แก้หนี้นอกระบบคืบ! 22 วันไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 233 ราย มูลหนี้ลดลง 97 ล้านบาท


23 ธ.ค.2566 - นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้หนี้นอกระบบ ว่าล่าสุดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2566 มีมูลหนี้รวม 6,697.642 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 106,863 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 93,208 ราย และการลงทะเบียนที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 13,655 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 77,525 ราย จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร 6,734 ราย เจ้าหนี้ 5,749 ราย มูลหนี้ 566.522 ล้านบาท จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุดคือแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 151 ราย เจ้าหนี้ 117 ราย มูลหนี้ 6.621 ล้านบาท

สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 1,445 ราย ไกลเกลี่ยสำเร็จ 233 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 144.119 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 46.561 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 97.557 ล้านบาท ซึ่งมีจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดคือจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 179 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 8 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 15.218 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 7.65 แสนบาท ทำให้มูลหนี้ของประชาชนในจังหวัดลดลงมากถึง 14.453 ล้านบาท

“นี่คือความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดของการแก้หนี้นอกระบบ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบอยู่ แล้วยังลังเลใจว่าจะเข้ามาแจ้งดีไหม ขอท่านได้โปรดตัดสินใจเข้ามาสู่กระบวนการที่ภาครัฐเตรียมพร้อมจะช่วยท่านอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ การแก้หนี้นอกระบบ หากได้รับความร่วมจากทุกฝ่าย จะสามารถดึงเม็ดเงินที่หลุดออกไปจากมือประชาชนไหลเข้าไปอยู่ในมือนายทุนปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท เม็ดเงินมหาศาลจำนวนนี้ สมควรจะถูกบริหารจัดการให้กลับคืนสู่มือพี่น้องประชาชนเพื่อการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้เศรษฐกิจภายในของประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีพลังอีกครั้งครับ” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ ไม่ได้จ้องแต่จะกู้เงินมาแจกอย่างที่คนมองโลกในแง่ลบพยายามที่จะหาช่องโจมตีทุกรูปแบบ แต่เรามีนวัตกรรมในการคิดค้นนโยบายและโครงการที่จะต้องใช้งบประมาณน้อยมากหรือแทบไม่ต้องใช้เลยเพื่อเติมเงินใหม่กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทย ที่กำลังตกอยู่ในสภาพเสมือนร่างกายที่มีเลือดหล่อเลี้ยงในระบบเหลืออยู่น้อยมาก ๆ จนกำลังจะก่อให้เกิดวิกฤตร้ายแรงได้ วิธีแก้วิกฤตให้ดีที่สุดคือการลงมือดักหน้าก่อนที่วิกฤตนั้นจะเกิดขึ้นแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯปลื้มแบงก์รัฐขานรับลดดอกเบี้ย 0.25%

นายกฯ ชื่นชมมาตรการสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย และกลุ่มเปราะบาง เป็นระยะเวลานาน 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เชื่อมั่นเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชน

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

โฆษกรัฐบาล โต้ยิบข้อครหาเงินดิจิทัลเอื้อเจ้าสัว หลังครม.เห็นชอบหลักการ

นายชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม. มีการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือไปหลายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปเป็นหลักการ ของโครงการเงื่อนไขผู้ที่ได้รับ 50 ล้านคน​ อายุ 16 ปีขึ้นไป​ มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท​

'หมอชัย' สยบข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโฆษกรัฐบาล ว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มีตนกองเชียร์ไม่เยอะ

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม