
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ต้อนรับปี2569 โบกมือลาปี2568 สิ่งที่ภาครัฐเป็นห่วงก็คือ เรื่องอุบัติเหตุ การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ ซึ่งมีตั้งแต่ระดับรุนแรงถึงขั้นพิการ ไปจนถึงเจ็บตัวเล็กน้อย พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 7 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.68-5 ม.ค.69) เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษมากกว่าช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้สถิติอุบัติทางถนนข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ในเทศกาลปีใหม่ 2568 (ช่วง 7 วัน)ที่ผ่านมา มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ 1,930 ครั้ง บาดเจ็บ 1,894 คน เสียชีวิต 311 คน สาเหตุจากดื่มแล้วขับ ร้อยละ 17.20 ขับรถเร็ว ร้อยละ 40.25 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.18 และยังพบว่า 50 % ของกลุ่มผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน อยู่ไม่ไกลจากบ้านหรือที่พักในรัศมีประมาณ 5-10 กิโลเมตร

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้เกิดความสูญเสียเฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในเชิงลึกและกว้างไปยังครอบครัว ญาติพี่น้อง ของบุคคลที่สูญเสียอีกด้วย ผอ.สคอ.ชี้ว่า การดื่มแล้วขับไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ขับขี่ แต่ยังกระทบไปถึง “คนข้างหลัง”จำนวนมาก โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะสั้น ครอบครัวอาจต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัวและรายได้ โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งผลให้คนข้างหลัง ขาดเสาหลัก ขาดผู้นำ และขาดที่พึ่ง เป็นผลกระทบแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นทันที 2. ระยะกลาง คือภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่าชดเชยให้คู่กรณีที่เสียชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นภาระที่หนักขึ้นทับซ้อนในช่วงที่ครอบครัวกำลังเปราะบาง 3. ระยะสุดท้าย หากคนดื่มแล้วขับเป็นฝ่ายผิด และคู่กรณีเสียชีวิตอาจเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมชดเชยไปถึงลูกเมีย แม้คนเมาแล้วขับจะเสียชีวิตไปแล้ว ทรัพย์สินที่มีอาจต้องขายเพื่อชดเชยให้คู่กรณี บางครอบครัวอาจถึงขั้นล่มสลาย

“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ หรือเทศกาล อาจจะมาจากสิ่งที่คาดไม่ถึง แม้จะฉลองกัน ดื่มกินในบ้าน แต่บางทีของหมด น้ำแข็งหมด ก็จะมีการออกไปซื้อ แม้คนที่ซื้ออาจจะไม่เมา แต่เขาไปเจอคนเมา หรือพวกขับรถเร็ว เราพบว่า บางอุบัติเหตุ มาจากการไปซื้อน้ำแข็งแค่ถุงเดียว โดนชนเสียชีวิตเลย หรือบางรายก็เกิดจากการไปซื้อกับแกล้ม เราเคยเจอ บางเคส ตีนไก่ กระจายเต็มถนนเลย เพราะคนไปซื้อไปเจอคนขับรถเร็ว หรือคนเมา ชีวิตที่สูญเสียไปจึงไม่คุ้ม” ผอ.สคอ.เล่า
ไม่ได้มีแต่เพียงผู้ประสบอุบัติเหตุที่ต้องสูญเสีย ผอ.สคอ. เล่าอีกว่า บางเคสที่เจอ มีการขับรถเร็ว ทำให้พ่อแม่ลูกเสีย ชีวิต ศาลสั่งให้คนขับผู้ก่อเหตุ ต้องชดใช้ครอบครัวผู้เสียหายเป็นเงิน 7 ล้านบาท ซึ่งในกรณีที่ถ้าเป็นครอบครัวมีฐานะก็จะไม่เดือดร้อน แต่ถ้าไม่มีเงินพอ ก็อาจจะถูกยึดทรัพย์ บ้าน รถ รวมทั้งพ่อแม่อาจจะต้องเดือดร้อนไปด้วย
ผอ.สคอ. กล่าวอีกว่า สำหรับข้อแนะนำผู้ที่ต้องเดินทางไกล ขอแนะให้เตรียม 4 พร้อม คือ 1. คนพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับขี่โดยเด็ดขาด ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง 2. รถพร้อม ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง เบรก ยางรถและลมยาง ไฟหน้า–ไฟท้าย–ไฟเลี้ยว น้ำมันเครื่อง อุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้งาน ยางอะไหล่ ไฟฉาย 3. เส้นทางพร้อม วางแผนเส้นทางล่วงหน้า เช็กจุดเสี่ยง จุดก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพอากาศ หลีกเลี่ยงช่วงเวลาจราจรหนาแน่น เตรียมจุดพักทุก 2 ชั่วโมง หรือเมื่อเริ่มง่วง 4. เวลาและสติพร้อม ไม่เร่งรีบ ไม่ขับเร็วเกินกำหนด เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า มีสติ เคารพกฎจราจร หากง่วงหรือเหนื่อย ให้จอดพักทันที

“ปีใหม่นี้ขอชวนร่วมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง” เพื่อกระตุ้นเตือนเน้นย้ำถึงความความสำคัญของการดื่มไม่ขับ เพื่อให้เดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ สคอ. ยังได้มีการสื่อสารลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการสร้างความรู้ ความตระหนักแก่ประชาชนผู้ขับขี่ตั้งแต่ก่อนเทศกาลและช่วงเทศกาล โดยผลิตสื่อฯและชุดข้อมูลการเฝ้าระวังป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนสนับสนุนภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ตลอดจนจัดทีมลงพื้นที่ติดตามกรณีอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดช่วงเทศกาลโดยใช้ข้อมูลตัวเลขจาก ศปถ.รายวัน จัดทำเป็นคลิปวิดีโอสะท้อนผลกระทบ ปัญหา สาเหตุและข้อเสนอแนะขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในอนาคตต่อไป “

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จยย. 2 กลุ่ม ชนสนั่น! กลางถนนสุวรรณภูมิ ดับ 2 เจ็บอีก 3
เมื่อเวลา 01.00 น. ศูนย์กู้ชีพปราการรับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุหมู่รถชนกันหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายรายอาการสาหัส และมีเพลิงลุกไหม้รถคันเกิดเหตุ เหตุเกิดบนถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ สาย 3
หนุ่มซิ่ง จยย. โชว์ยกล้อ ชนประสานงา จยย. อีกคน ดับ 1 เจ็บสาหัส 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนท้ายบ้าน บริเวณปากซอยราฟาแอล 10 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
กระบะเมาหนักฝ่าไฟแดง พุ่งชนร้านข้างทาง เจ็บ 12 ราย
เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ "แก่นนคร 191" สภ.เมืองขอนแก่น ว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนกันก่อนจะเสียหลักพุ่งชนร้านอาหาร
ตำรวจมะขามหวาน สกัดจับ 'ทริปน้ำไม่อาบ' ปรับ 1,481 ราย เสพยาอีก 1
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับเข้มในการประชุมบริหารจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ชนสยอง! เก๋งแหกโค้งอัดเสาไฟพลิกคว่ำ ดับ 2 เจ็บ 3
เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งแหกโค้ง เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
รถทัวร์ชนสนั่นกระบะ เจ็บสาหัส 4 เหตุผู้รับเหมาชุ่ย ซ่อมถนนให้รถวิ่งสวนเลนไร้แสงสว่างแจ้งเตือน
ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถทัวร์ปรับอากาศชนกับรถยนต์กระบะบนถนนสายเพชรเกษม กม.ที่ 507 ม.7 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

