สสธวท เชิดชูนักธุรกิจสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง 2567

เพื่อยกย่องเชิดชูสตรีนักธุรกิจสตรีตัวอย่าง นักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง และสตรีผู้นำธุรกิจอนุรักษ์โลกตัวอย่าง สร้างแรงบันดาลใจการทำธุรกิจแก่สตรีนักธุรกิจรุ่นใหม่ พัฒนาสังคมควบคู่กับรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสมดลให้โลกใบนี้ สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) จัดพิธี “ประกาศเกียรติคุณรางวัลสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำปี 2567” ขึ้น โดยนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธาน พร้อมด้วยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. คุณหญิงณัฐิกา  วัธนเวคิน  อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์  นางสาวฐิตินันท์  วัธนเวคิน  รองประธานสหพันธ์ฯ และประธานดำเนินงานโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน 6 ภาคี  Ms.Niamh  Maree  Collier-Smith  Residence Representative, United Nations Development Program ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ เมื่อวันก่อน

รางวัลทรงเกียรตินี้มีเป้าหมายสูงสุดร่วมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมที่มั่นคง โดยนักธุรกิจและนักวิชาชีพสตรีทุกสาขาอาชีพ  พร้อมทั้งบรรลุปรัชญา “อนุรักษ์โลกสีเขียว”  การดำเนินธุรกิจและวิชาชีพควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนสตรีวัยก้าวหน้าให้มีความพร้อมเป็นพลังสร้างสรรค์แห่งการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์

คุณหญิงณัฐิกา  วัธนเวคิน  อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์  กล่าวว่า พิธีประกาศเกียรติคุณรางวัลสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นพันธกิจหลักที่สหพันธ์ฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อยกย่อง เชิดชูบทบาทสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จ และมีคุณธรรม จริยธรรมเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม  อีกทั้งเป็นกำลังใจแก่สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และกระตุ้นการพัฒนาผลงานที่ดีอยู่แล้วให้ทวีคุณค่ายิ่งขึ้น  สร้างแรงบันดาลใจ  จุดประกายความคิดที่จะทำให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานไปสู่ความสำเร็จที่กว้างขวางแก่กลุ่มสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น และพร้อมที่จะร่วมเป็นสมาชิกของ สสธวท ในจังหวัดต่างๆ ทั้ง 24 สมาคม

“ ปีนี้จัดมอบรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2567 เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่สร้างคุณานุประโยชน์ให้แก่องค์กรและสังคมมาอย่างยาวนาน  โดยผู้ได้รับรางวัลต้องมีอายุ 75 ปีขึ้นไป มีสภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และทำงานเพื่อคุณประโยชน์ต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง  6 คน อาทิ นางภัทรา ศิลาอ่อน, ดร.สุพร สุวัฒนโนดม เป็นต้น  “ ประธาน สสธวท กล่าว

นางมาลีรัตน์  ปลื้มจิตรชม ประธานดำเนินงานการจัดงาน กล่าว ทุกรางวัลล้วนคัดเลือกสตรีที่มีความสามารถ ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงทั้งในภาคธุรกิจและวิชาชีพจากภาครัฐและเอกชน เชื่อว่าจะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่สตรีรุ่นใหม่ พัฒนาตัวเอง ยกระดับสถานภาพในการประกอบธุรกิจหรือในด้านการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพทันยุคสมัย ตลอดจนคำนึงถึงประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานเพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ

นายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.พม. กล่าวว่า ขอบคุณสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ที่เป็นเครือข่ายดำเนินงานด้านการส่งเสริมพัฒนาสตรีทุกระดับให้มีความรู้ความสามารถด้านการประกอบอาชีพและธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงานด้านการพัฒนาสังคม เพื่อให้นักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพตระหนักในหน้าที่และใช้ความรู้ความสามารถให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งยกระดับและเชิดชูเกียรตินักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีที่มีความสามารถ มีความวิริยะอุตสาหะจนประสบความสำเร็จ หรือเป็นผู้นำแนวคิดในการดำเนินธุรกิจเชิงอนุรักษ์ เพื่อจุดประกายการทำธุรกิจเพื่อพัฒนาสังคม รักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่บุคคลในสังคม ขอแสดงความยินดีกับนักธุรกิจสตรีตัวอย่าง นักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง และสตรีผู้นำธุรกิจอนุรักษ์โลกตัวอย่าง ประจำปี 2567 เชื่อมั่นว่า รางวัลแห่งความภาคภูมิใจจะเป็นพลังผลักดันให้มีแรงกายแรงใจพัฒนางานควบคู่กับการทำงานเพื่อชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสตรีที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า มีทั้งสิ้น 62 คน จากสาขาต่างๆ ได้แก่ นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 4 คน อาทิ นางชไมมาศ ชาติเมธากุล, ผศ.ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 18 คน อาทิ นางภัทรนิษฐ์ เตชะไชยสิทธิ์ นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 4 คน อาทิ นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย

นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 18 คน อาทิ ดร.ประไพศรี ประเสริฐแก้ว นักธุรกิจสตรีดาวรุ่งตัวอย่าง 4 คน อาทิ นางสาวสุชาร์ สารจันทร์ นักวิชาชีพสตรีดาวรุ่งตัวอย่าง 4 คน อาทิ นางสาวศุภลักษณ์ วิริยา ส่วน ว่าที่ร้อยตรีหญิงเจนนิเฟอร์ มาบางครุ ได้รับทุนเดินทางไปร่วมประชุมในฐานะ สมาชิกสตรีวัยก้าวหน้าที่ 1 คน รวมถึงนักธุรกิจสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง 6 คน อาทิ นางสาวกาญจนาภา วิชัยดิษฐ และนักวิชาชีพอนุรักษ์โลกตัวอย่าง 3 คน อาทิ นางแสงจันทร์ ระวังกิจ, นางสาวอรยา สูตะบุตร เป็นต้น

นางสาวอรยา สูตะบุตร ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Big Trees และ มูลนิธิรักษ์ไม้ใหญ่ เจ้าของรางวัลนักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง เล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำงานดูแลรักษาต้นไม้เมืองใหญ่ว่า เริ่มจากเปิดเพจ Big Trees เติบโตเป็นมูลนิธิรักษ์ไม้ใหญ่ พัฒนาสู่การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม และบริษัทต้นแบบให้บริการดูแลตัดแต่งต้นไม้ หรือวิเคราะห์ปัญหา โดยมีการเก็บค่าบริการ เพื่อให้เลี้ยงตัวเองได้ ตลอด 7 ปีของการทำงาน มีผลงานรูปธรรม ดูแลต้นไม้บนถนนสีลม และถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

” ปัจจุบันสถานการณ์ต้นไม้ใหญ่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และจ.เชียงใหม่ ดีขึ้น ประชาชนมีความตื่นตัวมากขึ้น หน่วยงานของรัฐมีบุคลากรที่อบรมด้านการดูแลต้นไม้มากขึ้น ส่วนภาคเอกชน เจ้าของโครงการ อาคาร และสถาปนิกเริ่มให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นไม้ใหญ่อย่างถูกต้องและยั่งยืนมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม มีอุปสรรคหลายด้านอย่างเรื่องค่าบริการรุกขกร หลายคนมองว่า ราคาสูง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า กว่าจะได้เป็นรุกขกรทำงานบนใต้ไม้สูงใหญ่อย่างปลอดภัยได้ต้องผ่านอบรมไม่น้อยกว่า 1 – 2 ปี ไม่รวมค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีราคาสูง ทาง กลุ่ม Big Trees จะเดินหน้าสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่องเรื่องการดูแลต้นไม้ใหญ่ในเมือง รวมถึงการปลูกต้นไม้ช่วยกรองฝุ่นในเมือง ” นางสาวอรยา กล่าว

นางภัทรา ศิลาอ่อน นักธุรกิจสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า เผยถึงหลักในการบริหารธุรกิจร้านอาหาร S&P มานานกว่า 50 ปี ว่า ยึดหลักพรหมวิหาร 4 อันได้แก่ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา เน้นให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข เพื่อให้ผลงานออกมาดีมีคุณภาพ เมื่อใดที่ธุรกิจประสบกับปัญหาหรืออุปสรรค ใช้วิธีทำปัญหาให้กลายเป็นโอกาส โดยทีมงานคุณภาพเปี่ยมไปด้วยความสามารถในทุกด้าน อันเป็นส่วนผสมระหว่างคนรุ่นใหม่ที่เก่งกับคนรุ่นเก่าผู้มากประสบการณ์ในทุกด้านของธุรกิจ เมื่อร่วมมือร่วมใจร่วมกำลังความคิดและคุณธรรมที่เป็นแนวทางปฏิบัติ นำไปสู่พลังที่พาครอบครัว S&P ก้าวข้ามปัญหาทุกอย่างได้ตลอดมา ทั้งยังดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ทั้งนี้ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว ครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะรักทั้งครอบครัวและงานจึงดูแลทั้งสองส่วนให้ดีที่สุด

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ซีอีโอหญิงแกร่งแห่งธนาคารกสิกรไทย เจ้าของรางวัล นักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง ระดับประเทศ กล่าวถึงหลักการทำงานว่า ต้องตั้งเป้าหมาย วางแผนงานให้ชัดเจน รวมถึงมอบหมายงานและติดตามงานเป็นระยะ เพื่อช่วยสนับสนุนเมื่อพนักงานต้องการการตัดสินใจหรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใดๆ ก็ตาม ในเวลาเดียวกันต้องให้อิสระคนทำงานด้วย สิ่งเหล่านี้ยกให้ต้นแบบคนสำคัญอย่าง คุณบัณฑูร ล่ำซำ ในเรื่องของวิสัยทัศน์กว้างไกลและความเมตตาสูง ทำให้ได้เรียนรู้จากท่านทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ คุณพ่อ ศ.สังเวียน อินทรวิชัย เป็นต้นแบบสำคัญ ท่านพูดอยู่เสมอไม่ได้เก่ง แต่มีความพยายามไม่แพ้ใคร ซึมซับเรื่องความเพียรพยายามมาจากคุณพ่อ ควบคู่กับการเวิร์คฮาร์ดตามสไตล์หญิงยุคใหม่ และไม่ลืมสร้างสมดุลชีวิตด้วยการจัดสรรเวลาให้กับครอบครัวเหมือนเป็นหน่วยเติมพลังงานชั้นเยี่ยมให้กลับมาลุยงานได้เต็มที่ รวมถึงการออกกำลังกาย เชื่อว่าร่างกายแข็งแรง หัวใจจะแกร่ง

นางแสงจันทร์ ระวังกิจ ปลัด อบต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี เจ้าของรางวัล นักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง เผยว่า ใช้เวลากว่า 7 ปีกับความมุ่งมั่นที่จะนำพาคนในชุมชนให้มีความสุขบนพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความมั่นใจว่า หากน้อมนำแนวทางพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ว่า เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาปฏิบัติในชุมชนแล้ว ประชาชนจะมีความเป็นอยู่ที่พอเพียง อยู่รอด  มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงทางอาหาร การจัดการขยะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตทุกคน ผลักดันให้สมาชิกในชุมชนคัดแยกขยะในครัวเรือนตัวเอง แล้วนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดย ขยะเปียก นำไปทำปุ๋ยหมักเพื่อวนกลับมาสู่แปลงผัก ด้วยการเข้าร่วมโครงการพระราชดำริ โครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง ฯลฯ  ส่วน ขยะแห้ง มีธนาคารขยะให้บริการสมาชิกในชุมชน ทุกครัวเรือนจะมีสมุดธนาคารของตัวเอง รายได้ส่วนนี้นำมาแปลงสวัสดิการดูแลสมาชิกในชุมชน