สธ.หารือ7ประเทศกลุ่มFPGH แนวทางหลังโควิด รับมือการระบาดโรคอื่นๆ เล็งแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ

23 พ.ค. 2566- ในระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศสมาชิกกลุ่ม Foreign Policy and Global Health Initiative : FPGH 7 ประเทศ ประกอบด้วย นอร์เวย์ ฝรั่งเศส บราซิล อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เซเนกัล และไทย ซึ่งแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพในฐานะประธานกลุ่ม FPGH โดยการประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ในประเด็นสำคัญด้านสาธารณสุขภายใต้หัวข้อ “กลับสู่สามัญ – การจัดการความท้าทายด้านสาธารณสุขโลกในบริบทของนโยบายต่างประเทศ” (Back to the Basics – Towards Addressing Global Health Challenges in the Foreign Policy Space)

ปลัดสธ.ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความสำคัญของการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพโลกในบริบทของนโยบายต่างประเทศ และได้เสนอให้กลุ่ม FPGH คำนึงถึง 4 มิติหลักที่สำคัญ ได้แก่ข้อ 1.สนับสนุนความเท่าเทียมด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งจะช่วยรับประกันว่าประชาชนทุกคน รวมทั้งกลุ่มชายขอบและกลุ่มเปราะบางจะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้ ข้อ 2.การมีระบบสุขภาพของประเทศที่เข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด รวมถึงความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับโลกที่เข้มแข็ง ทำให้เกิดความมั่นคงด้านสุขภาพในแต่ละประเทศ โดยประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนและเข้าร่วมกระบวนการการเจรจา Intergovernmental Negotiating Body (INB) เพื่อทำหน้าที่เจรจาอนุสัญญา ข้อตกลง หรือเครื่องมือระหว่างประเทศอื่น ๆ ขององค์การอนามัยโลก ในด้านการเตรียมความพร้อมและรับมือกับการระบาดของโรค และการแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2005

ข้อ3.การแบ่งปันข้อมูลสำคัญระหว่างประเทศอย่างทันท่วงที เช่น การส่งต่อเชื้อก่อโรค ข้อมูลลำดับเบสในจีโนม รวมถึงการแบ่งปันวิธีการและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคของแต่ละประเทศ และข้อ 4.ประเทศไทยยึดมั่นที่จะร่วมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่ม FPGH ในการแสดงบทบาทนำในเวทีสาธารณสุขโลก และการรวมพลังระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จตามความมุ่งหมายของ FPGH เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาและนำไปสู่การผลักดันข้อมติตามที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติต่อไป

นอกจากนี้ ได้หารือทวิภาคีกับ Dr. Chris Whitty หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ (Chief Medical Officer) สหราชอาณาจักร ในประเด็นสำคัญ อาทิ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) และระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร

"พัฒนา​" เมิน​ "บิ๊กโจ๊ก" ปูด​ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน​ ชี้ตัวเลข​ 140 รายของสธ.​ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก​ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์​ชี้ชัดอะไรไม่ได้

สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิ​ต​ 'น้ำท่วมสงขลา'​ 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข​ แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม​ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา​ ว่า​ จะยึดข้อมูลที่​โรงพยาบาลสงขลานครินทร์​เป็นหลัก เพราะศูนย์​รวบรวมศพผู้เสียชีวิต​ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน​ ณ​ เวลา​ 16.00​ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน

'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า

พปชร. วืดคุมกลาโหม! ได้ 2 รมว.สธ.-แรงงาน กับ 2 รมช. 'บิ๊กป้อม' เคาะเอง

'สันติ” เผยมติ กก.บห. มอบ 'บิ๊กป้อม' เคาะชื่อ 4 รมต. ส่งนายกฯ คอนเฟิร์มได้ 2 รมว.'สธ.-แรงงาน' กับ 2 รมช. ไร้กลาโหม อารมณ์ดีนั่ง 4 เดือน เพื่อต่อยอด 4 ปี

ไข้ดินระบาดอีสาน! นักวิชาการจี้รัฐเตือนภัย เสียชีวิตแล้ว 72 ราย

“นักวิชาการธรรมศาสตร์” จี้รัฐ-กระทรวงสาธารณสุข เร่งรณรงค์ให้ความรู้ “โรคไข้ดิน” เหตุพบมากในฤดูฝน โดยเฉพาะภาคอีสาน ชี้เป็นโรคซับซ้อน-วินิจฉัยยาก ปี 2568 ดับแล้ว 72 ราย ผงะ! ประชาชน-บุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ระบาดจำนวนไม่น้อยกลับยังไม่รู้จักโรคนี้ แนะเร่งส่งเสริมการตรวจโรค