กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรโขนเยาวชนสถาบันคึกฤทธิ์

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรโขนเยาวชนจากสถาบันคึกฤทธิ์ ตอน”โมกขศักดิ์”

20 เม.ย.2566 – เวลา 18.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรการแสดงโขนเยาวชนประจำปี 2566 ของสถาบันคึกฤทธิ์ ๘๐ฯ เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “โมกขศักดิ์”  ณ โรงละครอักษรา คิง พาวเวอร์ ซอยรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล  ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และคณะเฝ้าฯ รับเสด็จ 

​สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับพระราชอาสน์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ กราบบังคมทูลถวายรายงาน จากนั้นทอดพระเนตรการแสดงรำถวายพระพร และการแสดงโขนเยาวชนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนโมกขศักดิ์ หลังจบการแสดงเสด็จออกจากโรงละครอักษรา เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ กลับวังสระปทุม 

สำหรับโขนรามเกียรติ์ ตอน “ โมกขศักดิ์ ” เป็นเรื่องราวของกุมภกรรณ พญายักษ์ซึ่งเป็นอนุชาของทศกัณฐ์ กุมภกรรณเป็นพญายักษ์ซึ่งครองธรรม รักษาไว้ซึ่งสัจจะ ทศกัณฐ์เรียกกุมภกรรณมาปรึกษาเรื่องการศึก  กุมภกรรณจึงจำใจรับอาสาออกทำสงคราม โดยจะนำหอกโมกขศักดิ์อันมีฤทธิ์ร้ายกาจออกทำศึก แต่ด้วยเหตุอาเพศที่ต้องเสียสัจสุจริตหอกนั้นกลับเป็นสนิมทั้งสี่คม กุมภกรรณต้องประกอบพิธีลับหอกริมแม่น้ำใหญ่ โดยจัดสั่งให้ตั้งโรงพิธีพร้อมทั้งเครื่องบูชาตามตำรา และได้สั่งไพร่พลกวดขันดูแลมิให้สิ่งปฏิกูลใดๆ ผ่านเข้ามาเป็นอันขาด 

ทางฝ่ายพระราม พิเภกกราบทูลว่า สิ่งที่จะทำลายพิธีได้ คือ ให้หนุมานและองคตแปลงกายเป็นอีกาที่จิกกินซากหมาเน่า ลอยผ่านเข้าไปใกล้บริเวณพิธี เมื่อกุมภกรรณได้กลิ่นก็จะประกอบพิธีต่อมิได้ ถึงกุมภกรรณเสียพิธีแต่ก็ต้องยกทัพออกรบกับพระลักษณ์ ในการรบครั้งนี้ พระลักษณ์เป็นฝ่ายเสียทีถูกหอกโมกขศักดิ์ปักพระอุระจนสลบลงกองทัพของกุมภกรรณจึงกลับเข้ากรุงลงกาอย่างฮึกเฮิม  ฝ่ายพิเภกทูลพระรามว่าสรรพยาที่จะแก้ฤทธิ์หอกนี้ได้ คือ ต้นสังกรณีตรีชวาและน้ำปัญจมหานที แต่ที่สำคัญที่สุดคือถ้าแสงพระอาทิตย์สาดส่องเมื่อใดจะหมดโอกาสแก้ไขได้ หนุมานรับอาสาเหาะขึ้นไปบนฟากฟ้าเข้ายุดรถพระอาทิตย์ จนตนเองต้องพินาศเพราะอำนาจของแสงอาทิตย์ พระอาทิตย์เห็นเหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้จึงชุบหนุมานขึ้นมาแล้วถามถึงสาเหตุ ในที่สุดพระอาทิตย์ก็ช่วยเหลือโดยชักรถหลบเข้าไปในกลีบเมฆ หนุมานไปเก็บสรรพยา และน้ำปัญจมหานทีจากกรุงอโยธยามาถวาย จนพระลักษณ์ฟื้นคืนสติ นำกองทัพกลับคืนสู่พลับพลา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารทองถนิมเฝ้าฯ

10 ก.ย.2567 - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารทองถนิม เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผลงาน “อัคราภิรักษศิลปินแห่งแผ่นดินสยาม”

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าฯ

2 ก.ย.2567 - เวลา 9.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสา

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระราชดำรัสการแก้ปัญหาประเทศสำเร็จด้วยงานวิจัย

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปเป็นประธานพิธีเปิดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” หรือ Thailand Research Expo 2024 ซึ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเจิมเทียนพรรษา

7 ก.ค.2567 - เวลา ๑๓.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม ทรงเจิมเทียนพรรษา สำหรับทรงพระราชอุทิศพระราชทานไปจุดบูชา

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบาตรในโอกาสครบ 110 ปี รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

30 พ.ค.2567 - เวลา 07.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบาตร เนื่องในโอกาสวันสถาปนาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ครบ 110 ปี