ศาลจีนพิพากษาประหารชีวิต ไหล เซี่ยวหมิน อดีตประธานบริษัทบริหารสินทรัพย์ของทางการจีน เมื่อวันอังคาร ฐานคอร์รัปชันและรับสินบนเป็นเงินกว่า 1,788 ล้านหยวนหรือเกือบ 8,300 ล้านบาท กับความผิดฐานมีภรรยาพร้อมกันสองคน

แฟ้มภาพ ไหล เซี่ยวหมิน (กลาง) ขึ้นศาลเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 PHOTO: Handout/Second Intermediate People’s Court

    ศาลประชาชนระดับกลางแห่งเมืองเทียนจินมีคำพิพากษาเมื่อวันอังคารที่ 5 มกราคม ว่าไหล เซี่ยวหมิน อดีตประธานบริษัทบริหารสินทรัพย์ ไชน่าฮัวหรงแอสเซ็ตแมเนจเมนต์ และอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีความผิดฐานรับหรือเรียกรับสินบนรวมมูลค่า 1,788 ล้านหยวน (ราว 8,293 ล้านบาท) ระหว่างปี 2551-2561 ช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบธนาคารระดับสูง

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ไหลเคยรับสารภาพผิดต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ที่สถานีซีซีทีวีนำมาออกอากาศเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ในภาพข่าวนั้นเปิดเผยให้เห็นตู้เซฟและตู้เก็บเอกสารหลายใบที่เก็บเงินสดไว้จำนวนมาก อยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ในกรุงปักกิ่งที่ถูกระบุว่าเป็นของไหล รายการของซีซีทีวียังเผยภาพรถยนต์หรูและทองคำแท่งที่ว่ากันว่าใช้ติดสินบนไหล ซึ่งเคยทำงานในธนาคารกลางและเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการธนาคารของจีนก่อนที่จะไปรับตำแหน่งในบริษัทฮัวหรง

แฟ้มภาพ เงินสดเก็บไว้ในตู้เซฟภายในอพาร์ตเมนต์ของไหล เซี่ยวหมิน ภาพจากรายการของซีซีทีวี Photo: CCTV

    ศาลเมืองเทียนจินกล่าวว่า ไหลใช้ตำแหน่งหน้าที่ของเขาโดยมิชอบเพื่อให้ได้เงินจำนวนมาก สินบนที่เขาได้มานั้นมากมายมหาศาล และพฤติการณ์ของการกระทำความผิดของเขาร้ายแรงอย่างยิ่ง ไหลแสดงให้เห็นถึงเจตนาร้ายอย่างยิ่งยวด

    อดีตประธานบริษัทฮัวหรงที่จดทะเบียนในฮ่องกงและเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของทางการจีน ยังมีความผิดฐานมีภรรยา 2 คนในเวลาเดียวกัน โดยเขาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงคนหนึ่งในฐานะสามีภรรยาเป็นเวลายาวนานทั้งที่มีคู่สมรสแล้ว และทั้งคู่ยังมีบุตรนอกสมรสด้วยกัน

    ฮัวหรงเป็น 1 ใน 4 บริษัทที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 เพื่อสะสางหนี้เสียในระบบการธนาคารของจีน ต่อมาบริษัทขยายเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, การลงทุน และปล่อยกู้

    ไหลโดนปลดพ้นตำแหน่งในฮัวหรงและโดนขับออกจากพรรคในเดือนเมษายน 2561 ภายหลังโดนสอบสวนทุจริต ในคำสารภาพออกทีวี ไหลบอกว่าเขาไม่ได้ใช้เงินสักแดงเดียว เพราะไม่กล้า แค่เก็บเอาไว้ที่อพาร์ตเมนต์ที่เขาเรียกว่า "ซูเปอร์มาร์เก็ต" เพราะเอาเงินเข้าไปเก็บไว้เป็นประจำ.