ทุ่ม2.7หมื่นล้าน ประกันรายได้ 3พืชเศรษฐกิจ

เกษตรกรเฮ! ครม.เคาะประกันรายได้ 3 พืชเศรษฐกิจ ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด 3 ปี วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ "บิ๊กตู่" สั่งด่วน "พาณิชย์-เกษตรฯ" สางปัญหาปุ๋ยแพง

เมื่อวันจันทร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรณีประกันรายได้ปีที่ 3 ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.ไปแล้ววันนี้ทั้ง 3 ตัว ก็คือ 1.ข้าว โดยประกอบด้วย ข้าว 5 ชนิด วงเงิน 18,000 ล้านบาท 2.มันสำปะหลัง วงเงิน 7,100 ล้านบาท และ 3.ข้าวโพด วงเงิน 1,900 ล้านบาท

นายจุรินทร์ระบุว่า รวมทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติไป 27,000 ล้านบาท ซึ่งหลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด แบบปีที่ 1 และปีที่ 2 ทุกประการ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 สำหรับมันสำปะหลังและข้าวโพด ขณะนี้ถือว่ามีราคาดี และมีราคาเกินรายได้ที่ประกัน อย่างมันสำปะหลังวานนี้มีราคา กก.ละ 2.70 บาท ซึ่งประกันรายได้ที่ 2.50 บาท ถือว่ามีราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้

นายจุรินทร์กล่าวว่า ส่วนข้าวโพดประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ขณะนี้มีราคา 9-10 บาท ถือว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน ยกเว้นข้าวที่มีราคาหย่อนลงมา เพราะอาจจะยังเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องนโยบายว่าจะมีประกันรายได้หรือไม่ และจะมีมาตรการคู่ขนานที่จะมาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ที่สามารถรวบรวมข้าวและเก็บสต๊อกข้าวไว้ จะได้เงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาทหรือไม่ เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อที่ประชุมเห็นชอบชัดเจนแล้ว ก็สามารถเก็บรวมรวมข้าวได้ และยังไม่จำเป็นต้องนำข้าวออกมาขายในยามที่ราคายังไม่ดี ซึ่งจะช่วยดึงราคาในตลาดให้สูงขึ้นได้

"เพราะฉะนั้นโรงสีก็จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องภาระดอกเบี้ย 3% ทำให้สามารถรับซื้อจากเกษตรกรได้ในราคาที่ดีขึ้น และเก็บสต๊อกไว้ได้ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยดึงราคาข้าวในตลาดให้ดีขึ้นจากมติ ครม.วันนี้ ดังนั้นการส่งออกในครึ่งปีหลังก็จะมีตัวเลขที่น่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และช่วยดึงราคาข้าวให้ดีขึ้นอีกช่วงหนึ่งด้วย" นายจุรินทร์กล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ประสบปัญหาต้นทุนการเกษตรที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น จากราคาน้ำมันและปุ๋ยแพง โดยนายกฯ สั่งการให้แก้ปัญหาปุ๋ยแพงอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งปุ๋ยมีราคาสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี

“ในขณะนี้ได้ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ เร่งพิจารณาแนวทางในการแก้ปัญหาปุ๋ยแพง รวมทั้งต้องมีการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตปุ๋ยภายในประเทศ ทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ให้เร่งหารือช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนค่าปุ๋ย ในช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้น ลดการพึ่งพิงตลาดนำเข้า โดยนายกรัฐมนตรีย้ำเป็นห่วงปัญหาราคาพืชผลเกษตรรายตัวตกต่ำขณะนี้ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของพี่น้องเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 น้ำท่วม และราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น” นายธนากรระบุ

นายธนากรระบุด้วยว่า นายกฯ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในช่วงไตรมาส 4 และดูแลเกษตรรายย่อย โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำการเกษตรในพี้นที่เล็กๆ รวมทั้งให้แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรในรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับการเกษตรของไทยให้ยั่งยืนและพึ่งพาตนเองได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง