ท่องประวัติศาสตร์ 'สิงห์บุรี' เรื่องราวสุดคลาสสิก

ศาลากลางหลังเก่า ปัจจุบันคือ มิวเซียมสิงห์บุรี

หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จ.สิงห์บุรี เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่ควรลองเปิดประสบการณ์สักครั้ง เพราะนอกจากเรื่องราวที่ถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบันว่าเป็นถิ่นสมรภูมิรบอันห้าวหาญของวีรชนชาวบ้านบางระจัน ตลอดจน ความเป็นมาก่อนที่จะก่อตั้งเป็นจังหวัดนั้นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าค้นหาผ่านมุมมองของแหล่งท่องเที่ยวอย่าง มิวเซียมสิงห์บุรี โบราณสถาน วัด หรือตลาดชุมชน ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของชาวสิงห์บุรีได้เป็นอย่างดี

หมุดหมายแรกที่จะทำให้เรารู้จักสิงห์บุรีให้มากขึ้น แนะนำว่าต้องมาที่ มิวเซียมสิงห์บุรี ตั้งอยู่ที่ถนนวิไลจิตต์ ต.บางพุทรา ก่อนจะเข้าไปที่มิวเซียม ก็ต้องสะดุดตากับสตรีทอาร์ตบนพนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยากับถนนที่มีระยะทางทอดยาวกว่า 3 กิโลเมตร ชาวสิงห์บุรีได้ช่วยกันรังสรรค์ภาพวาดตามจินตนาการสะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไว้อย่างน่ารักทีเดียว  

ห้องทรัพย์เมืองสิงห์ จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆที่ถูกค้นพบ

จากสตรีทอาร์ตสามารถข้ามถนนเดินเข้ามาที่มิวเซียมสิงห์บุรีได้เลย อาคารสไตล์ยุคโคโลเนียล ที่ทาสีเหลืองฉูดฉาดตัดกับสีขาว ตั้งโดดเด่นแห่งนี้ในอดีตเคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรีสร้างขึ้นตั้งแต่ ร.ศ.130  เพื่อปลุกให้อาคารหลังนี้ได้กลับมาชีวิตชีวาอีกครั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี และสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)  จึงได้ร่วมกันเปลี่ยนบทบาทของสถานที่ราชการให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการดีไซน์ภายในใหม่ให้ร่วมสมัย แต่ยังคงโครงสร้างตัวอาคารเดิมไว้ ผสมผสานกลไกเทคนิคการนำเสนอเรื่องราวในอดีตให้ไม่น่าเบื่อ

โดยภายในจะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่อง “ทรัพย์เมืองสิงห์” ประกอบด้วย  8 ห้องจัดแสดง เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับห้องทรัพย์ดึกดำบรรพ์ เราจะเห็นการจัดแสดงแสงและเงาของ ภาพขวานหิน ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แผนที่เมืองอินทร์บุรี เมืองจัดการน้ำดีเด่น ศิลาจารึกสมัยสุโขทัย ไหสี่หู อนุสรณ์ชาวบ้านบางระจัน ตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดอันแรก และปลาช่อน ที่บอกเล่าความเป็นมาของสิงห์บุรี  เชื่อมมาห้องทรัพย์เมืองเก่า ที่มีการแบบจำลองวัดหน้าพระธาตุ 3 ยุค ตั้งแต่ยุคทวารวดี กรุงศรีอยุธยา และยุคปัจจุบัน หลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าสิงห์บุรีเป็นเมืองเก่าแก่

ภาพจำลองสามมิติเกี่ยววิวัฒนาการกว่าจะมาเป็นจ.สิงห์บุรี

ห้องทรัพย์ในดิน จะเห็นถึงความรุ่งเรืองทางการค้า โดยเฉพาะไหสี่หู ที่ถูกค้นพบเป็นจำนวนมากบริเวณแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นแหล่งเตาเผาขนาดใหญ่จำนวนหลายร้อยเตา เรียกได้เป็นอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปยังทั่วโลก มาถึงจุดร่วงโรยในช่วงหลังกรุงแตก เตาเผาจำนวนนับร้อยถูกปล่อยทิ้งร้าง ที่บอกว่าอยู่ในห้องทรัพย์สลาย ซึ่งห้องเราจะได้เรียนรู้วิธีการใช้งานของเตาเผาผ่านเกมเสมือนจริงด้วย

ห้องทรัพย์วันหน้า นักท่องเที่ยวร่วมออกแบบเมืองในอนาคตได้ตามจินตนาการ

ถัดมาที่ห้องทรัพย์ทรงจำ การยุบรวมกันของสามเมือง คือ สิงห์-อินทร์-พรหม จนกลายมาเป็นจ.สิงห์บุรีในสมัยร.5 ผ่านการจัดแสดงดิจิทัล 3 มิติ ต่อมาที่ห้องทรัพย์เมืองสิงห์ ที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆที่ถูกค้นพบตามซอกซอยของหมู่บ้าน ภาพวาดจิตรกรรมตามวัดสำคัญ เป็นต้น มาเล่นเกมความคุมน้ำ ที่ห้องทรัพย์ปัญญา สะท้อนเรื่องราวว่าสิงห์บุรีเป็นเมืองแห่งการบริหารจัดการน้ำ และห้องทรัพย์วันหน้า ที่เหล่าผู้มาเยือนสามารถเล่นเกมการออกแบบเมืองสิงห์บุรีในฝัน โดยจะมีโมเดลให้เลือกสร้างเมืองได้ตามต้องการเลย เกมนี้เล่นได้หลายคนด้วยนะ ทำให้ภาพเลยว่ากว่าจะเป็นเมืองๆหนึ่งต้องเกิดจากการร่วมมือร่วมใจของทุกคน

เตาเผาแม่น้ำน้อยขนาดใหญ่

จากเรื่องราวในมิวเซียมสิงห์บุรีที่บอกเล่าถึงความอลังการของเตาเผาแม่น้ำน้อย ใครอยากเห็นกับตาว่าใหญ่ขนาดไหนก็ต้องมาที่ โบราณสถานเตาเผาแม่น้ำน้อย บ้านโคกหม้อ ต.เชิงกลัด อ.บางระจัน ซึ่งในอดีตที่นี่เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคกลาง ที่ยังทิ้งร่องรอยความรุ่งเรืองของเตาเผาขนาดใหญ่ที่ทำขึ้นโดยภูมิปัญญาของชาวบ้าน มีลักษณะแบบระบายความร้อนฝานเฉียงขึ้น ก่อด้วยอิฐ ตัวเตาบางและคล้ายกับเรือประทุน จึงเรียกว่า เตาประทุน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ปล่องไฟ ห้องวางเครื่องปั้นดินเผา และห้องเชื้อเพลิง ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2509 โดยรอบบริเวณเตาเผายังมีการพบวัตถุโบราณ  เครื่องปั้นดินเผา  ภาชนะเครื่องใช้ที่สำคัญ  ซึ่งเป็นร่องรอยความเจริญทางอารยธรรมในสมัยอยุธยาที่กระจายอยู่ตามแนวแม่น้ำน้อย โดยกรมศิลปากรได้มีการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เตาแม่น้ำน้อย พร้อมกับอนุรักษ์เตาเผา 2 เตาที่ค่อนข้างสมบูรณ์ไว้ให้คนรุ่นหลังเพื่อศึกษาเรียนรู้อีกด้วย  

ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุที่ถูกค้นพบบริเวณเตาเผาแม่น้ำน้อย

เยือนถิ่นบางระจันทั้งที ก็ต้องแวะเที่ยวที่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งอยู่ในวัดโพธิ์เก้าต้น เอกลักษณ์ของตลาดแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารคาวหวานที่มีให้เลือกละลานตาแล้ว พ่อค้าแม่ค้ายังแต่งตัวย้อนยุคห่มสไบนุ่งโจม ผู้ชายก็ทำผมทรงสูง ไว้หนวดเคราเป็นปลายแหลมคล้ายกับชาวบ้านบางระจันในอดีตที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์เลย น้ำเสียงที่พูดจาก็ใช้คำว่า “เจ้าค่ะ- ขอรับ” ตอบโต้กับลูกค้าฟังแล้วรื่นหูเชียวหละ นอกจากนี้การ จำลองเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างชาวบ้านบางระจันกับข้าศึก เสียงตะโกนโห่ร้องลั่นตลาดสร้างความสนุกสนานให้กับผู้มาเยือน  แต่คนที่เคยมาครั้งแรกอาจจะตกใจนิดๆ สักพักก็จะชิน และบางทีก็อยากจะไปร่วมแจมกับกิจกรรมรำวงที่มีให้ชมระหว่างนั่งทานข้าว หรือจะไปนั่งตรงลานริมน้ำก็มีลานแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ของชาวบ้านบางระจันให้ได้รับชมด้วยนะ เรียกได้ว่าเพลิดเพลินจำเริญใจมากๆ เปิดให้บริการเฉพาะ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.

ชาวบ้านแต่งกายย้อนยุค สร้างสีสันเดินเที่ยวตลาด

 กลับมาพักผ่อนหย่อนใจกลางทุ่งที่  บ้านข้าวหอม ฟาร์มสเตย์ ที่พักสุดชิวกับบรรยาศโอบล้อมไปด้วยทุ่งนา พืชผักสวนครัว  มีโรงเรือนเป็ด ห่าน ไก่ ควาย และยังมีกิจกรรมทั้งปั่นจักรยาน  ขับรถ ATV พายเรือ ดำนา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีของเกษตรกรอย่างสนุกสนาน

บรรยากาศด้านในตลาดของความหวานมากมาย

เช้าอีกวันมาชมความวิจิตรของวิหารหลังเก่า ที่วัดม่วง อ.อินทร์บุรี ด้านในมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีรูปฐานสิงห์ โดยรอบฝาผนังมีจิตรกรรมเขียนสีฝุ่นของช่างฝีมือพื้นบ้าน สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนใหญ่จะบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีตไว้อย่างดงาม

จิตรกรรมฝาผนังวัดม่วง ถือว่างดงามที่สุดในจ.สิงห์บุรี

ปิดทริปด้วยการแวะซื้อของฝากที่ ร้านขนมเปี๊ยะแม่ศรีเมือง เจ้าดังในเมืองอินทร์บุรี ส่งตรงสูตรมาจากจ.ซัวเถา ประเทศจีน มีทั้งรสชาติดั้งเดิมอย่างถั่วฟักไข่ หรือรสชาติที่ทำขึ้นใหม่อย่าง นมสด ทุเรียน ที่ร้านนี้ทำสดใหม่ทุกวันการันตีเรื่องคุณภาพและรสชาติที่เปิดขายมากว่า 90 ปี

สีสันของการท่องเที่ยวสิงห์บุรีที่โดดเด่นด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ แต่ถูกนำมาบอกเล่าในวิถีของปัจจุบันได้อย่างลงตัวไม่น่าเบื่อ แถมยังสนุกได้ความรู้ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ บอกเลยถ้าได้ลองมาแล้วจะติดใจ

ขนมเปี๊ยะแม่ศรีเมืองหอม หวาน ไส้แน่นๆ
พักผ่อนกลางทุ่ง ที่บ้านข้าวหอม ฟาร์มสเตย์
สตรีทอาร์ต ถนนวิไลจิตต์ เล่าเรื่องคนเมืองสิงห์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่มแล้ว “มหกรรม UP EXPO ลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก @ สิงห์บุรี” สุดยิ่งใหญ่ คัดสรรสุดยอดสินค้าลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก กว่า 160 ร้านค้า มาที่เดียวเที่ยวได้ 6 จังหวัด

จังหวัดสิงห์บุรี ผนึกกำลังพันธมิตรทางการค้า 6 จังหวัดภาคกลางตอนบน ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง จัดงาน “มหกรรม UP EXPO ลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก @ สิงห์บุรี” ชวน ช้อป ชิม ชม สินค้าของดี ของเด่น

ป.ป.ช. ฟันอาญา '2 บิ๊กท้องถิ่น' ใช้รถหลวงส่วนตัวโดยมิชอบ

ป.ป.ช. ฟันอาญา 'รองปลัดเทศบาลเชียงราย' ซิ่งรถหลวงไปใช้ส่วนตัวจนเฉี่ยวชน พร้อมชี้มูลความผิด 'นายก อบต.บ้านหม้อ' เอากระบะราชการไปใช้โดยมิชอบ

'บิ๊กตู่' อ้อนชาวนา โชว์ขับรถดำนาปลูกข้าว

'บิ๊กตู่' ยกคณะเยือนสิงห์บุรี สวมม่อฮ่อมโชว์ขับรถดำนาปลูกข้าว ก่อนล้อมวงกินข้าวกับชาวนา รับ 8 ปีปัญหานับร้อยยังแก้ไม่จบ ย้ำห้ามทุจริต ปลุกสามัคคีรักษาแผ่นดินไทย

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯเตรียมลงพื้นที่สิงห์บุรี

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วิ่งฉิว ทางหลวง ขยายถนนแยก ’อินทร์บุรี–บ.หนองบัวทอง ’เชื่อมสิงห์บุรี-นครสวรรค์

กรมทางหลวง’ปูพรมขยาย 4 เลน ทล.11 แยกอินทร์บุรี–บ.หนองบัวทอง 28 กม.เสร็จแล้วเชื่อมเดินทางสิงห์บุรี-นครสวรรค์ สนับสนุนโครงข่ายเส้นทางการค้าของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

อ่างทอง...สิงห์บุรี ทางผ่านที่พลาดไม่ได้

รายการเที่ยว...มีเรื่องคราวนี้ สุนีย์ เจ้าของเพจ ตัวแทนหมู่บ้าน พาแฟนรายการมุ่งหน้าไปเส้นทางภาคเหนือ แน่นอนว่า ต้องผ่านจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี