จึงเห็นประชาชนอยู่ในสนามหลวงน้อย แต่เนืองแน่นอยู่ด้านนอก ซึ่งในภาพที่แอดมินของ page นำมาลง มองไม่เห็นประชาชนที่อยู่ด้านนอกสนามหลวงเลย

ส่วนภาพม็อบวันที่ 19 กันยายน เลือกภาพในเวลาที่คนเข้ามาร่วมชุมนุมสูงสุด และมุมที่ถ่ายก็เป็นมุมที่ดูมีคนมาร่วมชุมนุมมากที่สุด

ลองดูภาพอื่นของงานวันที่ 5 ธันวาคม ที่นำมาให้ดูหลายๆ ภาพ ที่ล้วนเห็นว่ามีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จ และมาร่วมพิธีมากมายจริงๆ แต่แอดมินของ page แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมไม่นำมาให้ดู

นี่เป็นการกระทำที่ชาวธรรมศาสตร์ที่แท้จริงไม่พึงกระทำ การจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร นั่นแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน แต่การนำความจริงมาบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือพวกตัวเอง ถือได้ว่าเป็นการใช้

“วิชามาร” ที่รังแต่จะทำให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ไม่ใช่เป็นของพวกคุณคนเดียวต้องเสื่อมเสีย 

เลิกใช้ชื่อธรรมศาสตร์เสียที อย่าทำให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่า พวกคุณเป็นตัวแทนของชาวธรรมศาสตร์ทั้งหมด เพราะไม่ใช่ 

ชาวธรรมศาสตร์ไม่ได้เห็นเหมือนกับพวกคุณทั้งหมด

การใช้ชื่อธรรมศาสตร์เป็นชื่อกลุ่ม และชื่อ page ทำกิจกรรมทางการเมือง ทำให้ชาวธรรมศาสตร์รุ่นพี่ๆ ต้องออกมาตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน กันมากมาย เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับพวกคุณ

ความแตกแยกของชาวธรรมศาสตร์เริ่มเกิดขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คำว่า “ ธรรมศาสตร์รักกัน” และ “ธรรมศาสตร์สามัคคี” คลายความขลังลงไปมาก

ชื่อ “ ธรรมศาสตร์” เป็นชื่อที่มีคุณค่า ที่เกิดจากการสะสมชื่อเสียง จากการที่ผลิตบัณทิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติ มากว่า 86 ปี 

ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมี ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานรัฐสภา และเป็นประธานศาลฎีกา 

ในเวลาเดียวกัน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลับไม่เคยให้ความสนใจว่า ใครจะนำชื่อและตราประจำมหาวิยาลัย ไปใช้ทำอะไร

ตัวอย่างเช่น มีคนนำชื่อและตรามหาวิทยาลัยไปใช้ทำสินค้า เช่น กระเป๋า เพื่อขายเป็นธุรกิจส่วนตัว โฆษนาขายอย่างเปิดเผยใน social media มหาวิทยาลัยก็ปล่อยให้ทำได้อย่างสบาย

ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้นำชื่อและตราประจำมหาวิทยาลัยไปใช้ประโยชน์ และกำหนดมาตรการการจัดการกับผู้ที่นำชื่อ ธรรรมศาตร์ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกเขาทำกัน

ท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะผู้บริหาร น่าจะพิจารณาเรื่องนี้ อย่างจริงจังนะครับ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"