ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล เปิดใจสัมภาษณ์ "อาต้อ-ไกรสีห์ แก้ววิมล" นักแสดงอาวุโสที่ "อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ" ยื่นมือช่วยเหลือ หลังมีชีวิตลำบาก ป่วยโรครุมเร้า บางวันต้องอาศัยข้าววัด อยู่ได้ด้วยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท ผ่านรายการ “ถามสุดซอย” ทางช่องเนชั่น ช่อง 22

     “ไม่ได้เล่นละครมา 3 ปี เพราะว่าเราไม่สบาย ร่างกายไม่ไหว ปวดกระดูกปวดข้อ เป็นความดัน เป็นโรคหัวใจ ลิ่มเลือด เป็นไขมัน สิ่งสุดท้ายที่สาหัสคือล้ม หัวไปฟาดกับพื้น สลบ เข้าโรงพยาบาล 7 วัน พอออกมาอยู่บ้านได้อาทิตย์หรือสองอาทิตย์ไม่ทราบ หมดสัญญาบ้านเช่าอีก อาก็หาที่อยู่ใหม่ พอหาที่อยู่ก็นึกถึงโกเขียว เรารู้จักกัน เขาเป็นคนดีมาก เป็นคนมีพระคุณกับอา ก็บอกว่าตอนนี้ไม่สบาย ร่างกายไม่ไหว ขอไปอยู่บ้านโกเขียวได้ไหม โกเขียวบอกว่ามาอยู่ได้ ไม่รังเกียจ แต่บ้านเป็นบ้านคนงาน พี่ต้อจะมาอยู่ได้ไหม ผมก็บอกว่าผมอยู่ได้ ที่เก่าอยู่ไม่ได้แล้ว มันหมดสัญญา ตอนล้มอยู่คนเดียว ภรรยาเลิกกันนานแล้ว มีลูกคนหนึ่ง เป็นลูกสาว อายุ 32 เขาติดต่อมาไม่มากมาย พอเขามีเวลาว่างก็ติดต่อมา เพราะลูกสาวทำงานเขาไม่ได้มีรายได้มากมายพอที่จะช่วยเหลือเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็ช่วยเหลือพอเราอยู่รอดไป ตอนป่วยลูกสาวมาครับ และบอกว่าอยู่ดีๆนะ อย่าให้ล้มนะ ถ้าล้มเดี๋ยวจะเดือดร้อน ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้น แต่เวลาเดินจะเซ ร่างกายก็ไม่แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ กับลูกสาวเรื่องรายได้เขา เราไม่อยากไปเป็นภาระเขาอีกคนหนึ่ง ลูกไม่มีครอบครัว อยู่คนเดียว แต่รายได้คิดดูแล้วเดือนชนเดือน เลยไม่อยากไปรบกวนลูก

 

 

     การใช้ชีวิตตอนนี้บ้านที่อาพัก เรื่องการกินการอยู่ บ้านหลังที่อยู่ ก็แบ่งกับข้าวใส่จานมาให้ ถ้ากลางวันคนทำโรงกลึง เขาก็ซื้ออาหารมาให้เราทาน สองคนนี้ช่วยเหลือเราตลอด วันไหนสองคนนี้ไม่อยู่ ก็ให้เด็กไปวัดขออาหารที่วัดมาทาน ตอนนี้ลำบากสุดๆ ไม่ใช่ที่สุดแต่สุดๆเลย เหมือนเราลบศูนย์ ถ้ามีผู้จัดอยากช่วยชวนไปเล่นละคร ได้ครับ แต่บทอย่าเยอะ เพราะอายุ 75 ปีแล้ว ความจำมันอาจจะถอย สมัยเฟื่องฟูบางวันเล่น 2 เรื่อง มีเล่นกับอั้ม พราว กุหลาบเหนือเมฆ นายตำรวจตรวจหัวใจ ที่เติ้ล ลูกพี่ดวงดาวเป็นพระเอก เรือนแพ อาเล่นหนังจักรๆวงศ์ๆ ให้คุณไพรัช สังวริบุตร ที่จำแม่นคือเล่นกับไชยา มิตรชัย เล่นละครมากี่ 22 ปีครับ เข้าวงการตอนอายุ 50 ช่วงที่ผมมี กับตอนนี้ หน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนั้นมีเงินเก็บหลายแสนบาท

     อามีเงินเก็บเกือบล้าน แต่หมดตัวเพราะถูกโกง ตอนนั้นมีตังค์ เล่นละครสนุกสนานก็อยากทำมั่ง คนบอกว่าทำสิ ดารามีเยอะแยะ ก็เลยเขียนบทขึ้นมา พล็อตเรื่องจนครบ ก็บอกว่าผมมีตังค์อยู่ 5 แสนนะ เขาบอกว่าดาราเอาจากช่อง 7 มา ไม่แพงเกินไป ดาราเขาใหม่ๆก็มี คละๆกันไป ก็เริ่มถ่ายทำ หนังใกล้จบก็ให้เขาไปตัดต่อเสริมโน่นนี่ เอ๊ะทำไมตังค์หมด ทุกอย่างจบแล้ว ทำไมหนังไม่มา รออีกสักเดือน เขาบอกว่าลงเสียงลงอะไร มันก็เลยช้า ก็รอๆไปรู้ข่าวอีกที ตากล้องของเราเอาละครเรื่องนี้ไปขายให้หุ้นส่วนอีกคน ประมาณ 3 แสน พอขายเสร็จ อารู้ข่าว อาโกรธมาก ก็ตามหาตัวเขา เขาหนีไปอยู่เขมร ไปช่วยงานใครไม่รู้ พอกลับมาจะแจ้งตร.จับ ตายแล้ว เขาเสียชีวิต อาก็เลยอโหสิไป เงินก็เหลืออีกไม่เท่าไหร่ อาก็มาทำละครเฉลิมพระเกียรติ วันนั้นเข้าประชุม ประธานนั่งอยู่หัวโต๊ะ มีอีกคนชื่อเจษ บอกว่าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย อาก็หลงเชื่อ เขาบอกว่าสรุปทำ เอาละครเรื่องนี้ให้คุณเจษทำ เขากว้าง เขาเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย พอรับไปปุ๊บ เขาก็พาพวกเราไปเลี้ยง เลี้ยงกันทุกเดือน เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาอ่อยเหยื่อเรา เพื่อให้เราหลงคำพูดเขา พอถามว่าละครไปถึงไหนแล้ว เขาก็บอกว่าอาอยู่เฉยๆ อาเป็นประธาน ละครกำลังทำ เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว อาก็เป็นผู้อำนวยการสร้าง ผ่านไปหลายเดือนเข้า มันไม่อย่างนั้น มารู้ข่าวอีกที ละครเรื่องนั้นแปรพักตร์แล้ว เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนคนเขียนบทใหม่ เปลี่ยนตัวแสดงใหม่ พอเสร็จเรียบร้อย อาจะแจ้งตร. จับ บังเอิญเพื่อนที่รัก สนิทกัน อยู่ในทีมงานเขาด้วย ก็เลยเอาไงดี ก็เฉยไปแล้วกัน โดนโกงหมดเลย โดนคนชื่อเจษโกง

 

 

     พอเริ่มลำบากตั้งแต่ป่วย ไม่มีงานละคร มีเพื่อนในวงการไหม เรื่องนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่าจำไม่ได้ ที่จำได้จำได้อยู่ 3-4 คน อั้ม พัชราภา , นุ่น วรนุช , แอน ทองประสม สำหรับแอนอาเคยเล่นเป็นพ่อเขาในเรื่องอุ้มรัก, นุ่น วรนุช เรื่องกุหลาบเหนือเมฆ ส่วนอั้ม พัชราภา ก็เรื่องพราว เล่นเป็นประธานที่มาประมูลกัน

     อั้มช่วยเหลืออา เหมือนฟ้าบันดาล ฟ้าให้เราเกิด โทรไปที่ดาราวิดีโอ ถามว่ามีเบอร์ของอั้มไหม เขาบอกว่ามี เป็นเบอร์เก่า ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปีแล้ว เขาก็ให้เบอร์มา พอโทรไป ก็เป็นผู้ชายรับ บอกว่าอั้มไม่ได้ใช้เบอร์นี้แล้ว เขาบอกว่าเดี๋ยวเจออั้มจะบอกให้ มีปัญหาหรือมีเรื่องอะไร อาก็บอกว่าผมไม่สบายมาก อั้มเป็นคนดีและใจดี ขอความช่วยเหลือหน่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวจะบอกให้ แล้วมารู้อีกวันว่าคนที่ผมโทรศัพท์คุยเป็นพ่อของอั้ม แล้วอั้มก็ให้คนชื่อเต้จัดการ เต้นั่งรถมาเลย ถือถุงมาใบหนึ่ง ในนั้นเป็นผ้าห่ม อั้มเอาผ้าห่มมาให้ถุงนึง ซองเงิน แต่อย่าบอกจำนวนเลย แล้วก็ถามว่าอาเป็นยังไง จะเอายังไง เต้เป็นคนดีมาก น่ารักมาก เต้บอกว่าเรื่องเงินเดี๋ยวจัดการเข้าแบงก์ อาอยู่คนเดียว แล้วเวลาเดินไปกดเงินอาระวังหน่อย เดี๋ยวทางเราจะดูแลให้ ดีใจ ปลาบปลื้ม ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาแบบนี้แล้วกัน สวรรค์เห็นแล้วกันว่าอั้มเป็นคนดี ช่วยเหลือคนตลอด เดี๋ยวฝากลูกเต้ไปกราบขอบคุณแม่พระของอาต้อด้วย เป็นคนใจบุญ เป็นคนดีมากๆ ไม่ใช่ว่าได้ของเขาแล้วมาเชียร์มาชมนะ เราได้สัมผัสเขาผิวเผินก็รู้แล้วว่าเป็นคนใจดี น่ารัก ช่วยเหลือคนตลอด

 

 

     ได้ติดต่อท่านอื่นด้วยมั้ย ไม่มีแล้วครับ ตอนนี้คิดว่าอยากติดต่อพี่เอก สรพงษ์ ยังติดต่อไม่ได้ ติดต่อบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ก็ติดต่อไม่ได้ กับอั้มนี่เหมือนเรามีดวง พอคุยกับคุณพ่อเขาเสร็จ รุ่งขึ้นเต้โทรมาเลย พอได้ของปุ๊บ อั้มโทรเลย คุยกับอั้มขนลุกเลย อั้มต่อสายมาเอง 3 ครั้งติดๆ ดีใจจนพูดไม่ถูก คุยกับลูกอั้ม น้ำตาตกในเหมือนกัน ดีใจ ซึ้่งใจที่เขามาช่วยเรา เล่นละครด้วยกันไม่กี่เรื่อง เป็นมนุษยธรรม เราขอให้คนอื่นช่วยอาไม่อาย เพราะเวลาเราตกลงมาจะหาใครช่วย เราก็ขอให้คนที่ใจดีช่วยเรา ทำบุญให้เรา นั่นประเสริฐที่สุดแล้ว ขอกราบล่วงหน้าคนที่จะช่วยอาด้วย

     เงินที่คุณอั้มให้มาอยู่ในแบงก์แล้ว เต้จัดการให้หมด ยังไม่หมดครับ แต่อั้มก็บอกว่าเงินค่อยๆใช้ อาเป็นคนใช้เงินวันละ 100 อยู่แล้ว เช้าทานเค้กโรล และนมงาดำ แล้วก็ทานยา นั่นคือมื้อเช้า มื้อเที่ยง อยากกินก๋วยเตี๋ยว ทางนี้ก็เดินไปซื้อมาให้ หรือหลานโกเขียว อยู่รั้วเดียวกัน เขาก็ทำกับข้าว เอามาให้ ทั้งหลานโกเขียว พี่เหนาะ พูดได้เต็มปากว่าเป็นคนมีบุญคุณ เป็นคนต่อชีวิตเรา เราไม่มีเขาก็หาข้าวให้เราทาน ฉะนั้นจำไว้อย่างนึง บุญคุณอย่าลืมเด็ดขาด"

 

 

นอกจากนี้ทางรายการยังได้โฟนอินหาพี่เต้ ช่างแต่งหน้า อั้ม อยู่ในสาย พี่เต้เจออาต้อนานหรือยัง?

     "เคยร่วมงานในละครเรื่องหนึ่ง อาต้อเป็นพ่อของนางเอกอีกคนนึง เท่านั้นเอง วันนั้นพี่เต้ไปทำธุระให้น้องอั้ม แล้วน้องอั้มก็ถามว่าพี่เต้รู้จักอาคนนี้ไหม เขาขอความช่วยเหลือมาจากทางค่ายและติดต่อมาทางเบอร์อั้ม ก็เลยบอกว่ารู้จัก อั้มเลยบอกว่าพี่เต้สะดวกไหม พอดีอั้มติดธุระ พี่เต้ไปดูแลคุณอาให้หน่อยได้ไหม พี่เต้ก็บอกว่าได้ เพราะพี่เต้ว่าง จริงๆ น้องก็กลัวว่าจะมีคนมาหลอกหรือเปล่า แต่ตัวน้องเขาตั้งใจจะช่วยอยู่แล้ว พี่เต้ก็มาหาคุณอาเอง ไปกับน้องหญิง น้องอีกคนนึง วันนั้นอั้มฝากเงินช่วยจำนวนนึง แล้วก็ให้ไปดูแลคุณอาว่าเป็นอะไรบ้าง ต้องการอะไร อาบอกว่าต้องการช่วยฝากลงโซเชียล ให้ประกาศ ที่สำคัญเขาอยู่ตรงนี้มานาน เขาอยากขอความช่วยเหลือ ไม่รู้จะติดต่อใคร แล้วมีคนบอกแนะนำให้ติดต่ออั้ม พี่เต้ก็เลยเป็นตัวแทนว่าจริงไหมเพราะสมัยนี้มีคนติดต่อมาแบบนี้เยอะ พอคุยกับอาแล้วก็เป็นเรื่องจริงทุกอย่าง อย่างน้อยคนวงการเดียวกัน เคยทำงานร่วมกัน ในเมื่อเขาขอมาและมีความจำเป็น อั้มก็เลยมาช่วยตรงนั้น อั้มมีน้ำใจอยู่แล้ว เขาเป็นคนทำบุญเยอะมาก แต่ไม่เคยลงอะไรเลย มีแต่คนในกลุ่มที่ลงกันเองแบบนี้ อยู่วงการเดียวกันก็ต้องช่วยกัน หญิงให้พัดลมและเดี๋ยวจะมีน้องเบนซ์ ปุณยาพร จะซื้อไม้เท้าที่เป็นสามง่ามไปให้นะคะ

     ตอนนี้เราก็ช่วยประมาณนึงก่อน เท่าที่พวกเราทำได้ แต่คิดว่าคุณอาน่าจะมีคนมาช่วยเยอะ เพราะประสบเคราะห์ตรงนี้จริงๆ ไม่ได้มาหลอก คิดว่าน่าจะมีคนมาช่วยอีก แต่พี่เต้เป็นตัวแทนน้องอั้ม เป็นใบเบิกทางให้คนมาช่วยทำบุญกัน เหมือนสะพานบุญช่วยๆกัน"

 

 

โฟนอิน "โกเขียว" ที่ช่วยเหลืออาต้อ ณ วันที่อาต้อลำบากและโทรมาหาโกเขียว ขออาศัยด้วย เป็นยังไงบ้าง?

     “ก็เต็มใจนั่นแหละ แกลำบาก ก็บอกว่าถ้ามีปัญหาก็มาเลย ยินดีรับใช้ทุกอย่าง ผมเห็นแกเป็นคนดี คนแก่ ช่วยได้เราก็ช่วยๆ กันไป ผมก็บอกว่าให้มาดูที่พออยู่ได้ แกก็ชอบ ก็ทำห้องน้ำข้างล่างให้ แกก็อยู่ได้ ความยากลำบากของอาต้อที่ผ่านมาแกก็บอกให้ฟังนั่นแหละ แกบอกว่ารายได้ไม่มี ลำบาก ปกติติดต่อกันไม่บ่อย สองสามวันก็คุยกัน แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่หรอก กับลูกสาวแก ผมเคยเจอกันสองครั้ง ตอนแกมาอยู่ที่นี่ ลูกสาวก็มาหา ได้นั่งคุย นั่งอะไรกัน หลังๆ ลูกสาวก็ไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่ ผมจะดูแลอีกนานไหมอันนี้ก็ไม่แน่นอน ถ้าแกอยู่ได้ก็อยู่ ไม่เป็นไร ก็เหมือนญาติคนนึง แต่ก็บอกแกว่าคนดูแลไม่มี ให้แกพยายามช่วยตัวเอง การกินการอยู่ คนอยู่ที่นั่นเขาก็คอยดูๆ ให้ แกก็ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่หรอก"