ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ได้ ‘อัศวิน’ ได้ ‘บิ๊กตู่’

หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มันหยด ประชาธิปัตย์ซัด "บิ๊กตู่" ระวังคนจะไม่เอา "อัศวิน" เพราะกลัวจะได้ "ประยุทธ์" มีภาพสืบทอดอำนาจ "ทิพานัน" สวนทันควัน ฝ่ายการเมืองไม่ควรหวาดระแวงหรือสร้างเงื่อนไขเพื่อจำกัดสิทธิในการบริหารงานของผู้นำประเทศ

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2565 บรรดาผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก ขณะที่การลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการช่วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หาเสียง

นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ประเด็นนี้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า เชื่อว่ามีคนตั้งคำถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะในวันที่ 30 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะระบุว่าไม่ได้เชียร์ใคร แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินได้อ่าน ต่างตีความว่าหมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน

ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียง ลองถามต่อไปสิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร" คำว่า "จะทำอะไรต่อ" มันสอดรับกับสโลแกนของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ว่า "กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ" อย่างบังเอิญ อีกวันต่อมา ช่วงเย็น 31 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ควงแขน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเป็นภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดการอีกครั้ง

การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้คงไม่แปลกอะไร หากแต่การเลือกลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างในช่วงนี้ และวันเดียวกับที่มีการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันแรก มันยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังช่วย พล.ต.อ.อัศวินหาเสียงทางอ้อม แม้ไม่ได้มีประโยคไหนสื่อถึงก็ตามที

เพราะการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง จนได้รับรางวัลต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชียประจำปี ค.ศ.2020 (2020 Asian Townscape Award) จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-HABITAT) ซึ่งประกาศรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวินใช้เป็นผลงานมาโดยตลอด และนำมาหาเสียงในครั้งนี้ด้วย

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่รับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มันจึงสร้างความหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จะจัดการเลือกตั้งได้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะมีการใช้กลไกฝ่ายอำนาจมาเอื้อให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ ในเมื่อผู้นำยังทำตัวสองแง่สามง่ามลับๆ ล่อๆ

"ระวังคนจะไม่เอา พล.ต.อ.อัศวิน เพราะกลัวจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีภาพของการสืบทอดอำนาจนะครับ" นายพนิต ระบุ

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อสัมผัสปัญหาที่แท้จริง แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ให้ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนทุกกลุ่มให้มากที่สุด เป็นหัวใจสำคัญของการบริหาร ในขณะที่พี่น้องประชาชนก็ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี สอบถามวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจและรับรู้ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกต้อง จากมาตรการที่นายกรัฐมนตรีผลักดันเพื่อพี่น้องประชาชน

“ฝ่ายการเมืองไม่ควรหวาดระแวง หรือสร้างเงื่อนไขเพื่อจำกัดสิทธิในการบริหารงานของผู้นำประเทศ ในทางตรงกันข้าม ควรสนับสนุนให้นายกฯ ลงพื้นที่ หากเห็นแก่ประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เหนือประโยชน์ในทางการเมือง เพราะในขณะที่นายกฯ มุ่งแก้ไขปัญหา ฝ่ายค้านไม่ควรขัดแข้งขัดขา การพบปะประชาชนและการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะสร้างความเบื่อหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน” น.ส.ทิพานันกล่าว

วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ลงพื้นที่หาเสียงในเขตประเวศและเขตบางนา โดยจุดแรกลงพื้นที่เขตประเวศ พร้อมด้วยนายอภิชาติ จรัสโภคา ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตประเวศ เมื่อไปถึง พล.ต.อ.อัศวินได้เข้าไปนมัสการพระครูโสภณ เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มเสือปลา และสักการะศาลเจ้าพ่อเสือ

                พล.ต.อ.อัศวินระบุว่า หากได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็จะกลับมาสานงานต่อในโครงการที่ได้เริ่มไว้ และพร้อมต่อยอดปรับปรุงปัญหาริมคลอง โดยในเขตประเวศ จะเสนอส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวริมคลอง และพัฒนาโครงการเรือโดยสารของเขตประเวศ เป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางในเขตเมืองที่ช่วยประชาชนประหยัดเวลาเดินทางไปยังรถไฟฟ้าในช่วงเวลาเร่งรีบ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหารถติดในถนนอ่อนนุชได้

ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยกลุ่มนิสิตจุฬา​ฯ พิทักษ์ศาลเจ้าแม่ทับทิม เดินทางไปยังศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง เพื่อพูดคุยสอบถามและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีการไล่ที่ประชาชนและพยายามย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมไปไว้ที่สถานที่ใหม่

                โดยนายวิโรจน์​กล่าวว่า ​บริบททางประวัติศาสตร์ของศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง เป็นศาลเจ้าที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี เกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยชุมชนชาวจีนอพยพที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงการดำรงอยู่อย่างร่วมสมัยผ่านกาลเวลา เมื่อมีการพัฒนาพื้นที่เป็นย่านธุรกิจ ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายศาลดั้งเดิมที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางจิตใจ

                "การพัฒนาเมืองต้องคำนึงถึงหัวใจและจิตวิญญาณของชุมชนด้วย ไม่ใช่เพียงตอบสนองผลประโยชน์ของทุนใหญ่" นายวิโรจน์กล่าว

                ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่ตลาดประชานิเวศน์ และตลาด อ.ต.ก. โดยระบุว่า ตลาดประชานิเวศน์เป็นตลาดของ กทม. พบปัญหาทับซ้อนที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ค้า ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต้องจ่ายเงินเช่าพื้นที่ ขณะเดียวกันยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ค้าภายนอกมาขายรายวัน ค่าเช่าถูกกว่า เรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่ กทม.ต้องมีบทบาทลดผลกระทบให้ประชาชน เพื่อหาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ตลาดให้เป็นประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย

                นายชัชชาติชูแนวคิด “ทำกรุงเทพฯ ให้ถูกลง” ช่วยเหลือประชาชนในยามยากลำบาก ปัจจุบัน กทม.มีตลาดในการดูแลทั้งสิ้น 13 แห่ง รวมจำนวนแผงค้ากระจายในเขตต่างๆ กว่า 20,000 แผงค้า กทม. สามารถพัฒนาตลาดให้เป็นพื้นที่สร้างโอกาสทางการค้าได้

                ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 พร้อมด้วยนายวิศาล กองเงิน ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หมายเลข 6 เขตจตุจักร พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เดินตลาด อ.ต.ก.พบปะผู้ค้า สอบถามปัญหาการค้าขาย

                น.ต.ศิธาระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย และทีมนโยบาย กทม.ของพรรคได้เตรียม กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก หรือ "กองทุนคนตัวเล็ก" ซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อมอบเครดิตแก่ประชาชน ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนในการทำมาหากิน จนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนนี้จะเป็นเครดิตที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่างจากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ทำให้คนตัวเล็กตั้งตัวได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แม้ว' หักหลังเสื้อแดง ฟันธงเลือกตั้ง 'เพื่อไทย' แพ้ 'ก้าวไกล'

ความพยายามของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาปฏิเสธภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ แต่เป็นพรรครีฟอร์มมาจากพรรคไทยรักไทย และพรรคพลัง

วุฒิสภา นัดถกรายงานเสนอ กกต. แก้กฎหมายเลือกตั้ง-พรรค ใช้โซเชียลหาเสียง

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมในวันที่ 9 เม.ย. โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.

‘เศรษฐา’ โอ่ 3 ปีครึ่ง นำความเป็นอยู่ที่ดีให้ ปชช. ฉุด ‘พท.’ ชนะเลือกตั้งครั้งหน้า

นายกฯ โอ่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และหวังว่าผลที่จะตามมาคือ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง

ตามคาด! ซักฟอก 2 วัน ฝ่ายค้านงัดข้อมูลเก่า เน้นวาทกรรมปั้นคำแรง

'ธนกร' ชี้ไม่เกินคาด ฝ่ายค้านยังใช้ข้อมูลเก่า วาทกรรมวนลูปเดิม ติงไม่เหมาะพาดพิง 'บิ๊กตู่' แนะสมัยประชุมหน้างัดหลักฐาน ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มากกว่าปั้นคำแรงๆ

แล้วกัน! สว.วันชัย ถามไม่เอาทักษิณ-เพื่อไทย แล้วจะเอาใครไปสู้ก้าวไกล

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ไม่เอาเพื่อไทย จะเอาใครมาสู้” ระบุว่าก็เห็นพูดกันว่าก้าวไ