อยู่ในคุกยิ่งไม่รอด "โจชัว หว่อง" ติดร่างแหขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยที่โดนตำรวจฮ่องกงจับกุมฐาน "บ่อนทำลาย" ตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ด้วย ขณะรัฐบาลสหรัฐขู่ฟ่อจะคว่ำบาตรเพิ่มเติมลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกวาดล้างจับกุมครั้งใหญ่นี้

แฟ้มภาพ โจชัว หว่อง เตรียมขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์ไปขึ้นศาลเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563

    รายงานเอเอฟพีวันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม 2564 กล่าวว่า โจชัว หว่อง แกนนำนักเคลื่อนไหววัย 24 ปี ที่เป็นหน้าตาของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกง กำลังชดใช้โทษจำคุกอยู่ในเรือนจำอยู่ขณะนี้จากความผิดฐานยุยงปลุกปั่นและร่วมการชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว แต่มีรายงานจากแหล่งข่าวที่เป็นนายตำรวจอาวุโสว่า เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่โดนทางการฮ่องกงจับกุมในข้อหาบ่อนทำลายด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่หว่องโดนจับกุมภายใต้ข้อกล่าวหาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกง

    นอกจากนี้ สื่อของฮ่องกงรายงานว่า ทัม ทักชี นักเคลื่อนไหวอีกรายที่โดนคุมขังข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง ก็โดนจับกุมในข้อหาบ่อนทำลายด้วยอีกคนเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี

    เมื่อเช้าวันพุธ ตำรวจฮ่องกงมากกว่า 1,000 นายบุกตรวจค้นและจับกุมนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ 53 ราย ซึ่งรวมถึงพลเมืองอเมริกัน 1 ราย ด้วยข้อหา "บ่อนทำลาย" ตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่จีนออกมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต

    การกวาดล้างครั้งนี้เป็นการเล่นงานฝ่ายที่ขัดแย้งกับปักกิ่งรอบล่าสุดนับแต่ชาวฮ่องกงหลายล้านคนออกมาเดินขบวนประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยบนท้องถนนในปี 2562 การชุมนุมหลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง

    รัฐบาลตะวันตกหลายประเทศกล่าวหาจีนว่าใช้การปราบปรามครั้งนี้เพื่อทำลายเสรีภาพที่จีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ภายใต้หลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" เมื่อครั้งรับมอบเขตปกครองพิเศษแห่งนี้จากเจ้าอาณานิคมอังกฤษ

    ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันพุธ หลังจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผชิญเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองจากการประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าสหรัฐจะไม่นิ่งดูดายในขณะที่ประชาชนชาวฮ่องกงต้องทุกข์ทรมานจากการกดขี่ของคอมมิวนิสต์

    "สหรัฐจะพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัดอื่นๆ ต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือทุกคน ทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโจมตีประชาชนชาวฮ่องกงครั้งนี้" เขากล่าว

    รัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงแล้วหลายราย รวมถึงแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง

    ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยหัว ชุนอิง โฆษก กล่าวปฏิเสธคำขู่ของปอมเปโอว่า "เป็นความบ้าคลั่งครั้งสุดท้าย" ของรัฐบาลสหรัฐที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง "การดำเนินการลักษณะนี้จะถูกประวัติศาสตร์ลงโทษอย่างแน่นอน" เธอกล่าวกับนักข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี

    ก่อนหน้านี้ โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวถึงการควบคุมนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงครั้งนี้ว่า เป็นการโจมตีอย่างร้ายแรงต่อสิทธิเสรีภาพของฮ่องกง และว่า รัฐบาลจีนจงใจทำให้โลกเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกฎหมายความมั่นคง

    รัฐบาลแคนาดา, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ก็ออกแถลงการณ์ประณามเสรีภาพที่ลดน้อยถอยลงของฮ่องกงเช่นกัน และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่โดนควบคุมตัวทั้งหมด

    บุคคลเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เพื่อตัดสินว่าใครควรเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งในสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งบางส่วน ซึ่งฝ่ายค้านหวังจะครองเสียงข้างมากเป็นครั้งแรก การเลือกตั้งถูกเลื่อนจากเดือนกันยายนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากการระบาดของโควิด-19.