PRTR กฎหมายจับตา 'อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม'

ภาพ:มูลนิธิบูรณะนิเวศ

ร่าง พ.ร.บ.การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญแก้ปัญหามลพิษจากภาคอุตสาหกรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเกิดกรณีโรงงานลักลอบทิ้งของเสียอันตราย ส่งผลให้ชุมชนหลายจังหวัดต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน อันตรายต่อชีวิตและสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม .

กฎหมาย PRTR จะบังคับให้โรงงานและหน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษและการขนย้ายสารอันตรายในรูปแบบข้อมูลเปิด (Open Data) ทำให้ประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบของผู้ก่อมลพิษ องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการสิ่งแวดล้อมและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้ออกกฎหมายนี้ ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องมีการพิจารณาของสภา เพื่อผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ และประกาศบังคับใช้ให้ทันก่อนการยุบสภา

บนเวที”พลเมืองสู้มลพิษ จับตาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม”  จัดโดยมูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งเป็นการประชุมที่มีเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรมจากพื้นทื่ต่างๆ ใน 12 จังหวัด กว่า 200 คน เข้าร่วม เมื่อวันก่อน มีการสะท้อนปัญหาพิษภัยมลพิษ การต่อสู้ และการพัฒนากลไกอาชญากรรมสิ้งแวดล้อมลดลง โดยเฉพาะการผลักดันกฎหมาย PRTR

เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศกล่าวว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรมจำนวนมาก มาจากการก่ออาชญากรรมสิ่งแวดล้อม การซุกกากอุตสาหกรรม  ผลกระทบมีตั้งแต่แหล่งน้ำเสียหาย ที่ดินทำกิน พื้นที่เกษตรกรรมปนเปื้อน  รวมถึงคุกคามชีวิต  นิยาม “อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม” ใช้กันในระดับสากล รวมทั้งมีการยอมรับในระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมแล้วว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ กระทบส่วนรวม ต้องเปิดเผยผู้อยู่เบื้องหลัง ผลเสียหายอาจเกิดขึ้นทันทีหรือใช้เวลานานเห็นผลเสียหาย  สาเหตุเกิดจากการฝ่าฝืนและขาดการกับดูแลที่ดี รวมถึงผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุนผลิต ขาดความรับผิดชอบ จนท. นักการเมือง ข้าราชการประจำทุจริต EU ปรับปรุงข้อกำหนดใหม่ปี 67 เพื่อป้องกันอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม ขณะที่อาชญากรรมสิ่งแวดล้อมในไทยไม่มีสถานะทางกฎหมาย ยังไม่พูดถึง ทำให้เหยื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือตามที่ควรจะเป็น  

“ การต่อสู้มลพิษอุตสาหกรรม มูลนิธิฯ ผลักดันกฎหมาย PRTR หรือร่างพระราชบัญญัติการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (Pollutant Release and Transfer Register)  สภาฯ รับหลัการร่างกฎหมายวาระที่หนึ่งแล้ว เกิดคณะกรรมการวิสามัญปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับนี้  เป็นกฎหมายที่ทุกประเทศจำเป็นต้องมี เพื่อให้มีฐานข้อมูลด้านมลพิษที่หน่วยงานทุกหน่วยและสาธารณะเข้าถึงได้  ปล่อยสารพิษชนิดใดสู่ดิน น้ำ อากาศ ปล่อยมลพิษต่อปีปริมาณเท่าไหร่  มีผลต่อการพิจารณาขยายโรงงาน รวมถึงกิจกรรมเหมืองแร่ คลังก๊าซ  PRTR  แหล่งกำเนิดมลพิษต้องส่งรายงานให้หน่วยงานกลาง จะเป็นอีกเครื่องมือช่วยในภาพรวมจับตาอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม ทำให้คดีสิ่งแวดล้อมในไทยน้อยลงและมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เราสู้เพื่อให้มีกฎหมายนี้ ” เพ็ญโฉม กล่าว

ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า แนวโน้มที่ประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทยกำลังกลายเป็นปลายทางของการนำเข้าขยะ เรื่องนี้มีแรงผลักจากการที่กิจการรีไซเคิลนั้น ก่อให้เกิดมลพิษสูง เสี่ยงก่ออาชญากรรมสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานก็เช่นกัน ขยะและของเสียอันตราย ลักลอบทิ้งน้ำเสีย มลพิษอากาศ ดังนั้น ประเทศพัฒนาแล้วไม่ต้องการดำเนินกิจการรีไซเคิลภายในประเทศ ขณะเดียวกันไทยมีนโยบายสร้างแรงดึงดูดให้ขยะจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามา   นโยบายใหญ่คือเศรษฐกิจหมุนเวียน  ทั้งยังมีนโยบายเสริมเขตปลอดอากร หรือ Freezone ที่เปิดข้อยกเว้น ทั้งเรื่องการนำเข้าขยะต้องห้าม และการประกอบกิจการรีไซเคิลต่างๆ เพื่อการส่งออก

ด้าน ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีตหัวหน้าทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งปฏิบัติภารกิจ 10 เดือนในการทำงานของทีมสุดซอยว่า มีการตรวจสอบ 3 เรื่องหลักๆ  เรื่องแรก ขยะนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามข้อมูลต้นทางที่ได้รับการประสานจากมูลนิธิบูรณะนิเวศ โดยเป็นข้อมูลที่ได้รับจากองค์กรระหว่างประเทศที่ชื่อ BAN หรือ “เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล” (Basel Action Network) องค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด ทั้งนี้ ยอดรวมที่ BAN มีการแจ้งข้อมูลการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และกากอุตสาหกรรมอย่างฝุ่นแดง รวมแล้วเป็นปริมาณ 400 ตู้สินค้า

ส่วนเรื่องที่สองตรวจโรงงานรีไซเคิลที่กระจายตัวตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ EEC 3 จังหวัดภาคตะวันออก อันได้แก่ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง รวมถึงปราจีนบุรี ผลพบว่าส่วนใหญ่ประกอบกิจการโดยทุนจีน มีทั้งที่ประกอบกิจการแบบเถื่อน หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต และแบบที่ใช้ใบอนุญาตของคนไทย ประกอบกิจการในลักษณะรีไซเคิลศูนย์เหรียญ นั่นคือ นำวัตถุดิบขยะของเสียมาจากต่างประเทศ นำมาคัดแยกส่วนที่ยังใช้ได้ออกขาย คงเหลือส่วนที่เป็นกากปลายทางไว้ กลายเป็นแหล่งมลพิษ รวมทั้งมีการก่อมลพิษในกระบวนการคัดแยกหรือรีไซเคิลด้วย

ถัดมาปัญหาการนำเศษเหลือสุดท้ายไปหลอกแจกจ่ายหรือปล่อยทิ้งตามพื้นที่ต่างๆ มีทั้งการลักลอบทิ้งโดยเจ้าของพื้นที่ไม่รับทราบและแบบที่เต็มใจรับด้วยสาเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื่องจากถูกหลอกว่าเป็นดิน ปุ๋ย ฯลฯ เนื่องจากเป็นเครือข่ายกับเจ้าของกาก หรือแม้แต่เพื่อผลประโยชน์ เรื่องข้างต้นมีความเชื่อมโยง ขยะนำเข้าเสมือนเป็นต้นทาง โรงงานรีไซเคิลเป็นขั้นกลาง ส่วนการลอบทิ้งหรือปล่อยกากสุดท้ายปลายทางกระจายไปตามพื้นที่เอกชนหรือพื้นที่ของประชาชนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาปลายทาง ปัจจุบันการทำงานจะต่อเนื่องในแบบภาคเอกชน “คณะสุดซอย”ติดตามผลการดำเนินคดีกรณีต่างๆ ที่ได้ตรวจสอบไว้ ให้มีการดำเนินการเข้มข้น ฝากถึงรมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ ทั้งการลักลอบนำเข้าขยะอุตสาหกรรมและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงปัญหามลพิษจากโรงงานทุนจีน อยากให้ติดตามคดีโรงงานที่กระผิดที่ยังคงค้างด้วย

ขณะที่ ดาวัลย์ จันทรหัสดี ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประชาชนต้องต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อม ชุมชน และสุขภาพ รวมถึงต่อสู้กับกลุ่มผลประโยชน์ที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายด้วยเป็นการต่อสู้ที่ยากเย็น  จากการทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ พบว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ที่ความชัดเจนทางนโยบายและทิศทางของผู้บริหาร สถานการณ์ปัจจุบันว่า เมื่อมีการเปลี่ยนคณะผู้บริหารประเทศ แต่แนวทางด้านอุตสาหกรรมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงจนเกิดปรากฏการณ์รูปธรรมในพื้นที่แล้ว ยกตัวอย่างที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีการรุกยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการรีไซเคิลแล้ว 2 ราย โดยที่รายหนึ่งเคยมีผลงานเรื่องการทิ้งกากด้วย

ภาพ: มูลนิธิบูรณะนิเวศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เอกนัฏ’ ส่งทีมสุดซอยรุกปิดเกม ‘แก๊งฟอกฝุ่นแดง’ รวบตัวการใหญ่

“เอกนัฏ” มอบ “ทีมสุดซอย” ขยายผลตัดตอนขบวนการฝุ่นแดง ล่าจนเจอ “ตัวการใหญ่” มีคดีคา “ดีเอสไอ” แต่ยังไม่สำนึก สารภาพเปิด 3 บริษัท ทำครบกระบวนการ รับกาก-ผลิต-ส่งขาย ตั้งแต่เหมาซื้อกากอุตฯ อันตรายจาก รง.เหล็ก IF หลอมใหม่เป็น “สังกะสีแท่ง” ส่งขายในไทย-ตปท. ผิด กม.เพียบตลอดเส้นทาง

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าปราบนิคมศูนย์เหรียญ

รัฐบาลเดินหน้าปราบ 'นิคมศูนย์เหรียญ' เอกนัฏส่ง 'สุดซอย' ลุยฟรีโซน – ระยอง ยึดของกลางเพียบ ดำเนินคดีทันที พร้อมเร่งทบทวนมาตรการกำกับดูแลไม่ให้เอื้อขบวนการลักลอบ

'เอกนัฏ' ส่ง 'สุดซอย' บุก 'ฟรีโซน' รวบบริษัทศูนย์เหรียญ ลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์

'เอกนัฏ' สาวถึงต้นตอส่ง 'สุดซอย' ตรวจค้นบริษัทในเขตปลอดอากร (ฟรีโซน) ลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ยึดวัตถุอันตราย 118 ตัน สั่งส่งกลับต้นทางภายใน 30 วัน พบทำผิดอนุสัญญาบาเซลฯ-กม.ไทยเป็นหางว่าว 'ฐิติภัสร์' ฟันธงพฤติการณ์ 'แก๊งศูนย์เหรียญ' ชัด ลั่นต้องปราบให้สิ้นซาก

'เอกนัฏ' ส่งทีมสุดซอย บุกตรวจอาคารถล่มที่ชลบุรี พบใช้เหล็ก 'ซิน เคอ หยวน'

จากเหตุการณ์อาคารโรงงานถล่ม ภายในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี เฟส 10 อ.พานทอง จ.ชลบุรี ทำให้ชิ้นส่วนของอาคาร ร่วงทับรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณด้านข้าง พังเสียหายหลายคัน

'เอกนัฏ' สอยยกแก๊งลอบนำเข้า 'ฝุ่นแดง' เส้นเงินโผล่ ทำเป็นขบวนการ ขู่ฟันขรก. มีเอี่ยว

“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” บุกจับ “หัวจงฯ” ซ้ำ หลัง เจอเส้นทางการเงินจ่ายค่า “ฝุ่นแดง” โผล่ “ซิน เคอ หยวน” ยอดเกิน 111.8 ล้านบาท พบโยง “เค เอ็ม ซี” บริษัทนำเข้ากากอุตฯ รายใหญ่ ฮึ่ม! ขรก. มีเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง ”ฐิติภัสร์“ เผยเจ้าหน้าที่แจ้งความเอาผิด หัวจงฯ จ่อรับโทษจำคุก คาด 'แก๊งศูนย์เหรียญ' ทำเป็นขบวนการ