'พล.อ.ประวิตร' ประชุมสทนช. ห่วงน้ำท่วมขังเสีย สั่งเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ และเร่งวางแผนแก้น้ำเค็ม น้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซาก
29 ต.ค.2564 -พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ รวมทั้งติดตามบริหารจัดการสถานการณ์ท่วมและน้ำแล้งในภาพรวม ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำปัจจุบัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ - กลาง และเขื่อนระบายน้ำ ซึ่งในภาพรวมยังสามารถควบคุมได้ โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่งที่ต้องเฝ้าระวัง
สำหรับการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ระหว่าง ต.ค.- ธ.ค.64 มีแนวโน้มลดลง เว้นภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากฤดูฝนที่กำลังมาถึง โดยมีโอกาสสูงในการเกิดพายุเคลื่อนผ่านภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยง 725 ตำบล 43,495 หมู่บ้านใน 16 จังหวัด ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัย โดยได้ขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ทำพนังกั้นน้ำและก่อสร้างทางระบายน้ำไปยังพื้นที่รับน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
สำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ได้พิจารณาวางแผนจากการคาดการณ์น้ำต้นทุน ปริมาณการใช้น้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำแล้ง พบความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคใน 5 จังหวัด 9 อำเภอ 25 ตำบล มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำแล้งด้านการเกษตร นอกเขตชลประทาน 11 จังหวัดซึ่งอยู่ระหว่างเร่งกำหนดมาตรการรองรับ ทั้งการเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยง การเติมน้ำ การจัดสรรน้ำฤดูแล้ง การวางแผนเพาะปลูกพืช การเตรียมน้ำสำรองในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ รวมทั้งการติดตามประเมินผล
พล.อ.ประวิตร แสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่ยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกำชับ สทนช.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศที่อาจพัฒนาก่อตัวเป็นพายุซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิม พร้อมทั้งให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังเข้าแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลำน้ำสายหลักตามแผนและสถานการณ์
ทั้งนี้ให้นำจุลินทรีย์มาใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำในพื้นที่ท่วมขังนานและเกิดการเน่าเสียหวั่นกระทบสร้างปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ขอให้ทบทวนปรับปรุงและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกัน และให้ตรวจสอบระบบเตือนภัยให้สามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เคยเกิดปัญหา เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำหรับการบริหารจัดการน้ำแล้ง ขอให้ สทนช.กำหนดมาตรการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผน ทั้งน้ำอุปโภค บริโภค น้ำการเกษตร และด้านคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะความเค็มปนเปื้อนสูงในบางช่วงเวลา รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมการประหยัดน้ำทุกภาคส่วน และให้ประสาน กษ.และ GIDTDA จัดให้มีการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกแบบแผนที่และลงทะเบียนพื้นที่เพาะปลูกล่วงหน้า พร้อมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนไปพร้อมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตา 'มรสุมกำลังแรง' เข้าไทย เฝ้าระวังเป็นพิเศษเกิดพายุไซโคลน ฝนตกหนัก 23-27 พ.ค.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน และลมที่ระดับ 925hPa (750 เมตร) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 22 พ.ค.- 5 มิ.ย. 68 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :
ฝนถล่มโคราช น้ำท่วมโรงเรียน อุปกรณ์เสียหาย ต้องหยุด 1 วัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านซาด ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พบกับ นางสาวนิตยา รักคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านซาด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ 21 พ.ค. 2568
พยากรณ์ 15 วันล่วงหน้า ปลายเดือนมรสุมแรงขึ้น จ่อระดับไซโคลน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 19 พ.ค.- 2 มิ.ย. 68
อุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 45 จังหวัด รับมือท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม
ผู้ว่าฯ-สส.- เรือนจำ ผนึกกำลังเร่งลอกคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม2
ผู้ว่าฯ-สส.- เรือนจำ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนเร่งลอกคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม2
กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ไทยมีฝนลดลง ก่อนจะตกหนักในช่วง 21-23 พ.ค.
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม