โอบกอดทะเลหมอก ชมวิวพาโนรามาที่เขาค้อ                                             

ทะเลหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่ทิวบนเขาที่เรียงตัวสลับซับซ้อนเห็นรำไร เพราะหน้านี้เป็นหน้าฝน  การมาเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเขาค้อได้ชื่อว่า เป็นเมืองแห่งทะเลหมอก ชวนให้หลงใหล โดยเฉพาะในหน้าหนาวและหน้าฝนจะได้สัมผัสเมฆหมอกอย่างหนำใจ
อยากพาทุกคนไปสัมผัสเสน่ห์หน้าฝนที่เขาค้อกันแบบชิลๆ กับจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ห้ามพลาด เริ่มที่ ทุ่งกังหันลมบ้านเพชรดำ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่มีลักษณะเป็นป่าทึบ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายชนเผ่า ทำให้มีความหลากหลายวัฒนธรรม และหลักๆ ก็จะประกอบอาชีพการทำไร่ทำสวน

นอกจากจะมีทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่สูงถึง 100 เมตร จำนวน 24 ต้น ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพสวยๆ อีกด้วย และสามารถนั่งรถรางชมวิวตามจุดชมวิวต่างๆ ท่ามกลางฝนพรำระหว่างทาง ได้บรรยากาศสดชื่นชมมีสวนดอกไม้สีสันสดใส มีทั้งดอกบานไม่รู้โรย ดอกคอสมอส และดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ และยังมีกิจกรรมชวนสนุกอีกทั้งฟอร์มูลาม้ง หรือจะช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชน นั่งจิบเครื่องดื่มร้อนๆที่คาเฟ่ฟินไปกับอากาศดีๆ

ลุยสายฝนโปรยปรายไปต่อที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่เด่นตระหง่านอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน ซึ่งถือว่าเป็นแลนมาร์คของ อ.เขาค้อ ที่นักท่องเที่ยวต่างมุ่งหน้ามากราบไหว้กันไม่ขาดสาย เพราะวัดนี้ถือว่าตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่แวดล้อมไปด้วยภูเขา เมื่อรถวิ่งเข้าสู่ถนนที่มุ่งหน้าสู่วัดภาพเด่นชัดที่ปรากฏผ่านกระจกหน้ารถปฏิเสธไม่ได้ว่า มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ช่างงดงามเสียเหลือเกิน ประกอบกับริ้วหมอกที่ลอยอย่างเอื่อยๆ อยู่ด้านหลังองค์พระ เป็นธรรมภูมิที่งดงามตราตรึงใจของเราซึ่งเพิ่งเคยมาเยือนเป็นครั้งแรก

เดินเข้ายังบริเวณมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่นั่งประทับอยู่บนฐานดอกบัว 3 ชั้น ส่วนด้านล่างฐานองค์พระเป็นอาคารที่ใชประกอบศาสนกิจ และผู้มาปฏิบัติธรรม เราสามารถเข้าไปกราบไหว้พระมหาจักรดิซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านใน ขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นลานกว้างในการกราบสักการะพระพุทธเจ้า 5 พระองค์  ที่มีขนาดสูงถึง 45 เมตร จุดนี้เราสามารถเห็นวิวเขาค้ารอบๆ ได้อีกด้วย
ข้ามถนนมาอีกฝั่งจะเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิตร  เป็นพระเจดีย์ 9 ชั้น โดยเจดีย์ได้มีการประดับตกแต่งด้วยกระเบื่อง กำไร พลอย ลูกแก้ว เศษแก้วเครื่องเบญจรงค์หลากสีสันต่างๆ ทำให้เกิดความงดงามยามสะท้อนกับแสงแดดดูงดงามแปลกตา ขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นด้านบนเป็นจุดชมวิวมุมสูงมองเห็นทิวทัศน์เขาค้อ และวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

บนยอดเจดีย์ยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และ บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป ภายในวัดยังมีการจำลองสิ่งศักดิ์สิทธ์สำคัญๆ อาทิ พระธาตุอินทร์แขวน พระหยกเขียว พระหยกขาว พระสีวลี เป็นต้น

หมุดหมายต่อมา แวะสกายวอล์คเขาค้อภูเลิศ โดยสกายวอล์คของที่นี่จะเป็นพื้นกระจกสลับกับพื้นแผ่นเหล็ก ทำให้เราที่กลัวความสูงลดความน่าหวาดเสียวลง บนสกายวอล์คสามารถเห็นวิวของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและป่าไม้ ทั้งตอนขึ้นและลงจะต้องจับราวบันไดให้มั่นป้องกันอันตรายเพราะในช่วงหน้าฝนพื้นอาจจะลื่นได้ นอกจากนี้ยังรถไฟจิ๋วให้นั่งรับลมชมวิวเล่นเพลินๆด้วยนะ

พาร่างกายไปตะลอนเที่ยวมาทั้งวัน ค่ำคืนนี้เรามาเอนกายพักผ่อนใจกลาง อ.เขาค้อ กันที่ แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวที่เราไปมา ที่นี่ตั้งอยู่เนินเขาสูงสามารถมองเห็นที่ราบด้านล่าง และเทือกเขาค้อที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี เข้ากับการตกแต่งของโรงแรมที่เจ้าของโรงแรมได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมต่างๆในหลายประเทศ ของมาปรับใช้ในการออกแบบห้องพักที่สวยแตกต่างกัน โดยรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 20 ห้องทางแกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท เปิดบริการที่พักโซนใหม่ล่าสุด ภายใน Private Villa Zone คือ โซน Pool Villa ซึ่งมีเพียงแค่ 3 หลังเท่านั้น โดยแต่ละหลังจะมีการตกแต่งตามสไตล์ผสมผสาน แต่จุดเด่นของโซนนี้ คือ มีสระว่ายน้ำระบบน้ำอุ่น พร้อมระเบียงกว้าง ซึ่งตั้งอยู่บนความสูงของรีสอร์ท ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามาเลย อย่างห้อง Two Bedroom President Pool Villa  เพราะมีมา 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และโซนครัว โต๊ะรับประทานอาหาร และมุมนั่งเล่น ที่มีพื้นให้ใช้สอยถึง 120 ตารางเมตร ด้วยสไตล์การตกแต่งสวยงาม เน้นโทนไม้ สบายตาด้วยสีเขียว-ทอง เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการมาพักผ่อนแบบลักซูรี่

ในตอนเช้าจากที่พัก เราจะได้พบกับทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วเขาค้อสวยงามได้บรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมกับเสิร์ฟอาหารเช้าบนสระน้ำสุดชิคแบบ Floating Breakfast   ท่ามกลางอากาศเย็น ชมหมอกเพลินๆ ทางโรงแรมยังมีจุดเด่นเพิ่มสีสันการชมวิวเขาค้อด้วยสกายวอล์กพื้นกระจกใสจุดชมวิวที่แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท รังสคค์ขึ้นเพื่อทำให้ผู้เข้าพักได้เห็นทัศนียภาพ 360 องศาของเขาค้อ ถือว่าเป็นอีกแลนด์มาร์คจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย การชมพระอาทิตย์ตกดินบริเวณด้านหน้ารีสอร์ท ก็มีความสวยงามราวกับภาพวาด

ใครที่ชอบใช้เวลาอยู่กับที่พักที่นี่ก็ตอบโจทย์ มาเที่ยวมาพักได้ตลอดทั้งปี เป็นสถานที่พักผ่อนที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาล้อมรอบ ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ถึง 180 องศา จากทุกระเบียงห้องพัก ที่สำคัญภายในห้องพักและรีสอร์ทมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังมีสถานที่รับรองส่วนกลางขนาดใหญ่ ห้องอาหารและบาร์ ศูนย์ออกกำลังกาย ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายบริเวณสวนหย่อม หรือถ่ายภาพและชมวิวบริเวณดาดฟ้าของตัวอาคาร 

ก่อนกลับกรุงเทพฯ  ชวนกันไปไหว้พระเสริมสิริมงคลที่พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับรีสอร์ท เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของเขาค้อ ตัวเจดีย์มีสีขาวบริสุทธิ์ มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ บริเวณยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่เขาค้อ เพื่อเป็นสิริมงคลและศูนย์รวมจิตใจของทุกคน
ด้านในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญมากมาย รวมถึงพระมหาธรรมราชา พระประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ บรรยากาศโดยรอบมีความเงียบสงบ ผู้ที่เข้ามากราบไหว้จะรู้สึกผ่อนคลายและเย็นสบายใจ

การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความสุขจริงๆ เพราะได้ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อิ่มเอมกับที่พักที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ได้ชมวิวสวยๆ  แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ก็ช่วยเติมพลังงานกายและใจกลับไปทำงานต่อได้แล้ว