'ศรีสุวรรณ' ร้อง กกต. สอบ 'โทนี่' ครอบงำเพื่อไทย สั่งถอยแก้ 112

8 พ.ย.2564 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่า การที่พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนทีท่าในการผลักดันการแก้ไข ปอ.มาตรา 112 หลังจากที่แนวร่วมกลุ่มราษฎรออกมาชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนเต็มที่ แต่พอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้ว่า มาตรา 112 ไม่ใช่ปัญหา ทำให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนทีท่าทันทีนั้น ถือเป็นการครอบงำหรือชี้นำหรือไม่

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค.64 กลุ่ม “ราษฎร” และแนวร่วมต่างๆ ได้ร่วมกันจัดชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ ชูข้อเรียกร้องสำคัญ 2 ประการ และหนึ่งในข้อเรียกร้องนั้นคือ ให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เสีย และต่อมาในคืนวันดังกล่าว นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกประกาศจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว ลงในสื่อออนไลน์ของพรรคเพื่อไทย ทั้งทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคที่มีเสียงสมาชิกมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรพร้อมนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา” ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคมไทย

ทำให้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra เกี่ยวกับประเด็น ม.112 ว่าไม่ใช่ปัญหาและวิจารณ์ผู้ที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 ว่าทำไป “ด้วยความโกรธ” หรือ “ต้องการจะยกเลิกโดยไม่มีเหตุผล” จึงทำให้มองได้ว่าจุดยืนของนายทักษิณไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่อมาพลพรรคเพื่อไทยได้ออกมาพริ้วปฏิเสธกันพัลวัลว่ามิได้เป็นแกนในการผลักดันการแก้ไข ม.112 แต่ขอเป็นเพียงแค่เป็นตัวกลางอาสานำปัญหาเข้ากลไกสภาเท่านั้น เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับข้อชี้แนะของนายทักษิณหรือไม่

พฤติการณ์และหรือการกระทำดังกล่าวของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืน มาตรา 28 และหรือ มาตรา 29 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” และ “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” ซึ่งหาก กกต. วินิจฉัยว่าเป็นการครอบงำหรือชี้นำ ก็อาจนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ ตาม มาตรา 92 (3) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 นั่นเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม

กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ

'ยศชนัน' โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ มั่นใจรักษาฐานเสียงชายแดน

‘ยศชนัน’ วอนเล่นการเมืองสร้างสรรค์ หลัง ’เพื่อไทย’ ถูกทำลายป้ายหาเสียงหลายเขต บอกไม่ถูกต้อง หลังถูกวิจารณ์เป็นพรรคตัวแปรอันดับ3 เหตุ ปชช. ยังไม่ตัดสิน มั่นใจ รักษาฐานเสียงจังหวัดชายแดนได้ เชื่อประชาชนเข้าใจ

'กกต.' สรุปยอดลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 9 วัน เกือบ 7 แสนราย

กกต. สรุปตัวเลขผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือเลือกต้องล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร

'สมชัย' บอกชัด เบอร์พรรค-เบอร์คน คนละเบอร์อย่าด่า 'กกต.' ฝ่ายเดียว ต้องด่าใครบ้าง

ความวุ่นวายสับสนในเรื่องเบอร์พรรคกับเบอร์ผู้สมัครเขตของพรรคเป็นคนละเบอร์ ทำให้เป็นความยากลำบากแก่ประชาชนในการจดจำ ลำบากต่อ พรรคในการหาเสียง

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)