หอศิลป์แห่งชาติแห่งใหม่ที่ตั้งโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ข้างศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ย่านรัชดา เปิดพื้นที่สู่การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรรมของไทยและอาเซียนให้กับประชาขน มีโปรแกรมศิลปะ นิทรรศการที่นำผลงานศิลปะร่วมสมัยระดับมาสเตอร์พีซมาจัดแสดงเป็นระยะ
ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมใจกลางเมือง
ความคืบหน้าโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ให้เป็นพื้นที่บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยเริ่มตั้งแต่ปี 2550 และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ การสร้างสรรค์และการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนเปิดพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยระดับชาติและนานาชาติ เป็นแหล่งนัดพบระหว่างศิลปินแขนงต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ได้เข้ามาใช้พื้นที่จัดแสดงผลงาน และเป็นพื้นที่สำหรับสร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบระยะที่ 1 ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารที่ทำการ วธ. และอาคารหอศิลป์แห่งชาติ ระยะที่ 2 คือ โรงละคร Super Theatre โรงละครแบบ Black Box Theatre ห้องประชุมย่อย และห้อง Workshop ด้านวัฒนธรรม ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องประชุมสัมมนา และศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรมและลานวัฒนธรรมกึ่งภายนอก
หอศิลป์แห่งชาติออกแบบโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์
สำหรับการการดำเนินการระยะที่ 1 ได้ก่อสร้างหอศิลป์แห่งชาติแล้วเสร็จเมื่อปี 2563 ตัวอาคาร 3 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 19,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย มีการบริหารจัดการและจ้างตกแต่งภายในอาคาร พร้อมครุภัณฑ์ประจำอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ในขณะเดียวกันได้ศึกษารูปแบบและแนวทางการบริหารงานหอศิลป์แห่งชาติ ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และเมื่อปี 2564 ได้ตกแต่งภายในอาคารหอศิลป์แห่งชาติ พร้อมครุภัณฑ์เครื่องมือ การออกแบบองค์ประกอบเรขศิลป์ต่างๆ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกแล้วเสร็จเมื่อพฤษภาคม ปี 2564
จัดแสดงผลงานประติมากรรม “เรือรักของแม่”
หลังจากปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งภายในและภายนอกอาคารแล้ว นางสาวฐิต์ณัฐ กล่าวว่า ในช่วงปี 2565 วธ. ได้ใช้พื้นที่ทั้งจัดกิจกรรมด้านศิลปะหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรม “ดื่มกาแฟแลงานศิลป์” เพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่องพื้นที่กิจกรรม และการเข้าถึงของประชาชนในพื้นที่หอศิลป์แห่งชาติ โดยเชิญศิลปินร่วมสมัย นายวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ผู้สร้างสรรค์ประติมากรรมสุนัข “ไอ้จุด” และ น.ส.ลูกปลิว จันทร์พุดซา ศิลปินผู้สร้างสรรค์ประติมากรรม “เรือรักของแม่” มาจัดแสดง ณ ลานกลางแจ้ง หอศิลป์ฯ ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
ประติมากรรมสุนัข”ไอ้จุด” จัดแสดงลานกลางแจ้งหอศิลป์แห่งชาติ
นอกจากนี้ มีการจัด “นิทรรศการเผยแพร่องค์ความรู้ของผลงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย”ผลงานสะสมปี พ.ศ. 2565 (2022 Acquisitions Office of Contemporary Art and Culture) ณ ห้องนิทรรศการ 4 ชั้น 1 จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยกว่า 79 ชิ้น จาก 20 ชุดผลงาน ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินร่วมสมัย 16 คน ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ 16 คน เป็นที่สนใจของคนรักงานศิลปะที่ได้เห็นผลงานเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับหอศิลป์แห่งชาติ ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข จัดเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival : Summer Hit Songs และกิจกรรมเรียนรู้ดูหอศิลป์ของกลุ่มเด็กและเยาวชนอีกด้วย
พัฒนาพื้นที่ด้วยนิทรรศการผลงานศิลปะร่วมสมัย
เมื่อพูดถึงแผนการพัฒนาหอศิลป์แห่งชาติปี 2566 -2567 ผู้ช่วยปลัด วธ. กล่าวว่า วธ. ได้จัดทำโครงการเพื่อขอรับงบประมาณจากรัฐบาลในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ และแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมระดับชาติและนานาชาติอย่างเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนจัดกิจกรรม อาทิ พิธีเปิดหอศิลป์แห่งชาติ การจัดนิทรรศการผลงานศิลปะร่วมสมัยกว่า 6 นิทรรศการ การจัดแสดงผลงานศิลปะ Multimedia Art ผลงานจากศิลปินไทยและต่างประเทศ การเสวนาทางวิชาการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมประชาสัมพันธ์พื้นที่หอศิลป์แห่งชาติ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ
หมุดหมายใหม่จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย พร้อมภัณฑารักษ์ที่มีความรู้
ในขณะที่แผนพัฒนาบุคลากรรองรับหอศิลป์แห่งชาติ รองโฆษก วธ. ระบุเตรียมจัดฝึกอบรมบุคลากร โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทอดความรู้ ได้แก่ ภัณฑารักษ์ ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดแสดงผลงาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการระดมทุน ผู้เชี่ยวชาญด้านการคิด Content และนิทรรศการศิลปะ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเสียง และ Acoustic Facility Manager เป็นต้น ซึ่งทุกกิจกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อพัฒนาหอศิลป์แห่งชาติให้พร้อมให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบ และเปิดพื้นที่ให้กลุ่มศิลปินแขนงต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศได้เข้ามาใช้พื้นที่จัดแสดงผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้งานศิลปะ ได้สร้างสุนทรียศาสตร์ สร้างความรู้ สร้างจินตนาการ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน นำไปสู่การสร้างสรรค์คุณค่าทางสังคม และเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บอร์ด ICH ขึ้นบัญชี 10 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ‘งานนมัสการพระธาตุพนม-เสื่อกกจันทบูร-ผ้าหม้อห้อม-ตำนานสุบินกุมาร‘
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมครั้งที่ 3/2567 พิจารณาเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ยูเนสโกขึ้นทะเบียน ‘ต้มยำกุ้ง’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้วธ.จัดฉลองยิ่งใหญ่ 6-8 ธ.ค.ที่เอ็มควอเทียร์
4 ธ.ค.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The nineteenth session of the Intergovernmental Committee for the
ราชกิจจาฯ แพร่คำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ตั้ง 'อ๋อม สกาวใจ' เป็นที่ปรึกษารมว.วัฒนธรรม
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งกระทรวงวัฒนธรรมที่ 191/2567 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
วธ.จัดกิจกรรมถวายพระราชกุศล ร.9
28 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ องค์การทางศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาซิกข์และกลุ่มภาคีเครือข่ายจัด “กิจ
'จิราพร' ชวนชมโขนเฉลิมพระเกียรติตอน 'พระจักราวตาร'
'จิราพร' ชวนประชาชนชื่นชมความงดงามศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านการแสดง โขนเฉลิมพระเกียรติ ตอน 'พระจักราวตาร'
ข่าวดี ! ไทย รับมอบ 4 วัตถุโบราณบ้านเชียง อายุกว่า 3,500 ปี จากสหรัฐฯ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับมอบโบราณวัตถุบ้านเชียง 4 ชิ้น