สมาคมสหอุตฯพืชกัญชง-กัญชา พบ 'ชลน่าน'ถกความชัดเจน หวั่นกระทบหนัก ผู้ได้ใบอนุญาตจาก อย.กว่าพันราย

10 ต.ค. 2566 – สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา นำโดย นายทศพร นิลกำแหง นายกสมาคม พร้อมด้วยคณะกรรมการเดินทางเข้าพบ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแสดงความยินดีเข้ารับตำแหน่งใหม่ และนำเสนออุปสรรคของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม พืชกัญชงและกัญชา โดยเฉพาะสมาคมฯ ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 21 บริษัท ทั้งในธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่เป็นบริษัทระดับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่
นายทศพร กล่าวว่า ด้วยความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชา ในปัจจุบันทำให้ภาคอุตสาหกรรมหยุดนิ่ง โดยสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทฯ ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งธุรกิจในส่วนต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงความเชื่อของประชาชนบางกลุ่มที่ยังมองว่าพืชกัญชงและกัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์ แต่ความจริงแล้วพืชกัญชง คือ พืชเศรษฐกิจสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น เมล็ด นำไปทำเป็นน้ำมันเพื่อเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาหารเสริม ส่วนลำต้นสามารถนำเส้นใยไปทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า และส่วนสำคัญคือ ช่อดอก สามารถนำไปสกัดเพื่อให้ได้สาร CBD ซึ่งมีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพอีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ

โดยในปัจจุบันในระบบของ อย. มีผู้ขอใบอนุญาตและได้รับอนุมัติแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งใบอนุญาตเพาะปลูกในระบบส่วนกลางและแอพพลิเคชั่นปลูกกัญซึ่งมีจำนวนรวม 38,144 ราย ใบอนุญาตสกัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวม 48 ราย และใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชงทั้งเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมกว่า 1,500 ราย ในส่วนของพืชกัญชาที่จะมีสาร THC อยู่ปริมาณมากนั้นสามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยได้


นายทศพร กล่าวต่อท้ายว่า ทางสมาคมฯต้องการให้รัฐบาลมีนโยบาย และกฎหมายของพืชกัญชงและกัญชาที่ชัดเจน แยกระหว่างพืชกัญชงและพืชกัญชาออกจากกัน โดยออกกฎหมาย ประกาศ หรือ พรบ. ให้ชัดเจน ให้ พืชกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพและความงาม ส่วนพืชกัญชาใช้ในทางการแพทย์ มีมาตรการควบคุมการจำหน่าย และให้ความรู้เรื่องผลกระทบกับผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจภาคอุตสาหกรรมได้รับรู้ถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจ และต้องการให้ทางรัฐบาลผลักดันสนับสนุนคุณประโยชน์ที่แท้จริงของพืชกัญชง รวมถึงสารสกัด CBD ว่ามีคุณประโยชน์หลากหลายสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้ และให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในความปลอดภัยของพืชกัญชงได้อีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชลน่าน' เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรก ชี้แจงทุกประเด็นหลังหลุดเก้าอี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณ เพจแพทย์ชนบท ที่โพสตให้กำลังใจผม และท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่ก็มีบางอย่างที่ผมคิดว่า

ปลอบ 'ชลน่าน-ปานปรีย์' อย่าน้อยใจ ถือว่าชะตายังดีที่ยังไม่ต้องอยู่ในคุกเหมือน 'บุญทรง'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า

'หมอวรงค์' ฟันธง! เพื่อไทยกำลังตกต่ำ ทำลาย 'หมอชลน่าน' จนหมดราคาเป็นเพียงลูกจ้างบริษัท

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พรรคเพื่อไทยกำลังตกต่ำ โดยส่วนตัว ผมกับหมอชลน่าน

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

‘เทพไท’ เชื่อมีอาฟเตอร์ช็อก หลัง ‘ปานปรีย์’ ไขก๊อก จับตาจะเกิดอะไรขึ้นเร็วนี้

เทพไท ชื่นชมการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของนายปานปรีย์ มหิทธานุกร ในการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

'ชลน่าน' เผยคืบหน้าแอมโมเนียรั่วที่บางละมุง มีผู้ป่วย 160 ราย อาการหนัก 9

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประมาณ 30 นาที ว่า ไปเรียนนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์โรงน้ำแข็ง ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่มีแก๊สรั่ว ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นแอมโมเนีย