
นับเป็นครั้งแรกที่เยาวชนจาก 4 จังหวัดในภาคใต้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับเพื่อนเยาวชนต่างศาสนา เรียนรู้วัฒนธรรม ความแตกต่าง ความเชื่อความศรัทธาอย่างเคารพซึ่งกันและกัน ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายและทัศนศึกษาวัด มัสยิด โบสถ์ วัดซิกข์ ศาสนสถานสำคัญของแต่ละศาสนาในโครงการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ หลักสูตรพื้นฐาน ภายใต้แนวคิด “The Green Religion” ระหว่างวันที่ 5 – 9 พ.ค.2568 ณ โรงแรม Eco Hotel by Thammasat อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จัดโดยกรมการศาสนา (ศน.) ได้รับความร่วมมือจากองค์การทางศาสนาทั้ง 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ พร้อมทั้งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา

งานนี้ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นำทัพเยาวชน 5 ศาสนาที่เข้าร่วมรวม 200 คน ประกอบด้วยเยาวชนจากส่วนกลางและจังหวัดในภาคใต้ รวมทั้งเยาวชนที่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ ครูพี่เลี้ยง ผู้แทนองค์การศาสนา เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในภาคใต้ และเจ้าหน้าที่ ศน. ร่วมกิจกรรมตลอดโครงการด้วยความพร้อมเพรียง

นายชัยพล สุขเอี่ยม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาเน้นให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังและพัฒนาให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม เทิดทูนสถาบันหลักของชาติ โดยเฉพาะการปลูกฝังเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอน ความแตกต่างในวิถีชีวิต ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม โดยนำเยาวชนเข้าร่วมการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ในหลักสูตรพื้นฐานและหลักสูตรผู้นำเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาที่ตนนับถือและต่างศาสนาเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
“ ปีนี้เป็นปีที่พิเศษมีน้องๆ จากภาคใต้เข้าร่วมอบรม โดยจะหมุนเวียนนำเยาวชนจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยเข้าอบรมในหลักสูตร แม้มีความแตกต่างทางศาสนา แต่มุ่งหวังให้นำหลักธรรมคำสอนของแต่ละศาสนามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เยาวชนได้ร่วมกิจกรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม สร้างความคุ้นเคยระหว่างศาสนา เสริมสร้างทักษะด้านการทำงานเป็นทีม ความพร้อมเพียง สนุกสนานกับกิจกรรม Walk Rally 5 ศาสนา การสอดแทรกความรู้ด้านหลักธรรมและข้อปฏิบัติทางศาสนา ฝึกปฏิบัติมารยาทไทยและมารยาทในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ปลูกฝังคุณธรรม 5 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา กตัญญู เยาวชนต่างศาสนาได้ไปศาสนสถานต่างๆ วัดญาณสังวราราม มัสยิดดารุ้ลอิบาดะห์ วัดซิกข์ พัทยา โบสถ์พระมหาไถ่ เยี่ยมชมสถาปัตยกรรม เรียนรู้พิธีกรรม ความเชื่อ และประเพณีแต่ละศาสนา เกิดความรักความผูกพันกัน “ นายชัยพล กล่าว

เดินทางไกลมาจากชายแดนใต้ น.ส.วิดาด มีมะ ร.ร มะอาหัดอิสลามียะห์ จ.ยะลา กล่าว ตนเข้าร่วมอบรมครั้งแรกตั้งใจมาเรียนรู้แต่ละศาสนาและอยากพบเพื่อนต่างศาสนา เมื่อไปเยี่ยมชมศาสนสถานทำให้เข้าใจวิถีและวัฒนธรรม ซึ่งต่างจากศาสนาอิสลามที่นับถือ ประทับใจเพื่อนๆ เยาวชนที่มีมิตรภาพดีๆ ให้กัน ได้พูดคุยทำความรู้จักกัน แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานและประทับใจมาก พวกเรารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน อยากชวนเยาวชนจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมโครงการหากมีโอกาส สิ่งที่ได้รับจากการอบรมจะนำไปบอกเล่ากับเพื่อนและคนในชุมชนที่ยะลา

น.ส สุนิสา ยูโสะ ร.ร อิสลามสามัคคี จ.ปัตตานีเผยความรู้สึกว่าเมื่อครูแนะนำโครงการและชักชวนก็ตัดสินใจเข้าร่วมอบรม ช่วยให้เรารู้จักทั้ง 5 ศาสนา ปกติในพื้นที่มีศาสนาพุทธและมุสลิม ทั้งเพื่อนๆ ครูพี่เลี้ยงต่างศาสนาน่ารักและเข้ากันได้ดี มาทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตที่แตกต่าง ให้เกียรติกัน ประทับใจกิจกรรมราตรีสมานฉันท์ได้สร้างสรรค์การแสดงทางวัฒนธรรมในมิติศาสนา และกิจกรรมให้ความรู้ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไปชมน้องหมูเด้ง

น.ส.สุจิรา พงษ์ประยูร ร.ร ตันหยงมัส จ.นราธิวาส กล่าวว่า ตลอด 5 วันของการอบรมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ มีความสนุกสนาน ได้เพื่อนใหม่เป็นเพื่อนต่างโรงเรียนและต่างศาสนา หลังเข้าร่วมกิจกรรมฐานการเรียนรู้ 5 ศาสนา ทำให้เข้าใจหลักปฏิบัติและเกิดความเข้าใจ นำไปปรับใช้ได้ อบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์เพิ่มพลังความคิดให้แก่พวกเรา

เช่นเดียวกับ น.ส.ณัฐธิกานต์ ถิ่นชะนะ ร.ร กาบังพิทยาคม จ.ยะลา กล่าวว่า ตนนับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาต่างๆ อยากเป็นส่วนหนึ่งส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม แต่ละกิจกรรมของเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ส่งเสริมการทำงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ถือเป็นการปลูกฝังพื้นฐานสำคัญทำให้พวกเรามีความสามัคคีกลมเกลียวกันจะนำไปสู่ความสงบ สันติ ของประเทศไทย



