
23 ธ.ค.2567- แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์อหิวาตกโรค ประเทศเมียนมา วันที่ 22 ธันวาคม 2567 พบว่า เมืองฉ่วยโก๊กโก่ มีผู้ป่วยรวมจำนวน 300 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลฉ่วยโก๊กโก่อีก 56 ราย โดยมีการส่งผู้ป่วยเข้ามารักษาในประเทศไทย 2 ราย ที่โรงพยาบาลแม่สอด 1 ราย และโรงพยาบาลแม่ระมาด 1 ราย ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ทั้งนี้ อหิวาตกโรค สาเหตุเกิดจากได้รับเชื้อโรคจากอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอม หรือดื่มน้ำและน้ำแข็งที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อน ส่งผลให้มีอาการท้องเสียรุนแรง อาจเกิดภาวะขาดน้ำ ช็อก และบางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อหิวาตกโรคในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงงานจำนวนมาก และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน รวมทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีการจัดงานรื่นเริงและรับประทานอาหารร่วมกัน อาจเสี่ยงทำให้เกิดการระบาดของโรคได้
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีข้อสั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ส่วนหน้า ในพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์อหิวาตกโรค จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กรมอนามัย มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จึงมอบหมายให้ทีม SehRT ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ลงพื้นที่ร่วมกับทีมจังหวัด ติดตามสถานการณ์อหิวาตกโรคระบาดในพื้นที่ชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการปนเปื้อนเชื้อโรคในอาหารและน้ำ ตรวจสอบคลอรีนอิสระ และอุปกรณ์จำเป็นให้กับพื้นที่ รวมทั้งสื่อสารแนวทางและแนวปฏิบัติด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับภาวะฉุกเฉินสำหรับเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ดูแลสถานที่สาธารณะ และประชาชน ดังนี้
1) เจ้าหน้าที่ ทำการเฝ้าระวัง ประเมินความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยการตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อโรคในอาหารและน้ำ ตรวจสอบคลอรีนในน้ำใช้ น้ำประปาหมู่บ้าน ประปาชุมชนให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดใช้ และสื่อสารความเสี่ยงแก่ประชาชนในการดูแลสุขอนามัยของตนเองและครอบครัวในการป้องกันโรค
2) ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะร้านอาหาร สถานประกอบการผลิตอาหาร ให้มีการกำหนดมาตรการทำความสะอาด การดูแลสถานประกอบการให้สะอาด ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหาร อุปกรณ์ทำครัว สถานที่ประกอบปรุง เช็ดถูทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณโต๊ะอาหารและห้องน้ำห้องส้วมและจุดสัมผัสร่วม เติมคลอรีนในน้ำใช้ และดูแลสุขวิทยาของผู้สัมผัสอาหารและผู้ประกอบปรุงอาหารอย่างเข้มงวด
3) ผู้ดูแลสถานที่สาธารณะ โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ศาสนสถาน ต้องทำการตรวจตรา เฝ้าระวัง ควบคุมคลอรีนในน้ำให้ได้มาตรฐาน เพื่อฆ่าเชื้อโรค ดูแลความสะอาดห้องน้ำห้องส้วม และจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ โดยการฆ่าเชื้อโรคทุกวัน สำหรับการประกอบปรุงอาหารในโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็กต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสุขาภิบาลอย่างเคร่งครัด ลดการปนเปื้อนเชื้อโรคสู่นักเรียนหรือเด็กเล็ก
4) ประชาชนดูแลสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำห้องส้วม และก่อนกินอาหาร ใช้ช้อนกลางตักอาหาร และกินอาหารปรุงสุกใหม่เสมอ สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนอาศัยใกล้กับพื้นที่ที่มีการระบาด ให้ดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด มีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้น เช่น ต้มน้ำให้เดือดก่อนนำมาใช้ หรือเติมคลอรีนลงในน้ำใช้ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาอาบหรือใช้งานในครัวเรือน นอกจากนี้ กรมอนามัยยังมีชุดตรวจสอบภาคสนาม สำหรับเฝ้าระวังเชื้ออหิวาตกโรคในน้ำ และในอาหารสำหรับการดูแลประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง
ทบ. คุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ต่างด้าวทะลักข้ามฝั่งกว่า 1,500 คน ชาวอินเดียมากสุด
ทบ.เผยสถานการณ์ชายแดนไทย–เมียนมา ยังคงเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังแรงงานต่างชาติหลบหนีจากพื้นที่โครงการ KK-Park ข้ามมายังฝั่งไทยกว่า 1,500 คน
'จตุพร' จี้เร่งจัดการแก๊งสแกมเมอร์ ชี้ทั่วโลกเอาจริงแล้ว เมียนมาทิ้งบอมบ์ล้างบาง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ต.ค. 2568 กรณีปราบปรามสแ
รวบชาวฟิลิปปินส์ แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลบหนีเข้าไทยหลังถูกกวาดล้างจากเมียนมา
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป.,ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว ชาวฟิลิปินส์ 21 ราย ข่อหาเป็นบุคคลต่างด้าว (สัญชาติฟิลิปปินส์)


