
17 ธ.ค.2567- ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก Thiravat Hemachudha ว่า เด็กที่ “ฉีดวัคซีน” mRNA ของ Pfizer มีโอกาสติด COVID-19 มากกว่าเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษาวิจัยใหม่พบว่าเด็กที่ “ฉีดวัคซีน” COVID-19 ของ Pfizer-BioNTech มีโอกาสติดเชื้อ SARS-CoV-2 มากกว่า 159% และมีโอกาสติด COVID-19 แบบมีอาการมากกว่าเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนถึง 257%
การศึกษาวิจัยใหม่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารของ Pediatric Infectious Diseases Society หัวข้อ Protection from COVID-19 vaccination and prior SARS-CoV-2 infection among children aged 6 months – 4 years, United States, September 2022–April 2023 การศึกษาดังกล่าวได้รวบรวมข้อมูลจากการศึกษาวิจัยแบบกลุ่มตัวอย่างล่วงหน้า 3 รายการ (PROTECT, CASCADIA และ CoVE) ซึ่งดำเนินการในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2022 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2023 โดยมีเด็ก 614 คน อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปีที่อาศัยอยู่ในวอชิงตัน ออริกอน มิชิแกน แอริโซนา และยูทาห์เข้าร่วมการศึกษา
ผลการวิจัยที่สำคัญมีดังนี้:
- ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการฉีดวัคซีนของ Pfizer-BioNTech:
- เด็กที่ได้รับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech โดยที่ไม่เคยติดเชื้อ SARS-CoV-2 มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น 159% และมีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 แบบมีอาการเพิ่มขึ้น 257% เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนและไม่เคยติดเชื้อมาก่อน:
- อัตราส่วนความเสี่ยง (HR) สำหรับการติดเชื้อ: 2.59 (95% CI: 1.27–5.28)
- HR สำหรับ COVID-19 แบบมีอาการ: 3.57 (95% CI: 1.10–11.63)
- การติดเชื้อก่อนหน้านี้ให้การป้องกันที่แข็งแกร่ง:
- เด็กที่เคยติดเชื้อ SARS-CoV-2 (ไม่ได้รับวัคซีน) มีความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนและไม่เคยติดเชื้อมาก่อน:
- HR สำหรับการติดเชื้อ: 0.28 (95% CI: 0.16–0.49)
- HR สำหรับ COVID-19 ที่มีอาการ: 0.21 (95% CI: 0.08–0.54)
- ไม่มีผลการป้องกันจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว:
- ไม่มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือ COVID-19 ที่มีอาการในเด็กที่ได้รับวัคซีน (Moderna หรือ Pfizer-BioNTech) เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน:
- HR สำหรับการติดเชื้อจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว: 1.23 (95% CI: 0.69–2.16)
- HR สำหรับ COVID-19 ที่มีอาการจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว: 1.61 (95% CI: 0.65–4.03)
- วัคซีนกระตุ้นไม่มีผลการป้องกันที่สำคัญ:
- ในกลุ่มเด็กที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นสองสายพันธุ์อย่างน้อยหนึ่งโดส ไม่มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของการติดเชื้อหรือ COVID-19 ที่มีอาการ:
- HR สำหรับการติดเชื้อจากวัคซีนกระตุ้นสองสายพันธุ์: 0.74 (95% CI: 0.37–1.48)
- HR สำหรับ COVID-19 ที่มีอาการจากวัคซีนกระตุ้นสองสายพันธุ์: 1.04 (95% CI: 0.37–2.96)
กล่าวอีกนัยหนึ่ง วัคซีนเหล่านี้มีผลตรงข้ามกับสิ่งที่ควรทำ แทนที่จะป้องกัน COVID-19 วัคซีนที่ฉีดเหล่านี้กลับล้มเหลวหรือเพิ่มความเสี่ยง CDC
ควรเพิกถอนคำแนะนำสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปในการฉีดวัคซีนกระตุ้น COVID-19 ทันที
เด็กฉีดวัคซีนมีโอกาสติดมากกว่า 159% และติดแบบมีอาการมากกว่าเด็กไม่ฉีดถึง 257%.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' เตือน RSV กำลังระบาดหนัก ทิ้งท้ายปลายฤดู
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า RSV กำลังระบาดอย่างมากทิ้งท้ายปลายฤดู
'หมอยง' แจงยังไม่มีผลวิจัยเพียงพอให้ 'ผู้สูงอายุ' ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่องวัคซีนไข้เลือดออก (ตอนที่ 5)
'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า
‘สมศักดิ์-สธ.’ หนุนทหารชายแดน ส่งวัคซีน พร้อมดูแลจิตใจประชาชน
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากบัญชาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้
ดักคอ 'ทักษิณ' อย่างัดมุกติดโควิด เบี้ยวขึ้นศาล 13 มิ.ย.
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอ้ำอึ้งเรื่องไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
รัฐบาลเตือนระวังสุขภาพหลัง โควิด-19 กลับมาระบาดในหลายภูมิภาค
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนสถานการณ์ก


