กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก'

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังเขื่อนขุนด่านปราการชล อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงเปิด “ศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา” และงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร จังหวัดนครนายก” เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

ศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิ
ชัยพัฒนาประสานกับสภากาชาดไทย ในการสร้างศูนย์ฝึกอบรมตามแนวพระราชดำริบนที่ดินของสภากาชาดไทย เนื้อที่ 8 ไร่ 54 ตรว. เพื่อเป็นศูนย์ฝึกอบรมและเป็นที่พักของผู้มาศึกษาดูงานโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา โดยที่มาของชื่อ “สุดาเดือนเพ็ญ” ตั้งตามความประสงค์ของผู้บริจาคที่ดินคือ นางสุดา วรธงไชย และนางดวงเดือน เรืองพาณิชย์ โดยศูนย์ฯ เปิดให้บริการในปี 2562 ประกอบด้วยอาคารพัก 7 อาคาร จำนวน 29 ห้อง รวม 106 เตียง “ร้านภัทรพัฒน์”และ“ร้านกาแฟภัทรพัฒน์ By สุดาเดือนเพ็ญ”

จากนั้นเสด็จฯ ไปยังพื้นที่ส่วนขยายของศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญฯ โอกาสนี้พระราชทานแพะพ่อพันธุ์ชามี่ จำนวน 10 ตัว จากโครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านดงพระพร (ศูนย์ผลิตและกระจายพันธุ์สัตว์) จังหวัดเชียงราย   แก่เกษตรกรในจังหวัดนครนายก พร้อมทั้งทรงรับพระราชทานใบรับรองพันธุ์และประวัติแพะพ่อพันธุ์ชามี่จํานวน 5 ตัว  จากบริษัท  ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ที่ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อมอบให้แก่โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านดงพระพรฯ จากนั้นทรงเปิด “อาคารใบไม้”  ซึ่งเป็นสถานที่เรียนรู้ในเชิงปฏิบัติแห่งใหม่สำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งเป็นที่จัดกิจกรรมต่างๆ โดยมูลนิธิชัยพัฒนาได้ขอใช้พื้นที่จากกรมชลประทาน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงานคณะกรรมกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกรมชลประทาน โดยงบประมาณในการก่อสร้างอาคารมาจากการสนับสนุนของ Diplomatic Council Thailand 

จากนั้น เสด็จฯ ไปยังศาลาทหารพันธุ์ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” และทอดพระเนตรโครงการทหารพันธุ์ดี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนาและกองทัพบก ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริเพื่อให้ทหารกองประจำการมีความรู้และประสบการณ์ในการทำการเกษตรและขยายผลสร้างเครือข่ายในชุมชนที่อยู่อาศัย ซึ่งได้จัดโซนพิเศษสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจการเกษตรโดยเฉพาะ บนพื้นที่ส่วนขยายนของศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญฯ โดยนำเสนอนิทรรศการความรู้ และวางจำหน่ายสินค้าคุณภาพเพื่อการเกษตร อีกทั้งนำสัตว์และเมล็ดพันธุ์มาจัดแสดงและจำหน่ายในงาน เช่น โคนม ไก่พันธุ์เบตง ไก่งวง แพะพันธุ์แบล็คเบงกอล แพะพันธุ์บอร์ และกบนา เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) ซึ่งร่วมกับทหารพันธุ์ดีในการขยายผลสู่ชุมชน ได้มาจัดแสดงเทคโนโลยีทางการเกษตรและกิจกรรมสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจ

ต่อมาเสด็จฯ ไปยังสวนสาธารณะบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล ทรงเปิดงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก ซึ่งจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 – 22.00 น. มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินงานตั้งแต่ปี 2531 ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วยโครงการพัฒนาทั่วทุกภาคของประเทศที่ล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งโครงการพัฒนาของมูลนิธิชัยพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ได้ต่อยอดขยายผลเกิด “ผลผลิตจากการพัฒนา” ที่มีความหลากหลายจึงเกิดแนวคิดการจัดงาน “ชัยพัฒนาแฟร์” โดย สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการจัดงานฯ ซึ่งไม่ใช่เพียงงานแฟร์เพื่อจำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ประชาชนทั่วไปจะได้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งคุณประโยชน์และเรื่องราวความหมายที่อยู่เบื้องหลังผลิตผลจากการพัฒนา รวมทั้งรู้จักแนวคิดด้านการพัฒนา ผลงาน และผลิตผลต่างๆ จากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดี อันนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศจนเกิดเป็น “ชัยชนะจากการพัฒนา” ตามที่ได้พระราชทานชื่อมูลนิธิไว้ว่า “ชัยพัฒนา”

ในโอกาสเสด็จฯ ทรงเปิดงานครั้งนี้ ทรงปรุงอาหารเมนูพระราชทาน 3 อย่าง ได้แก่ ทอดมันหัวปลี ทอดมันข้าวโพด และทอดมันข้าวโพดใส่ใบเล็บครุฑ และได้ทอดพระเนตรร้านค้าในโซนต่างๆ ได้แก่ โซนร้านค้าของมูลนิธิชัยพัฒนา จำหน่ายผลิตผลจากการพัฒนาจากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศ กว่า 45 โครงการ รวมทั้งร้านภัทรพัฒน์ และร้านจันกะผัก โอกาสนี้ มูลนิธิชัยพัฒนาได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ สปอร์เห็ดหลินจือ บรรจุแคปซูล ตราภัทรพัฒน์ จากโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาเกษตรกรรมบนพื้นที่สูงของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมแพะชามี่ โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาบ้านดงพระพร อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย คือ ชีสนมแพะชามี่ เสริมโปรไบโอติก มีชีสเกาด้าและเชดด้า, ไอศกรีมชีสจากนมแพะ และ Cheese Box

โซนร้านค้าจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งศูนย์สาขาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โซนสินค้าเด่น ร้านอาหารดัง และผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดนครนายก พร้อมกิจกรรม DIY สำหรับเยาวชน โดย สสส. และสินค้าผลงานของเด็กนักเรียนในโรงเรียนในจังหวัดนครนายก

โซนสินค้าและบริการจากบริษัทพันธมิตรของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องดื่มจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), Cafe Amazon จากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), “You Hunt We Cook” จากกูร์เมต์ มาร์เก็ต, PUFF & PIE จากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), ร้านค้าจากเมืองสุขสยาม ร้านภูฟ้า เป็นต้นและโซนศิษย์เก่าหลักสูตร “ผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน” จำหน่ายสินค้าจากชุมชนที่ได้เข้าไปช่วยพัฒนาจนประสบผลสำเร็จ

สำหรับ“ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” จังหวัดนครนายก จำหน่ายสินค้าหลากหลายมีคุณภาพ ทั้งของกินของใช้มากมายจากทั่วทุกภูมิภาคกว่า 170 ร้าน พร้อมเรื่องราวผลิตผลจากการพัฒนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวชอป ชิม ชิล ท่ามกลางบรรยากาศ ในสวนร่มรื่นและธารน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ในช่วงฤดูหนาวปลายปี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังมีกิจกรรมมากมายทั้งความรู้และบันเทิง ตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. เช่น เวิร์คชอปฝึกอาชีพจากอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม และศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯลฯ กิจกรรม DIY  / สาธิตการประกอบอาหารจากเชฟชื่อดัง / การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย / การแสดงดนตรี / มุมถ่ายภาพเก๋ๆ  / พื้นที่นั่งชิลจิบกาแฟชมบรรยากาศริมน้ำ และนวดเพื่อสุขภาพท่ามกลางบรรยากาศในสวนร่มรื่นและธารน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ในช่วงฤดูหนาว

โอกาสพิเศษนี้ เขื่อนขุนด่านปราการชลได้เปิดการระบายน้ำจากเขื่อนผ่าน Spillway กลายเป็นน้ำตกยักษ์ตระการตา โดยจัดแสดง 3 รอบคือเวลา 11.00 น. 14.00 น. และ 17.00 น. ซึ่งจะได้มุมถ่ายภาพที่สวยงามและหาชมยาก นอกจากนี้ในวันที่ 14-15 ธันวาคม ในงานได้นำเสนอ Chef Table จากเชฟผู้มากความสามารถและประสบการณ์ โดยอาหารทุกจานที่ปรุงแต่งมาจากวัตถุดิบคุณภาพ เพื่อให้ทุกท่านได้รับอรรถรสในอาหารที่เชฟตั้งใจรังสรรค์ทุกเมนู โดยรายได้จะนำเข้าสมทบมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อนำไปสนับสนุนโครงการพัฒนาต่างๆ ของมูลนิธิฯ   เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน