22 ก.ค.2566 - พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่าในปัจจุบัน การใช้สื่อสังคมออนไลน์แทบจะถือได้ว่าเป็นวิถีชีวิตประจำวันอย่างหนึ่งของคนไทย ซึ่งมักจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร รูปภาพ ตลอดจนคลิปวิดีโอต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งอาจมีการด่าทอ หยอกล้อ หรือล้อเลียนผู้อื่น ด้วยความสนุก คึกคะนอง จนอาจเกินเลยสร้างบาดแผลทางจิตใจ หรือสร้างความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบุคคลอื่น ซึ่งในกรณีดังกล่าวมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้อื่นมิให้ถูกละเมิด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการด่าทอ ล้อเลียน กลั่นแกล้ง กลั่นแกล้ง หรือ ข่มขู่ผู้อื่นทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่ได้กระทำ ดังนี้
1. การโพสต์ใส่ความบุคคลอื่นต่อบุคคลที่สามในประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. การโพสต์หมิ่นประมาทบุคคลอื่นโดยการโฆษณา (การโพสต์เป็นสาธารณะหรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้) อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. การโพสต์ภาพของผู้อื่นที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. การข่มขู่ ขู่เข็ญ ผู้อื่นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว ตกใจ อาจเข้าข่ายความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.การส่งต่อ แชร์ รีทวีต หรือรีโพสต์ ที่เข้าข่ายเป็นความผิด อาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้โพสต์ ในฐานะตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หรือ 86 แล้วแต่กรณี
ซึ่งนอกเหนือจากความผิดที่มีโทษทางอาญาแล้ว หากผู้เสียหายสามารถพิสูจน์ได้ว่าการกระทำของผู้กระทำผิด ทำให้ผู้นั้นได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นต่อชีวิตร่างกาย ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือทางทำมาหาได้ ผู้ที่กระทำความผิดอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง เกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 หรือมาตรา 423 แล้วแต่กรณีอีกด้วย
ดังนั้น พี่น้องประชาชนจะต้องระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะการโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจสร้างความเสียหายแก่บุคคลอื่น เพราะหากบุคคลที่ถูกกล่าวถึงไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว และได้รับความเสียหายจากการกระทำนั้น ท่านอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้
สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการล้อเลียน กลั่นแกล้ง หรือหมิ่นประมาท ทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือสถานีตำรวจในท้องที่ที่ท่านทราบการกระทำความผิด ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เผยเล่ห์เขมร อาวุธหนักยังอยู่
ทบ.แจงอย่าเชื่อเพจปลอมอ้างเขมรขนทหารยึดปราสาทคืน แต่ยอมรับตรงข้ามภูมะเขือยังคงมีรถถัง 10 คัน วางทุ่นระเบิดโดยรอบ
ทบ. ยันข่าวปลอม ทหารกัมพูชา ระดมกำลังจ่อยึดภูมะเขือ-ปราสาทตาควาย-ปราสาทคนา
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Thai Army (ทหารไทย) ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ได้โพสต์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า "จะเอาไงต่อดีครับ ฝั่งเรา ล่าสุดวันนี้ทหารกัมพูชาขึ้นมาพิชิตใกล้ภูมะเขือหวังจะเอาภูมะเขือคืนกว่า 2,000 นาย ประสาทตาควายกว่า 5,000นาย ประสาทคนากว่า 5,000 นายเต็มพื้นที่หมดแล้ว
เฟกนิวส์! 'นายกฯอนุทิน' ปัดตำหนิ 'รองณัฎฐ์' ขอเงินวัด 15 ล้าน เตรียมเอาผิดคนเผยแพร่
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โพสต์เฟซบุ๊กชี้ข่าวนี้เป็นข่าวลวง
มทภ.2 แถลง RBC ไทย-กัมพูชา 11 ข้อ ตามคาด กัมพูชา โยน GBC เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์
มทภ.2 แถลง RBC ไทย-กัมพูชา 11 ข้อ ห้ามโจมตีที่ตั้งทหาร ยั่วยุ อย่าปั่นเฟกนิวส์ เร่งตอบสนองการประท้วง ตามคาด กัมพูชา โยน GBC เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์
อย่าหลงเชื่อกระพี้! 'นั่งลงลูก' เฟกนิวส์ แนะติดตามแก่นคดี 'อิ๊งค์'
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แจ้งเพื่อทราบครับ คำว่า “นั่งลงลูก”เป็นข่าวปลอม คำว่า“นั่งลงครับ”เป็นคำที่ถูกต้อง
โฆษกรัฐบาล ตามแก้เฟกนิวส์เขมร กุข่าวไทยประกาศสงคราม หวั่นประชาชนหลงเชื่อ
รัฐบาล ยืนยันไม่มีเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อประกาศสงครามกับกัมพูชา แจงสภาฯประชุม สว.เป็นปกติอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวเท็จบิดเบือน


