
21 เม.ย.2566 - ในวันที่ 22 เมษายนของทุกปี โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations Environment Program : UNEP)กำหนดให้เป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเด็นสำคัญในปีนี้ คือ “Invest in our planet” หรือลงทุนในโลกของเรา ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อโลก
นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโลกและธุรกิจ ซึ่งซีพีเอฟตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ถือเป็นต้นทางการผลิตอาหาร ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ อาทิ มุ่งเน้น การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ยึดหลัก 3Rs คือ ลดการใช้น้ำ (Reduce) นำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) รวมถึงการร่วมจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเชิงรุกทั้งระยะยาวและระยะสั้น เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ อาทิ ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการในการก้าวสู่องค์กรลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศนโยบายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าเป็นศูนย์ กำหนดเป้าหมาย 100% ของการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวโพด ปลาป่น น้ำมันปาล์ม กากถั่วเหลือง และมันสำปะหลัง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่มาจากแหล่งที่มีการตัดไม้ทำลายป่า โดยในปี 2565 สำหรับกิจการในประเทศไทย 100% ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงพื้นที่เพาะปลูก
รวมทั้ง บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลนเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรช่วยกันปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการทั้งในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ
นางกอบบุญ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับโครงการต้นแบบในการเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันฟาร์มสุกรทั้ง 98 แห่ง และคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ 7 แห่ง นำก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากระบบก๊าซชีวภาพไปผลิตกระแสไฟฟ้า และนำกลับมาใช้ในฟาร์มเลี้ยงสุกรและไก่ สามารถทดแทนไฟฟ้าได้ 69 ล้านหน่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 490,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และจะขยายผลไปใช้กับกิจการในต่างประเทศ

ในส่วนของการมีส่วนร่วมพิทักษ์ท้องทะเล ซีพีเอฟได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ ดำเนินโครงการ Restore the Ocean เพื่อจัดการแก้ปัญหาขยะพลาสติกและขยะในทะเล โดยตลอดปี 2565 สถานประกอบการของบริษัทฯ ทำกิจกรรมเก็บขยะในทะเลได้รวม 15,973 กิโลกรัม มาจากกิจกรรมเก็บขยะชายหาด 12,823 กิโลกรัม กิจกรรมกับดักขยะทะเล 3,150 กิโลกรัม
“ในโอกาสวันที่ 22 เมษายน ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองโลก เป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคน ที่จะต้องช่วยกันดูแลและปกป้องโลกใบนี้” นางกอบบุญ กล่าว .

.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกษตรกรปลื้ม ปุ๋ยเปลือกไข่-มูลไก่-น้ำปุ๋ย จากซีพีเอฟ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ลดเสี่ยงแล้ง
การขาดแคลนน้ำและต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นับเป็นปัญหาใหญ่ที่พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชต้องแบกรับ เนื่องจากต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีคิดเป็น
รร.ประชาพัฒนาบ้านแฮด จ.ขอนแก่น สอนนักเรียนสร้างคลังอาหารในโรงเรียน-ชุมชน เดินหน้า “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ปีที่ 11
อนาคตทางการศึกษาที่ดีคือสิ่งที่เด็กและเยาวชนควรได้รับ แต่ถ้าระหว่างทางของการศึกษานั้นเด็กๆได้เรียนรู้พื้นฐานอาชีพและปูพื้นฐานการใช้ชีวิตด้วยแล้ว การศึกษานั้นย่อมก่อประโยชน์สูงสุดกับเยาวชนยิ่งขึ้น
“บุญเกิดฟาร์ม” บทพิสูจน์คอนแทรคฟาร์มเลี้ยงหมูพลิกชีวิต ซีพีเอฟส่งเสริมเกษตรยั่งยืน ใช้เทคโนโลยียกระดับสู่สมาร์ทฟาร์ม ผลิตหมูคุณภาพเพื่อผู้บริโภค
ชีวิตของคนหาเข้ากินค่ำอย่าง ‘ไพรัตน์ อยู่อภิบาลรักษ์’ กับ ‘บัณพร บุญเกิด’ ที่ยึดอาชีพรับจ้างขับรถขนส่งไข่ไก่ในจังหวัดนครราชสีมา เงินเดือนรวมกันเพียง 3,000 บาท
ซีพีเอฟ ลุยภารกิจระดับโลก ‘ไก่ไทยจะไปอวกาศ’
CPF ผู้นำยกระดับมาตรฐานไก่ไทย สู่ มาตรฐานระดับอวกาศ อีกความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” สอนทักษะอาชีพ-สร้างคลังอาหาร โรงเรียนบ้านแก้วเพชรพลอย จ.สระแก้ว
วันนี้ โรงเรียนบ้านแก้วเพชรพลอย อ.ตาพระยา จ. สระแก้ว คึกคักเป็นพิเศษ นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นชุมนุมอาชีพนำไข่ไก่สดๆ จาก