จอร์แดนสกัดแผนโค่นราชบัลลังก์ คุมตัวอดีตมกุฎราชกุมาร


เพิ่มเพื่อน    

ทางการจอร์แดนกวาดล้างจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายเมื่อวันเสาร์ เผยอาจเกี่ยวข้องกับแผนโค่นราชบัลลังก์ ขณะที่เจ้าชายฮัมซา บิน ฮุสเซน อดีตมกุฎราชกุมาร อ้างโดนกักบริเวณ แต่กองทัพปัดข่าว พร้อมเตือนอย่าได้เคลื่อนไหวที่กระทบความมั่นคงและเสถียรภาพ สหรัฐและพันธมิตรรีบประกาศหนุนหลังกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2

แฟ้มภาพ เจ้าชายฮัมซา บิน อัลฮุสเซน (ขวา) และเจ้าหญิงนูร์ บิน อาเซม บิน นาเยฟ (ที่ 2 จากขวา) ฉายพระรูปกับกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 (ที่ 2 จากซ้าย) และพระราชินีราเนีย ในพระราชพิธีหมั้นของเจ้าชายฮัมซา เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2546 (Photo by Yusef Allan/Jordan Royal Palace/Getty Images)

    เอเอฟพีอ้างรายงานของวอชิงตันโพสต์เมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายนว่า ทางการจอร์แดนควบคุมตัวอดีตมกุฎราชกุมารและผู้ต้องสงสัยเกือบ 20 คน สืบเนื่องจากพฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่จอร์แดนกล่าวกันว่า "คุกคามความมั่นคงของประเทศ" โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนแผนการโค่นราชบัลลังก์ของกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 "การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังการค้นพบสิ่งที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังกล่าวว่าเป็นแผนอันซับซ้อนและกว้างขวาง" โพสต์อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงในตะวันออกกลางรายหนึ่ง

    ข่าวของรอยเตอร์และบีบีซีอ้างสื่อของทางการจอร์แดนว่า หนึ่งในผู้ที่ถูกควบคุมคือ บัสเซม อวาดัลลาห์ นักเศรษฐศาสตร์ที่จบการศึกษาจากสหรัฐและเป็นบุคคลใกล้ชิดของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 มายาวนาน โดยเขาเคยเป็นรัฐมนตรีคลังและยังเป็นที่ปรึกษาของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

    ขณะเดียวกัน เจ้าชายฮัมซา พระอนุชาต่างมารดาของกษัตริย์ ที่โดนปลดจากตำแหน่งมกุฎราชกุมารเมื่อปี 2547 ทรงเปิดเผยผ่านวิดีโอที่ทนายความส่งถึงบีบีซีเมื่อวันเสาร์ว่า พระองค์กำลังโดนกักบริเวณอยู่ที่วัง และได้รับคำสั่งห้ามติดต่อกับใคร เจ้าชายทรงยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้มีส่วนร่วมในแผนสมคบคิดของต่างชาติ แต่ขณะเดียวกัน ทรงวิจารณ์ผู้ปกครองจอร์แดนปัจจุบันว่าทุจริตประพฤติมิชอบ

    ในรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษ เจ้าชายตรัสว่า ประธานคณะเสนาธิการทหารแห่งกองทัพจอร์แดนมาเข้าพบพระองค์ เพื่อแจ้งว่าพระองค์ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากวัง, ห้ามติดต่อหรือพบกับใคร เพราะในการประชุมที่พระองค์ทรงเข้าร่วมก่อนหน้านี้ หรือในโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับการเสด็จเยือนของพระองค์ มีการวิจารณ์รัฐบาลหรือกษัตริย์ เจ้าชายทรงยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้วิจารณ์เอง

    กระนั้น เจ้าชายฮัมซาตรัสว่า พระองค์ไม่ใช่ผู้ที่รับผิดชอบต่อการพังทลายของการปกครอง, การคอร์รัปชัน และความไร้ความสามารถที่มีอยู่แพร่หลายในโครงสร้างการปกครองของประเทศนี้ในช่วง 15-20 ปีที่ผ่านมาและกำลังแย่ลงเรื่อยๆ ด้วย พระองค์ไม่ใช่ผู้ที่รับผิดชอบต่อการขาดศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบัน "มันมาถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถพูดหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใดโดยไม่โดนรังแก, จับกุม, คุกคาม และข่มขู่" เจ้าชายฮัมซาตรัสในวิดีโอ

    ก่อนหน้านี้ พลตรียูเซฟ ฮูเนตี ประธานคณะเสนาธิการทหาร กล่าวปฏิเสธข่าวที่ว่า เจ้าชายฮัมซา ซึ่งไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดนจับกุม ในคำแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวของทางการ นายทหารผู้นี้กล่าวว่า เจ้าชายเพียงได้รับคำเตือนให้ยุติกิจกรรมที่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อพุ่งเป้าที่ความมั่นคงและเสถียรภาพของจอร์แดน

    ตัวเจ้าชายฮัมซาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสถาบันกษัตริย์ของจอร์แดน และถูกลดบทบาทมานานหลายปี แต่การเคลื่อนไหวของทางการจอร์แดนครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อพระวงศ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ฮัชไมต์มากที่สุดตั้งแต่กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 เสด็จขึ้นครองราชย์

    เจ้าชายองค์นี้เป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ฮุสเซนกับพระราชินีนูร์ที่เป็นชาวอเมริกัน กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 ทรงแต่งตั้งพระอนุชาต่างมารดาผู้นี้เป็นมกุฎราชกุมารในปี 2542 ตามพระราชประสงค์ของพระราชบิดาของทั้งสอง แต่ในปี 2547 กษัตริย์ก็ทรงปลดเจ้าชายแล้วทรงแต่งตั้งเจ้าชายฮุสเซน พระราชโอรสองค์โตของพระองค์ เป็นรัชทายาทแทน

    ทางการจอร์แดนเริ่มมีความกังวลมากขึ้นที่เจ้าชายฮัมซาทรงสร้างความสัมพันธ์กับพวกที่แสดงความอึดอึดขัดข้องใจในชนเผ่าที่ทรงอิทธิพล ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ คนเหล่านี้เพิ่งเรียกร้องให้ประชาชนประท้วงต่อต้านการคอร์รัปชันในประเทศซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้อัตราการว่างงานสูงเป็นสถิติและความยากจนทวีความรุนแรงขึ้น

    รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งที่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในจอร์แดนว่า แผนการที่ถูกระบุว่ากว้างขวางและน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้เกิดในระยะอันใกล้ นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับ "การก่อรัฐประหารที่เป็นรูปธรรม" แต่เกี่ยวข้องกับแผนการกระตุ้นให้มีการลุกฮือประท้วงของประชาชนโดยมีพวกชนเผ่าหนุนหลัง และทางการจอร์แดนกำลังสอบสวนด้วยว่ามีชาวต่างชาติเข้าร่วมด้วยหรือไม่

    อดีตเจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐรู้ว่าบัสเซม อวาดัลลาห์ ทำงานถวายเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน นักสังเกตการณ์ที่ฉลาดย่อมบอกว่า ถ้าบุคคลที่ใกล้ชิดกับมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียระดับนี้เกี่ยวข้องด้วย พระองค์ก็ต้องรู้

    สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบียประกาศว่าพวกเขาให้การสนับสนุนเต็มที่ต่อกษัตริย์อับดุลลาห์และการตัดสินพระทัยของพระองค์เพื่อรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพ รัฐบาลอียิปต์, เลบานอน, บาห์เรน, อิรัก, คูเวต และกาตาร์ ก็ประกาศหนุนหลังพระองค์ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า กษัตริย์จอร์แดนทรงเป็นหุ้นส่วนสำคัญ และสหรัฐสนับสนุนพระองค์อย่างเต็มที่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"