กรุงเทพฯ ยังเสี่ยงไหวใหญ่ จับตารอยเลื่อนเมืองกาญจน์ฯ ห่างแค่ 200 กม.

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28มีนาคม 2568 และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง ทำให้เกิดความหวั่นวิตกและมีคำถามในใจของทุกคนก็ว่าได้ ว่าประเทศไทยจะมีความเสี่ยงแผ่นดินไหวอีกมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งรอยเลื่อนในไทยจะมีอันตรายระดับใด

ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวในงานสัมมนา จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว)กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดเสวนาหัวข้อ”ก้าวข้ามธรณีพิโรธ:นวัตกรรม ววน. พลิกเกมภัยแผ่นดินไหว เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยของไทย” เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 ว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีรอยเลื่อนกระจายเต็มไปหมด รอยเลื่อนสกายในพม่าเป็นรอยเลื่อนอันตรายระดับสีแดง ขณะที่ในประเทศไทยมีรอยเลื่อนสีเทาเยอะ แต่ไม่มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่กรุงเทพฯ แต่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีโอกาสเกิดภัยพิบัติเพราะแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในระยะไกล เพราะสภาพแอ่งดินอ่อนในกรุงเทพฯ สามารถขยายความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้มากกว่าปกติถึง 3-4 เท่า และอาคารสูงเป็นจำนวนมาก อาจเกิดการกำทอนทำให้โยกไหวตัวรุนแรงจนเกิดความเสียหาย กรณีเหตุแผ่นดินไหวจากลอยเลื่อนสกาย ประเทศพม่าผู้คนเสียชีวิตมากมาย ตึกอาคารบ้านเรือนพังเสียหาย พื้นที่ห่างไกลออกมาลดทอนความรุนแรง แต่แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ เพราะเป็นแหล่งดินอ่อน สภาพดินอ่อนขยายความแรงแผ่นดินไหวได้มากหลายเท่าตัว ในไทยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพื้นที่แอ่งดินอ่อนขนาดยักษ์ จากการศึกษาเรื่องนี้กว่า 20 ปี มีการตรวจวัดคุณสมบัติของแอ่งดินอ่อน ตรงกลางของกรุงเทพฯ กว่าจะลึกถึงชั้นหิน ประมาณ 800 เมตร ทั้งยังมีคุณสมบัติเปลี่ยนการสั่นสะเทือนที่ผิวดินไม่เหมือนการสั่นปกติ ถ้าปกติจะสั่นเร็ว แต่เมื่อแผ่นดินไหว กทม.ที่ผ่านมาจังหวะโยกแบบช้าๆ เป็นลักษณะเกิดขึ้นบนดินอ่อน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่ออาคารเล็กๆ แต่จะไปกระตุ้นและเขย่าอาคารสูงที่โยกช้าเหมือนกัน เรียกว่า “สั่นพ้อง”

ศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวต่อว่า มีการประเมินสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่ออาคารสูงในกรุงเทพฯ 3 สถานการณ์ ได้แก่ 1.แผ่นดินไหวขนาด 7-7.5 ที่ จ.กาญจนบุรี ห่างจากกทม. ระยะทาง 200 กิโลเมตร ซึ่งรอยเลื่อนดังกล่าวเคยเขย่าแล้วเมื่อหลายปีก่อนขนาด 5.9 แต่มีการประเมินไว้ว่าอาจจะแรงได้ถึงขนาด 7 และ 7.5 ก็ต้องประเมินความเสี่ยงจากลอยเลื่อนนี้ด้วย เพราะใกล้พื้นที่กรุงเทพฯ 2.แผ่นดินไหวขนาด 8 ที่แนวเลื่อนสกายในประเทศพม่า ซึ่งเกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา 3. แผ่นดินไหวขนาด 8.5 -9 ที่แนวมุดตัวในทะเลอันดามัน เป็นแนวรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกอินเดียมุดใต้เปลือกของไทย เรียกว่า แนวมุดตัวอาระกัน อยู่ทางฝั่งตะวันตกของพม่า ซึ่งเคยทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.5 ในอดีตมาหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อ 260 ปีที่แล้ว รอบนึงอาจ 400 ปี แต่ก็ไม่แน่อาจมาเร็วหรือช้ากว่าก็ได้

ศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวว่า เราประเมินสถานการณ์และความรุนแรงสูงสุดที่เป็นไปได้ นำมาสู่การปรับปรุงกฎกระทรวงแผ่นดินไหวในปี 2550 ขยายพื้นที่ควบคุมให้ออกแบบอาคารต้านทานแผ่นดินไหว ให้รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อีกทั้งผลวิจัยดังกล่าวยังใส่ในมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว มยผ 1301 /1302-61 วิศวกรต้องออกแบบตามมาตรฐานอาคารถึงจะทนทานแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ โอกาสเกิดขึ้นในช่วงชีวิตคนมีไม่ถึง 10% แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ เพราะเมื่อเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอาคารต้องตั้งอยู่ ไม่พังถล่มลงมา แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้แรงเท่าระดับสูงสุดที่กำหนดในมาตรฐาน แต่แรงเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น มาตรฐานการออกแบบต้านทานแผ่นดินไหว เน้นความแข็งแรงของโครงสร้างหลัก รับน้ำหนักได้ คนรอดชีวิต เป็นมาตรฐานสากล แต่ไม่ได้หมายถึงผนังกำแพงกั้นห้องไม่ร้าว ฝ้าเพดานหล่น กระจกไม่แตก ไม่ใช่เป้าหลัก แต่หลังจากนี้อาจจะต้องปรับพิจารณาในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างด้วย

“ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่28 มีนาคม2568 จะไม่เกิดขึ้นง่าย อาฟตอร์ช็อคจะเบาลงและห่างไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความจะประมาท หรือตระหนกจนเกินไป แต่อย่าลืมยังมีสถานการณ์อื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น อาคารรุ่นใหม่ต้องทำให้แข็งแรง การดำเนินงานวิจัยหากทำตามกระแสสังคมแก้ปัญหาไม่ได้ แต่โชคดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนัลสนุนอย่างดี ช่วยให้เตรียมพร้อมและปกป้องชีวิตคนได้ “ ศ.ดร. เป็นหนึ่ง กล่าว

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ใช้โมเดลเดียวกับน้ำท่วมใหญ่เชียงรายลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่เสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จากการระดมทีมวิศวกรโครงสร้างอาสา 582 คน ตรวจสอบประเมินความเสียหายของอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ จัดความเสียหาย 4 ระดับ เสียหายระดับโครงสร้างไม่ถึง 5% ส่วนใหญ่พบรอยร้าวระดับ 2 ไม่ใหญ่มาก ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้าง หากสอดบัตรประชาชนเข้าไปได้ในรอยร้าวมีผลกระทบโครงสร้าง ความเสียหายระดับ 3 ซ่อมแซมได้ แต่ก็พบความเสียหายระดับ 4 รุนแรงที่สุด เป็นอาคารสูงในกทม. เป็นคอนโดมิเนียม สูง 50 ชั้น ปูนกะเทาะหลุดถึงแกนเสา และเหล็กงอ เหล้กปลอดรัดอยู่ก็ง้างออก อันตรายกระทบโครงสร้าง ให้ระงับใช้อาคารและเร่งซ่อมแซม ปรากฎว่าบางคอนโดเร่งซ่อมเอาปูนแปะเฉยๆ หนักกว่าเดิม บางทีซ่อมถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ถ้าพบเสาเสียหายระดับ 4 หลายต้นต่อชั้นของอาคาร จะกลายเป็นระดับ 5 ซึ่งมีโอกาสทำให้อาคารเอียง แนวทางซ่อมเสริมเหล็กแกนและเหล็กปลอก เทคอนกรีตหุ้มเสา

ศ.ดร.อมร กล่าวต่อว่า กรณีอาคารถล่มในกรุงเทพฯ ยังเป็นปริศนา เดากันไปคนละทิศคนละทางเพราะมองจากบันทึกสิดีโอคนละมุม บางคนบอกพังจากด้านบน บางคนบอกเสาหัก แต่มองจากด้านหน้า หากมองจากด้านหลังปล่องลิฟต์ยุบตัวลงก่อน เราไม่เคยคิดว่าปล่องลิฟต์จะพัง ต้องดูทุกมุม ลักษณะการพังเป็น Pancake collapse ทุกอย่างกองลงมา เคยมีรูปแบบนี้จากอาคารต่อเติมถล่มลงมา แต่นี่เป็นตึกแรกที่ถล่ม เพราะแผ่นดินไหวและเป็นตึกระหว่างการก่อสร้าง ส่วนการวิบัติที่สังเกตได้จากบันทึกกล้องวงจรปิด อาคารนี้มีจุดประหลาดๆ หลายจุด ตั้งแต่เสาชลูดชั้นล่างหักที่บริเวณเสากลาง เสาชลูดชั้นบนหัก เป็นความไม่ปกติในรูปทรงอาคาร รอยต่อระหว่างพื้นไร้คานกับเสาชั้นบนเฉือนขาดในแนวดิ่ง และการพังที่เกิดจากปล่องลิฟต์

“ หากวิเคราะห์ 5 ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดการถล่มมาจากความไม่ปกติของรูปทรงอาคาร เช่น เสาสูง ชลูดที่ชั้นล่างและชั้นบน การเกิดการสั่นพ้องระหว่างชั้นดินอ่อนกับอาคารสูง แต่ความจริงตึกไม่ได้เขย่าแรงเท่าไหร่ ก็น่าสงสัย แต่สภาพชั้นดินอ่อนกับตึก อาจเกิดสั่นแรงขึ้น อีกข้อสงสัย Tower crane สร้างแรงเหวี่ยงจนกระทบต่อโครงสร้างอาคาร ย คุณภาพวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ได้แก่ คอนกรีต เหล็กเส้น จะเป็นประเด็นทุจริตคอร์รัปชั่น ในเชิงหลักการวัสดุเหล็กเส้นต้องมีคุณภาพ ซึ่งทดสอบ รวมถึงอายุคอนกรีตและการรับน้ำหนัก “ ศ.ดร.อมร กล่าว

ระดับความรุนแรงแผ่่นดินไหว สีม่วง ระดับสูงสุด รองลงมาสีเหลือง ซึ่งนำมากำหนดเป็นกฎหมายความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารโดยยึดความรุนแรงสูงสุด แต่ปรากฎว่าระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม มีระดับรุนแรงแค่สัเขียวหรือสีแดง ยังไม่ถึงสีม่วง หรือเหลือง แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ตึกสตง.ถล่มลงมา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาดรับสร้างบ้านQ3/68 หดตัว14%

ตลาดรับสร้างบ้าน 3 ไตรมาส /2568 หดตัว 14% จาก 163,882 ล้านบาท เหลือ 141,077 ล้านบาท เหตุภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า เสถียรภาพทางการเมืองไม่นิ่ง กำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่

ถอดบทเรียนหาดใหญ่ สู่ป้องกันกรุงเทพ นักวิชาการแนะ ปรับยุทธศาสตร์ลงทุนระบบการบริหารจัดการน้ำ

จากน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และภาคใต้ สะท้อน ความล้มเหลวในการบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ของสังคมไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดผลาดซ้ำเดิมอีก

กรมอุตุฯเตือนไทยหนาวจัด! อีสานต่ำสุด 7 องศา ลมแรงทั้งภาค-กรุงเทพฯ ลดฮวบ 15°C

พยากรณ์อากาศ 29 พ.ย. 2568 ระบุไทยตอนบนอุณหภูมิลดฮวบ กรุงเทพฯ-ปริมณฑลต่ำสุดถึง 15°C ขณะที่ภาคอีสาน-เหนือหนาวจัด ต่ำสุด 7-8°C ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนฟ้าคะนองราว 20% ของพื้นที่

กรมอุตุฯ เกาะติดแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ยันไม่กระทบไทย

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 นอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ ไม่กระทบประเทศไทย โดยวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 08.43 น. ตามเวลาไทย สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานการเกิดแผ่นดินไหว