
งานกาชาด 2567 กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยสีสันแห่งความสนุกสนาน แสง สี เสียงสุดตระการตา และกิจกรรมชิงโชคที่ทุกคนรอคอยทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษามา” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 11-22ธันวาคม2567 ณ สวนลุมพินี
สำหรับงานกาชาด ไม่ใช่เพียงแค่งานที่สร้างความรื่นเริงเท่านั้นความเป็นมาของงานนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2465 ณ ท้องสนามหลวง โดยใช้ชื่อ การรับประชาสมาชิก พุทธศักราช 2466 เพื่อเผยแพร่กิจการของสภากาชาดสยาม และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยเก็บค่าบำรุงปีละ 1 บาท ซึ่งเงินที่ได้รับนำไปใช้บำบัดโรคภัยไข้เจ็บให้ประชาชน ความเปลี่ยนแปลงของสถานที่และรูปแบบงานในปี 2471 งานกาชาดได้รับพระบรมราชานุญาตจาก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้จัดขึ้นที่ พระราชอุทยานสราญรมย์ และเปลี่ยนชื่อเป็น งานวันกาชาด โดยเพิ่มกิจกรรมบันเทิง เช่น งิ้ว การแสดงภาพยนตร์ และวงดนตรีต่าง ๆ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชม

ต่อมาในปี 2481 งานกาชาดย้ายไปจัดที่ สถานเสาวภา ก่อนจะย้ายอีกครั้งในปี 2500 มาจัดที่ สวนอัมพร ซึ่งถือเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ โดยมี พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เปิดงาน พร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดา งานในปีนี้ได้ขยายพื้นที่จัดงานไปถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนศรีอยุธยา และถนนราชดำเนิน
ในปี 2545 งานได้ขยายพื้นที่ไปยัง สนามเสือป่า และเพิ่มเครื่องเล่นจากสวนสนุกเข้ามาในงานเป็นครั้งแรก อีกทั้งมีการปรับค่าบัตรผ่านประตูจาก 10 บาท เป็น 20 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน ในปี 2561 งานกาชาดได้ย้ายสถานที่มาจัดที่ สวนลุมพินี ใจกลางกรุงเทพฯ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของงานรื่นเริงเพื่อการกุศล และยกเลิกการเก็บค่าบัตรผ่านประต และมีการปรับรูปแบยงานกาชาดสู่ออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563 โดยงานกาชาดเข้าสู่วัย 100 ปี ในปี 2566

ปีนี้งานกาชาดยังคงจัดเต็มความสนุกสนานและความสุขให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเราไม่พลาดที่จะเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศของงานตั้งแต่วันเปิดงานที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ทันทีที่ก้าวเข้าสู่งานจากสวนลุมที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้เหมาะแก่ออกกำลังและพักผ่อน ในวันนี้งานกาชาดได้เนรมิตให้สวนลุมครื้นเครงท่ามกลางแสงไฟที่ประดับประดาห้อยระย้าตามต้นไม้ทั่วบริเวณ ร้านค้าและบููธต่างๆมากมาย
เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าร่วมงานสามารถศึกษาแผนผังบูธต่างๆ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก: สภากาขาดไทย Thai Red Cross Society ที่จะแบ่งแต่ละโซนเป็นสี อย่าง สีชมพู เป็นจุดของกองอำนวยการจัดงานกาชาด/หน่วยงานสภากาชาดไทย, สีน้ำเงิน โซนร้านโครงการส่วนพระองค์, สีเหลือง โซนส่วนราชการ, สีเขียว โซนสถานบันการศึกษาและสมาคมศิษย์เก่า, สีน้ำตาล โซนหน่วยงานความมั่นคงและสมาคมแม่บ้าน, สีม่วง โซนสมาคม ชมรม สโมสร และองค์กรทั่วไป และสีเขียวอ่อน โซนหน่วยงานพลังงาน โดยสามารถเดินเข้างานได้ทั้ง 4 ประตู


เมื่อมาถึงงานเราเดินเข้าฝั่งประตูที่ 4 บริเวณพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 6 หรือ MRT ทางออก 1 ตั้งแต่ก้าวแรกก็พบเจอกับผู้คนที่ทยอยมาร่วมงานกาชาด ทางเข้าประตูนี้จะมีการจัดตกแต่งซุ้มโคมไฟสีเหลืองสวยงาม และต้อนรับนักชิมด้วยโซนของดี 50 เขต กรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านเด็ดร้านดังในตำนานมาให้เลือกชิมอย่างจุใจ ทั้งเมนูของคาว ของหวาน และอาหารท้องถิ่นจัดเต็มจนละลานตา เรียกได้ว่าเดินไปชิมไปเพลินๆ

แน่นอนว่ากิจกรรม สอยดาวและตักไข่ ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของงานกาชาด ซึ่งถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่สร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าชมงานได้ทุกปี ภายในโซนสีเหลืองที่เราเดินผ่าน บูธของส่วนราชการต่าง ๆ ไม่เพียงแต่จัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมสอยดาวและตักไข่ให้ผู้มาเยือนได้ร่วมสนุกลุ้นโชคไปพร้อมกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความครื้นเครง เจ้าหน้าที่ของบูธต่างสวมบทบาทเป็นพ่อค้าแม่ขาย เรียกแขกกันอย่างสนุกสนานเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเสี่ยงดวงกันอย่างคึกคัก เสียงหัวเราะและเสียงเฮดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เมื่อมีผู้โชคดีได้รางวัลใหญ่

ไม่เพียงแค่ในโซนสีเหลืองเท่านั้น หากเดินไปตามโซนสีอื่น ๆ ก็จะพบกิจกรรมสอยดาวและตักไข่เกือบทุกบูธ ซึ่งแต่ละบูธก็มาพร้อมของรางวัลที่น่าดึงดูดใจ ตั้งแต่ของใช้ชิ้นเล็ก ๆ เช่น กระเป๋าผ้า ร่ม พัดลมพกพา ไปจนถึงของรางวัลใหญ่สุดพิเศษอย่าง ตู้เย็น โทรทัศน์ พัดลม ไอแพด และจักรยาน ที่ดึงดูดให้ผู้คนแวะเวียนมาร่วมสนุกอยู่ไม่ขาดสาย หลายคนเดินออกจากบูธพร้อมรอยยิ้ม และมีของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอย่างมีความสุข ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้งานกาชาดจริงๆ ไม่หมดเพียงเท่านี้กิจกรรมที่เล่นในงาดวัดก็ยกมาไว้ที่งานกาขาด ไม่ว่าจะเป็นปาโป่ง สาวน้อยตกน้ำ หรือยิงปืนสั้น ที่บูธของส่วนราชการตำรวจ มีให้ฝึกซ้อมยิ่งปืนกับเจ้าหน้าที่ด้วยนะ เรียกได้ว่าครบรส

หากเดินเที่ยวงานกาชาดจนท้องเริ่มร้อง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหิว เพราะโซนอาหารไม่ได้มีเพียงแค่บริเวณทางเข้าเท่านั้น แต่ยังกระจายอยู่ตลอดเส้นทางเดิน แต่อยากชวนให้ได้ลิ้มลองอาหารและขนมไทยที่หาทานได้ยาก หนึ่งในไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือขนมทองพลุ เมนูมงคลที่หาทานได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยวางจำหน่ายที่ ร้านอาหารสภากาชาดไทย ขนมทองพลุเป็นขนมไทยที่มีความหมายเป็นสิริมงคล หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและชื่อเสียงโด่งดัง

ต้นตำรับของขนมทองพลุมีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก ขนมเอแคลร์ ซึ่งเดิมใช่วิธีอบ แต่ได้มีการดัดแปลงให้ใช้การทอดแทน จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มีให้เลือกทั้งแบบ ไส้เค็มจะใส่เนื้อไก่ มันเทศ แครอท และถั่วลันเตา คลุกเคล้ารสชาติอย่างกลมกล่อม ส่วนไส้หวานจะเป็นขนมเปล่าไม่มีไส้ แต่ทานคู่กับน้ำเชื่อมที่ผสมกับน้ำหวานสีแดง รสชาติหวานหอมถูกปากคนไทย ถือเป็นเมนูที่หากินยากในยุคปัจจุบัน ใครที่เป็นสายขนมไทยไม่ควรพลาดโอกาสนี้ เพราะนี่คือโอกาสพิเศษที่มีให้ลิ้มลองแค่ในงานกาชาดเท่านั้น

หลังจากอิ่มท้องและเดินเที่ยวต่อจนรู้สึกเมื่อยล้า งานกาชาดปีนี้ยังเตรียมโซนพักผ่อนให้ผู้เข้าชมได้คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินตลอดวัน โดยเฉพาะใน โซนสีม่วง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายร่างกาย ที่นี่มีบริการ นวดผ่อนคลาย จาก มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ โดยมีผู้พิการทางสายตาเป็นผู้ให้บริการนวดด้วยฝีมือที่แม่นยำและชำนาญ ซึ่งไม่เพียงช่วยคลายกล้ามเนื้อจากการเดินเที่ยวงานทั้งวัน แต่ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม เพราะการนวดในโซนนี้ช่วยบรรเทาอาการตึงของคอ บ่า ไหล่ ได้ดีเลย ยังมีกิจกรรม ตาวิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจตรวจดวงชะตา มุมอ่านหนังสือเสียง ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเสียงที่บันทึกโดยผู้พิการทางสายตาด้วย

งานกาชาดปีนี้ยังเป็นอีกปีที่มีความสนุกจัดเต็มทั้งความบันเทิง ความอิ่มอร่อย และความตื่นตาตื่นใจ แต่ละบูธล้วนมีกิจกรรมที่หลากหลายจนเดินเพียงวันเดียวอาจเที่ยวหมด เพราะกิจกรรมอัดแน่น 12 วันเต็ม และที่สำคัญงานนี้คือ การให้และการแบ่งปัน เพราะทุกกิจกรรมล้วนมีเป้าหมายเพื่อการกุศล สร้างความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ

สำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่สวนลุมพินี สามารถร่วมสนุกผ่าน งานกาชาดออนไลน์ ที่เว็บไซต์ www.งานกาชาด.com สนุกได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง เสมือนได้เดินเที่ยวงานจริงจากหน้าจอของคุณเอง งานกาชาดจึงไม่ใช่แค่งานเทศกาลรื่นเริงทั่วไป แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการ “ให้” ที่อบอวลไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และรอยยิ้มของทุกคนในสังคม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลชวนร่วมงานกาชาดประจำปี 68 ที่สวนลุมพินี 11-21 ธ.ค.นี้
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งานกาชาดประจำปี 2568 เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–21 ธันวาคม 2568 ณ สวนลุมพินี โดยสภากาชาดไทยได้เชิญชวนประชาชนร่วมงานเพื่อทำบุญ สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ และร่วมระดมทุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ
กทม.อัปเดตสะพานเขียวเชื่อมสวนลุมพินี-สวนเบญจกิติเตรียมเปิดให้สัญจรเดือนนี้
สองปอดใหญ่ใจกลางกรุงใกล้บรรจบ สะพานเขียวเชื่อมสวนลุมพินี-สวนเบญจกิติ คาดเดือนนี้เปิดให้คนสัญจรได้
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานกาชาดปี 2567
11 ธ.ค. 2567 เวลา 17.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้

