
การประกวดภาพถ่าย “72 พรรษา ทศมราชา สืบสานงานพัฒนา ปวงประชาร่มเย็นเป็นสุข” ประกาศผลอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จัดพิธีมอบรางวัล โดยมี นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เป็นประธาน

ผู้ชนะเลิศรางวัลชนะเลิศในประเภทประชาชนทั่วไป นายเสกสรร เสาวรส คว้าไปครองจากภาพที่สะท้อนความร่มเย็นเป็นสุขจากการพัฒนาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาในอ่างเก็บน้ำห้วยฮ่องไคร้ ท่ามกลางป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ณ ศูนย์การศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ช่างภาพกดชัตเตอร์จับภาพในจังหวะที่ต้องการพร้อมแสงสวยงามยามเช้า ส่วนประเภทนิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษา นายธีระวัฒน์ ประทัศสานัง วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ได้รางวัลชนะเลิศจากภาพสะท้อนความมหัศจรรย์ของหญ้าแฝก ช่วยแก้ปัญหาดินพลิกฟื้นคืนความชุ่มชื้น

นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. กล่าวว่า โครงการประกวดภาพถ่ายจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อสะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณแนวพระราชดำริการพัฒนามิติต่างๆ ที่สร้างประโยชน์และความสุขให้แก่ราษฎร สำนักงาน กปร. รับและประมวลพระราชดำริเพื่อประสานการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนองพระราชดำริในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ และพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เกิดประโยชน์สุข ขณะเดียวกันได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริช่วยเหลือราษฎรทั่วประเทศ สำหรับเวทีประกวดภาพถ่ายโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงโครงการพระราชดำริอื่นๆ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริการพัฒนา มีผู้ส่งผลงาน 130 คน รวมทั้งหมด 372 ภาพ ภาพถ่ายงดงาม ทรงคุณค่า เปี่ยมด้วยความหมายและพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายเสกสรร เสาวรส ช่างภาพ อายุ 42 ปี เจ้าของภาพชนะเลิศ”ต้นทางป่าไม้ ปลายทางประมง” เผยว่า กปร.จัดประกวดหัวข้อโครงการพระราชดำริ โจทย์นี้มีไม่บ่อยนัก สนใจและทำการบ้านเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ประทับใจศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จ.เชียงใหม่ เป็นศูนย์การศึกษา ทดลอง วิจัย หารูปแบบพัฒนาต่างๆ เหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่ประชาชนไปเรียนรู้นำไปปฏิบัติได้ ตัดสินใจขับรถไปห้วยฮ่องไคร้เพื่อเก็บบันทึกภาพ จับภาพช่วงเช้าที่ จนท.ศูนย์ให้อาหารปลานิลแดงในกระชังบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยฮ่องไคร้ ฉากหน้าเป็นฝูงปลาในกระชัง นำสายตาสู่ภาพแอคชั่นคนเพื่อให้มีเรื่องราว ฉากหลังเป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ สื่อครบจากต้นน้ำถึงปลายน้ำกว่า 41 ปี ศูนย์แห่งนี้สร้างอาชีพให้กับชุมชนในภาคเหนือ พอใจกับภาพนี้ แต่ไม่คาดคิดจะคว้าชนะเลิศ รู้สึกภูมิใจและจุดไฟให้กับตัวเองอีกครั้ง เพราะเวทีประกวดภาพถ่ายปี 68 จะเข้มข้นมากขึ้น ช่างภาพทั้งมืออาชีพ มือสมัครเล่น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่สนใจประกวดภาพมากขึ้น แพ้ชนะกันด้วยมุมมองใหม่ๆ ผสานองค์ประกอบที่สมบูรณ์

รางวัลใหญ่ครั้งแรก นายธีระวัฒน์ ประทัศสานัง นศ.ปี 1 สาขาวิชาศิลปะถ่ายภาพ เพาะช่าง วัย 18 ปี เล่าแนวคิดภาพ”มหัศจรรย์หญ้าแฝก” ว่า ภาพนี้ถ่ายที่โครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี ซึ่งมีการพัฒนาหลายด้าน ทั้งแหล่งน้ำ ปลูกต้นไม้ ปลูกืช มีงานศึกษาอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งตนสนใจหญ้าแฝกเป็นพระราชดำริในหลวง ร.9 ช่วยฟื้นฟูดินเสื่อมโทรม ใช้หญ้าแฝกอนุรักษ์หน้าดิน ทรงมีพระปรีชาสามารถ และช่วยให้เกษตรมีชีวิตที่ดีขึ้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปที่โครงการพระราชดำริเขาชะงุ้มอีกครั้ง ตนส่งทั้งหมด 3 ภาพ นอกจากภาพชนะเลิศที่บันทึกจังหวะเกษตรกรลงมือปลูกหญ้าแฝกแล้ว ยังมีภาพแสดงถึงรอยยิ้มของเกษตรกร และภาพวิถีเกษตรกรเขาชะงุ้ม เวทีนี้จุดประกายให้ตนถ่ายทอดภาพที่มีเรื่องราวการพัฒนาอย่างยั่งยืน และอยากส่งผลงานร่วมประกวดในโครงการอื่นๆ ต่อไป

สำหรับรายชื่อผู้ได้รางวัลทั้งหมด ดังนี้ ประเภทนิสิต นักศึกษา รองชนะเลิศอันดับ 1 นายพัดยศ วิเศษสิงห์ วิทยาลัยเพาะช่าง มทร.รัตนโกสินทร์ รองอันดับ 2 นายเกริกฟ้า จินามณี มรภ.อุบลราชธานี ชมเชย 3 รางวัล นายปิยนนท์ กนิษฐกุล วิทยาลัยเพาะช่าง มทร.รัตนโกสินทร์ นายเกริกฟ้า จินามณี มรภ.อุบลราชธานี และนางสาวจิรกิตต์ วิศักดิ์ศิริ วิทยาลัยเชียงราย ประเภทประชาชน รองอันดับ 1 นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ รองอันดับ 2 นายสุกฤษฎิ์ หิรัญสารพงศ์ 3 รางวัลชมเชย นายทรงพล เทศกิจ นายธรรมรัตน์ สวัสดิชัยและ นางภคมน ตั้งจิตติเลิศ
ยลโฉมสุดยอดภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย ณ สำนักงาน กปร. แวะมาชมได้ ในวัน เวลา ราชการ แต่ละภาพสวยงามสะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณแนวพระราชดำริด้านการพัฒนา พลิกฟื้นชีวิตราษฎร สร้างรอยยิ้มและความสุขให้พสกนิกรไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กปร. – มหาดไทย จับมือขับเคลื่อน “One Plan” บูรณาการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
สำนักงาน กปร. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้วยระบบ “One Plan” มุ่งเน้นการวางแผนแบบจากล่างขึ้นบน Bottom-Up รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่โดยตรง ลดการใช้งบประมาณที่ซ้ำซ้อน และเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน
กปร. เปิดคู่มือ One Plan ยกระดับโครงการพระราชดำริ 17 จังหวัดเหนือ
สำนักงาน กปร. เดินหน้ายกระดับการบริหารและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเชิงพื้นที่ เปิดตัว“คู่มือ One Plan” นำร่อง 3 จังหวัดภาคเหนือ น่าน พิษณุโลก และเชียงใหม่ มุ่งสร้างกลไกการทำงานแบบบูรณาการจากระดับพื้นที่ ลดความซ้ำซ้อน
พลิกดินแล้งเป็นสวนผลไม้ ต่อยอดการใช้ประโยชน์ โครงการฝายห้วยน้ำพร้าฯ ตำบลนางพญา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
สำนักงาน กปร.ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้าต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมการปลูกที่เหมาะสมกับพื้นที่ สนับสนุนการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ ควบคู่ไปกับการ
จากพื้นที่แห้งแล้งสู่แหล่งเกษตรมั่นคง “ห้วยต่อน้อย” ต้นแบบความร่วมมือของราษฎร
ราษฎรตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ร่วมกันเสียสละพื้นที่สวนยางพารา เพื่อก่อสร้าง “อ่างเก็บน้ำบ้านห้วยต่อน้อยพร้อมระบบส่งน้ำ” ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
“ฝายคลองใหญ่” เสริมชีวิต สร้างน้ำเปลี่ยนผืนดิน สู่สวนผสมผสานยั่งยืน
จากนาร้างไร้น้ำ สู่สวนผลไม้เขียวขจีตลอดปี ราษฎรบ้านยูงงาม และบ้านโหล๊ะคล้า ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พลิกฟื้นผืนนาแห้งแล้งกว่า 2,000 ไร่ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
เดินหน้าสร้างเครือข่ายขยายผลการพัฒนา “คน กปร ตัวคูณ “ ขยายผลนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 12 ปี 2568
บุคลากร ภาครัฐ เอกชน ร่วมภารกิจ คน กปร.ตัวคูณ ในโครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) เรียนรู้ประยุกต์ใช้ ขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดําริกับบริบทการพัฒนาประเทศที่ท้าทายในปัจจุบัน สานต่อพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสาน รักษา


