เชื่อม'ท่าพระจันทร์-ท่าช้าง' สู่ย่านสร้างสรรค์

บนเกาะรัตนโกสินทร์มี 2 ย่านเก่า ’ท่าพระจันทร์-ท่าช้าง’ ที่คนกรุงเทพฯ รู้จักกันดี และยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และวิถีชุมชนสุดคลาสสิก เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบรอบการสถาปนา  90 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ และ 80 ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร มีการจับมือกันจัดกิจกรรม ‘2 ท่า 2 วัง’  เชื่อมท่าพระจันทร์  วังหน้า อันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับท่าช้าง วังท่าพระ ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นเทศกาลศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ Human, Culture, and Arts for All ทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือน พ.ย.  สอดรับกับโครงการเทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานคร Colorful Bangkok 2023 ผลักดันกรุงเทพฯ เป็นมหานครศิลปวัฒนธรรม

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ครบรอบ 80 ปี ของมหาวิทยาลัยศิลปากร และ 90 ปีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สองมหาวิทยาลัยมีแนวคิดร่วมกันจะจัดกิจกรรมหลากหลาย ทั้งเชิงวิชาการ  ประวัติศาสตร์ ศิลปะ การแสดง ดนตรี แฟชั่นโชว์ อาหาร ตลาดชุมชน รวมถึงสตรีทอาร์ต ที่สะท้อนถึงตัวตนและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ 2แห่งนี้ร่วมกัน  มหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กันและต่างมีจุดแข็ง ความเชี่ยวชาญที่สามารถนำมาผสมผสานต่อยอดเพื่อพัฒนาระบบการศึกษา สร้างองค์ความรู้ที่แตกแขนงออกไป เป็นที่มาให้เกิดงาน 2 ท่า 2 วัง

“ พื้นที่ทุกตารางนิ้วของมหาวิทยาลัยไม่ใช่การจัดการเรียนการสอนเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมในทุกมิติและการสร้างผู้นำรุ่นใหม่สำหรับอนาคต มธ.ดำเนินงานตามแนวทางสร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม 5F ได้แก่ อาหาร (Food) แฟชั่น (Fashion) เทศกาล (Festival) ภาพยนตร์ (Film) ศิลปะการป้องกันตัว (Fighting) ผ่านการจัดการหลักสูตร การวิจัย และการบริการวิชาการ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน เช่น การสร้างสรรค์แผนที่วัฒนธรรม ต้นแบบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ต้นแบบบริการทางวัฒนธรรม ด้วยความร่วมมือจากชุมชนและภาคี เพื่อให้ชุมชนรับรู้ถึงมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ประวัติศาสตร์ของชุมชน เข้าใจปัญหาที่ขัดขวางการพัฒนา และแนวทางการพัฒนาจนเกิดผลผลิตที่สร้างผลกระทบทางสังคม สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสังคม”  รศ.เกศินี กล่าว

ศ.ดร.ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ม.ศิลปากรมุ่งมั่นในการดำเนินงานทั้งด้านวิชาการ การวิจัย การบริการสังคม และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมตลอดระยะเวลา 80 ปี ทั้งเป็นต้นแบบด้านศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนผ่านวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งการสร้างสรรค์ บูรณาการศาสตร์และศิลป์ เพื่อความผาสุกของสังคมอย่างยั่งยืน” จุดร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ไม่เพียงมีพื้นที่ตั้งบนเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในเหมือนกันเท่านั้น แต่ยังเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศที่มีบทบาทเชิงบวกต่อชุมชนโดยรอบและสังคมไทย กิจกรรม “2 ท่า 2 วัง” Human, Culture, and Arts for All จะเป็นประจักษ์แห่งความร่วมมือสองมหาวิทยาลัยที่มีต่อสังคมยาวนาน

“ เราจะเปิดพื้นที่เป็นเวทีให้นักศึกษาของทั้งสองสถาบันได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แสดงผลงานตามความถนัด ทั้งงานศิลปะ งานออกแบบ งานวิชาการ งานวิจัย รวมทั้งเป็นโอกาสอันดีที่จะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันถึงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นระหว่างภาคีเครือข่ายต่างๆ สะท้อนสัมพันธภาพที่ดี  ทั้งยังเตรียมความพร้อมนำกิจกรรมต่างๆ จัดแสดงในงาน เช่น Graffiti จากศิลปิน ศิษย์เก่า นักศึกษา และผู้สนใจ แฟชั่นโชว์ การแสดงดนตรีจากนักศึกษา Projection Mapping Green Market and Food Truck ร้านค้าชุมชนในย่านสร้างสรรค์จาก กทม. ทั้งยังผสานกับการจัดงานศิลปะ แสงสี และดนตรี Colorful Bangkok 2023 ด้วย” ศ.ดร.ธนะเศรษฐ์ กล่าว

พื้นที่ท่าช้าง ย่านประวัติศาสตร์ที่ทันสมัย

ด้าน ภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม.  กล่าวว่า จากการจัดเทศกาลศิลปะกรุงเทพ Colorful Bangkok ปีที่แล้ว เป้าหมายร่วมกันขับเคลื่อนวาระทางศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมให้ กทม. เป็นมหานครแห่งศิลปวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พบว่า เทศกาลนี้สร้างให้ กทม. กลายเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งทัศนศิลป์ วรรณกรรม การแสดง ดนตรี ภาพยนตร์ วัฒนธรรมชุมชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบการพัฒนาเมือง ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนดสังคมและเศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น ส่วน “2 ท่า 2 วัง” ที่จะเกิดขึ้นเป็นกิจกรรมไฮไลท์ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน ผู้คน กับมหาวิทยาลัย ช่วยขับเคลื่อนเมืองในฐานสังคมและเศรษฐกิจให้เติบโต และหนุนกรุงเทพฯ เป็นวิทยาลัยแห่งศิลปวัฒนธรรมระดับนานาชาติ

ท่าพระจันทร์ ย่านเก่าแก่บนเกาะรัตนโกสินทร์

สำหรับเทศกาล Colorful Bangkok 2023 เวลานี้ กลับมาแล้ว กทม.จับมือกับหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะ ใช้เป็นเวทีแสดงความสามารถของศิลปิน และยกพื้นที่ให้คนเมืองเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ในหลายย่านทั่วกรุง นายภิมุขกล่าวขอบคุณสองมหาวิทยาลัยที่จัดกิจกรรมเปิดพื้นที่สาธารณะให้คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างสีสันจากงานศิลปะแสงสีและดนตรีให้แก่ กทม. ในพื้นที่เขตเมืองเก่าชั้นใน เป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่างภาครัฐและสถาบันการศึกษาจะส่งผลดีต่อเมืองในระยะยาว

บรรยากาศชุมชน ร้านค้าย่านท่าพระจันทร์

ทั้งนี้ กิจกรรม “2 ท่า 2 วัง” Human, Culture, and Arts for All กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5, 12, 19, 26 พ.ย. 2566 หรือ ทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือน พ.ย. ในลักษณะเหย้าเยือน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นเจ้าภาพ ในวันอาทิตย์ที่ 5 และ 19 พ.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ เป็นเจ้าภาพในวันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 พ.ย.กิจกรรมย่อย ประกอบด้วย กิจกรรม Library tour เพื่อนักศึกษา กิจกรรมเวิร์คช็อปซ่อมหนังสือ  กิจกรรม Human and Well being

2 ท่า 2 วัง เปิดพื้นที่เสนองานศิลปะ

2 ท่า 2 วัง เปิดพื้นที่แบ่งปันความรู้กับกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกรุงรัตนโกสินทร์ ซุ้มบูชาพระ 50 ปี ไทยคดี เสวนา “สำนักหมายชูประเทศชาติ” ทบทวน ถกเถียงนิยมชาติ ผ่านปูชนียบุคคลธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ ชวนมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับพื้นที่ผ่าน Projection Mapping แสดงแสงสีธรรมศาสตร์ โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง มธ., การแสดงโขนรามเกียรติ์ โดย ชมรมนาฏศิลป์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กิจกรรมฉายหนังกลางแปลงให้แลกเปลี่ยน

มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า วังท่าพระ มาก่อน

นอกจากนี้ ชวนชมแฟชั่นโชว์ผลงานออกแบบของนักศึกษา  2 มหาวิทยาลัยด้วยแนวคิด Zero Waste Adornment และ Diversity of the Mind นอกจากนี้ จัดกิจกรรมสำรวจย่านเก่าผ่าน Waking Tour มหาวิทยาลัยในย่านประวัติศาสตร์เกาะรัตนโกสินทร์ และชวนมาดื่มด่ำการแสดงดนตรีริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดย TU Band และ TU Folk Song  การจัด “2 ท่า 2 วัง” สอดรับกับโครงการเทศกาลศิลปะกรุงเทพมหานคร Colorful Bangkok  มีการจัดกิจกรรมศิลปะและวัฒนธรรม ภายใต้นโยบาย 12 เดือน 12 เทศกาล ตลอดปี ทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 – มกราคม 2567 สนใจติดตามอัพเดทกิจกรรมทาง Facebook Pages มหาวิทยาลัยศิลปากร, สถาบันไทยคดีศึกษา มธ., มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรุงเทพมหานคร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง