เมื่อโลกก้าวสู่ภาวะ”โลกเดือด”แล้ว แต่หลายคนอาจไม่ตระหนักว่าภัยร้ายใกล้ตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรง จะมีผลกระทบต่อเราและลูกหลายของเรามากแค่ไหน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และ “The Weather Channel” แบรนด์ผู้บริโภคหลักของ “The Weather Company” ออกแคมเปญ “Weather Kids”รณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหา โดยใช้เด็กๆแต่ละประเทศ เป็นนักพยากรณ์รุ่นจิ๋ว ดำเนินรายการ พยากรณ์อากาศฉบับพิเศษจากปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเป็นโลกอนาคต แม้โดยรวมจะเหมือนกับรายการพยากรณ์อากาศทั่ว ๆ ไป และเป็นการคาดการณ์ถึงสภาพอากาศที่ทุกคนจะตื่นมาเจอในปี ค.ศ. 2050 หรือในอีก 26 ปีข้างหน้า หากโลกของเราไม่สามารถต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีกว่านี้
โครงการนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากนักแสดงชื่อดังระดับโลกและเป็นทูตสันถวไมตรีของ UNDP อาทิ นักแสดงชื่อดังชาวมาเลเซีย มิเชล โหย่ว เจ้าของรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ คอนนี่ บริตตัน นักแสดงชาวอเมริกันผู้มากความสามารถ และ นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู นักแสดงชายชาวเดนมาร์ก โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ UNDP เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงและเรียกร้องให้คนทั่วโลกร่วมมือกันป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยากจริงจังเพื่อคนรุ่นถัดไป
เนื้อหาส่วนหนึ่งของรายการได้มีการเตือนผู้ชมว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ซึ่งมันเป็นปัญหาที่เรากำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน และจะส่งผลกระทบต่อผู้คน สภาพเศรษฐกิจโลก รวมถึงส่งผลต่อประชากรเด็ก 94% ของโลก ทั้งเสถียรภาพด้านอาหารและความเป็นไปได้ที่ผู้คนทั่วโลกต่างต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น คิดเป็นจำนวนรวมกว่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ทุกอย่างกำลังประสบสภาวะที่น่าสะพรึงกลัว เช่น โรงเรียนถูกยกเลิกการเรียนการสอนเพราะอากาศร้อนเกินไป ไฟป่าที่เผาทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง และน้ำท่วมทำให้ทุกอย่างเปียกชื้นและเละเทะ” หนึ่งในพิธีกรรุ่นจิ๋วรายงาน พร้อมกับย้ำอีกว่า สำหรับพวกเรา สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การรายงานสภาพอากาศ แต่มันคืออนาคตของพวกเรา ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมลงนามให้คำปฏิญาณในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยการใช้จ่ายเงินกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืนและตระหนักรู้ถึงทางออกของปัญหาสภาพภูมิอากาศ
ขณะเดียวกัน วิดีโอซีรีส์ใหม่เรื่อง “Climate Action Explained” ของ UNDP ที่บรรยายโดย นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู ยังได้ยกตัวอย่างแนวทางการแก้ปัญหาในปัจจุบันที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม
อาคิม สไตเนอร์ ผู้บริหารของ UNDP กล่าวว่าความล่าช้าในการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้โลกเข้าสู่สภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของ ‘เด็ก ๆ ในวันนี้’ และรุ่นอนาคต อย่างไรก็ดี เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้หากเราเร่งการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้นและขยายออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงการลดการผลิตคาร์บอนในเศรษฐกิจของเราและสร้างการเข้าถึงพลังงานสะอาดสำหรับทุกคน การปกป้องและการฟื้นฟูธรรมชาติ และการผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมลงนามให้คำปฏิญาณการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศของพวกเขา
สำหรับ แคมเปญ Weather Kids เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของ UNDP ในการกระตุ้นกระแสสังคมและการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมเพื่อดำเนินการที่จะไปสู่การเจรจาในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ “COP30” ที่จะจัดขึ้นในประเทศบราซิลในปี 2568 โดยงาน COP30 จะเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบสิบปีของความตกลงปารีสปี 2558 และเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้โลกมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยประเทศที่เข้าร่วมจะเสนอรับการดำเนินการและเป้าหมายใหม่ๆ ที่พวกเขาวางแผนที่จะดำเนินการ แผนเหล่านี้ที่รู้จักกันในนาม ‘การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด’ (Nationally Determined Contributions หรือ NDCs) เป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้ระดับโลกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ”
แคมเปญ Weather Kids ยังได้รับการสนับสนุนจาก UNDP เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและการกระทำเพื่อสิ่งแวดล้อม โดย UNDP Climate Hub ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเป็นศูนย์การดำเนินการทางสิ่งแวดล้อมของระบบสหประชาชาติ ซึ่งมีโปรแกรมสนับสนุนใหญ่ที่สุดในประเทศเกือบ 150 ประเทศ โครงการริเริ่มของ UNDP ที่เรียกว่า Climate Promise ได้สนับสนุนการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนโดยการร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกกว่า 85% ในการส่ง NDCs ของพวกเขา
ข้อมูลที่ทางแคมเปญได้มีการคาดการณ์และจำลองรายงานสภาพอากาศให้ผู้ชมได้รับชมผ่านทางโทรทัศน์นั้น มีการอ้างอิงข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) และข้อมูลจากเว็บไซต์ Human Climate Horizons ของ UNDP
แคมเปญ Weather Kids ได้นำฉายกว่า 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยมีตัวแทนเด็ก-เยาวชนเข้าร่วมเป็นผู้ประกาศข่าวรุ่นจิ๋ว โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย ได้ร่วมมือกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสื่อมวลชนต่าง ๆ ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วิดีโอแคมเปญดังกล่าว ซึ่งได้มีการฉายวิดีโอผ่านป้ายโฆษณาดิจิทัลในสนามบินดอนเมือง สนามบินในพื้นที่จังหวัด ๆ ทั่วประเทศ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และ สงขลา (อ.หาดใหญ่) รวมถึงป้ายโฆษณาดิจิทัลใน 7-11 ถึง 1,200 สาขา ทั่วไทย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้ผู้สนใจติดตามรายละเอียดของแคมเปญ ได้ทางเว็บไซต์ www.weatherkids.org
ด้านนักแสดงระดับโลก มิเชล โหย่ว นักแสดงและทูตสันถวไมตรีของ UNDP กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นปัญหาไกลตัวอีกต่อไป แต่มันเป็นปัญหาที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชุมชนทั่วโลก จากประสบการณ์ของตนเอง ที่เคยให้ความช่วยเหลือชุมชนจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว และจากการที่ได้เห็นว่าผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นมีความรุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ จึงเล็งเห็นความจำเป็นในการเร่งดำเนินการร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นถึง 1.5°C
“ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นแคมเปญ Weather Kids ของ UNDP และถึงแม้ว่าในตอนนี้รายงานสภาพอากาศของทางโครงการจะเป็นเพียงแค่สมมติฐาน แต่เพื่อให้เราดำเนินการอย่างมีความหมายเพื่อปกป้องโลกเพื่อลูกหลานของเราและคนรุ่นต่อๆ ไป ดิฉันขอเชิญชวนทุกท่านร่วมลงนามให้คำปฏิญาณของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่ออนาคตของโลกของเรา”มิเชล โหยวกล่าว
นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู นักแสดงและทูตสันถวไมตรีของ UNDPกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่สำคัญในยุคปัจจุบัน และตนเองก็ไม่อยากจะมองมันเฉยๆ ซึ่งการที่ได้ทำงานร่วมกับ UNDP และโครงการต่าง ๆ ได้เห็นความตั้งใจของกลุ่มชมชนในการที่จะรับมือกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อม
” ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องโลกของเราและส่งต่อให้เด็กรุ่นถัด ๆ ไป โดยแคมเปญ Weather Kids ของ UNDP ทำให้เราได้พบกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการด้านสภาพอากาศของเรา ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาที่มีอยู่ จะช่วยให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าครึ่งหนึ่งภายในปี ค.ศ. 2030 เราสามารถเริ่มลงมือได้ตั้งแต่วันนี้ มาร่วมลงนามให้คำปฏิญาณเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่ออนาคตโลกของเรา”
คอนนี่ บริตตัน นักแสดงและทูตสันถวไมตรีของ UNDPกล่าวว่า โครงการ Weather Kids รู้ทันเท่าสถานการณ์จริง ๆ เพราะเราต่างก็ทราบกันดีว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤตสภาพภูมิอากาศ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ Weather Kids ของ UNDP เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลกเกิดการปฏิบัติเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้ง
เซเลสต์ เซาโล องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO)กล่าวว่า ปัญหาทางสภาพอากาศเป็นความท้าทายที่มนุษยชาติต้องเผชิญอีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยในปี ค.ศ. 2023 นับเป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา และส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม อาทิ คลื่นความร้อน น้ำท่วม ความแห้งแล้ง ไฟป่า ความร้อนในมหาสมุทรและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากน้ำแข็งในทะเลกำลังละลาย และเราเสี่ยงที่จะสูญเสียธารน้ำแข็งซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแหล่งน้ำและระบบนิเวศอันมีค่าของเราอีกด้วย หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังส่งสัญญาณ Red Alert และกำลังเริ่มจัดการกับความท้าทายนี้ ซึ่งการตัดสินใจของเราในวันนี้จะกำหนดอนาคตของคนรุ่นต่อไป โครงการนี้เป็นการเรียกร้องให้เริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ของผู้คนและโลกของเรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดร.ธรณ์’ ชี้ธรรมชาติรับไม่ไหวแล้ว แจ้งเตือนรับมือฝนโลกร้อน
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat"