รำลึก12ปี10เมย. ‘เต้น-ตู่’แยกวงจัด จวก3ป.ยื้ออำนาจ

รำลึก 12 ปี 10 เมษา แกนนำเสื้อแดง-ส.ส.เพื่อไทยพรึ่บ! “เต้น”ลั่นโศกนาฏกรรมยังไม่ได้ชำระความจริงฝ่ายรัฐไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่คนเดียว หวังพลัง ปชช.ต้านสืบทอดอำนาจสู้ 20 ปีก็ไม่สิ้นหวัง ชี้เป้า 3 ป.หัวหดยื้ออำนาจ ขณะที่ "จตุพร" ระบายแค้น รับเละเข้าคุกมากที่สุด กลืนเลือดในอกไอ้คนไม่ทรยศไม่เคยเข้า ท้า "บิ๊กตู่" อย่าลาออกประเทศยังเหลือความชิบหายให้ทำได้อีกมาก นักเลือกตั้งบัตร 2 ใบชนะก็ปกครองไม่ได้

เมื่อวันอาทิตย์ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน แกนนำคนเสื้อแดงร่วมจัดงานรำลึกเหตุการณ์ 10 เมษา 2553 #ยุติธรรมไม่มี 12 ปีเราไม่ลืม มีประชาชนและแกนนำคนเสื้อแดงเดินทางมาอย่างคับคั่ง อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายวรชัย เหมะ เช่นเดียวกับคณะ ส.ส.เพื่อไทย อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เป็นต้น โดยพิธีรำลึกเริ่มตั้งแต่ 13.00 น. มีการถวายสังฆทาน กลุ่มมวลชน พรรคการเมือง วางหรีดและดอกไม้ พร้อมกับกล่าวรำลึกถึงเหตุการณ์

 นายณัฐวุฒิกล่าวว่า จัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงความสูญเสียของประชาชนจากการล้อมปราบของเจ้าหน้าที่ เพื่อประกาศต่อสังคม โศกนาฏกรรมนี้ยังไม่มีการชำระความจริง ยังไม่มีกระบวนการยุติธรรมดำเนินการกับคนทำความผิด ที่ใช้กำลังปราบปรามประชาชน ให้มารับผิดชอบตามกฎหมาย เราไม่มีเจตนาตอกลิ่มความขัดแย้ง หรือมีเงื่อนไข หรือเติมเงื่อนไขความแตกแยกในสังคมให้ลุกลามบานปลาย ต้องการรักษาแผลเก่า ไม่ให้เป็นแผลอักเสบเรื้อรังของสังคม

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หากไม่มีความยุติธรรมให้ประชาชนผู้สูญเสีย ก็จะเป็นหลักประกันให้ผู้มีอำนาจว่า สามารถใช้กำลังปราบปรามประชาชนได้อีกในอนาคต เพราะมีตัวอย่างที่ลอยนวลและหลีกหนีความผิดได้ ความขัดแย้งของสังคมไทยที่มากขึ้นทุกวัน ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคตอาจจะมีการเคลื่อนไหว ต่อสู้ของประชาชน ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก อาจเกิดเหตุการณ์แบบวันที่ 10 เม.ย. 2553 ได้อีกครั้ง ตราบที่ฝ่ายรัฐเชื่อมั่น ทำแล้วไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า เวลานี้เป็นช่วงการต่อสู้ของวัยหนุ่มสาว ที่อาจจะเป็นลูกหลานของพวกท่านมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพบนถนน และสุ่มเสี่ยงเผชิญหน้ากับรัฐ จึงต้องมาตอกย้ำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อไม่ให้ถูกกระทำโดยรัฐ และต้องเดินหน้ากระบวนการยุติธรรม คนทำผิดต้องรับผิดชอบ ตลอด 12 ปี แกนนำประชาชนถูกจับกุมคุมขัง ถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายรัฐที่เป็นคู่กรณีไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่คนเดียว

 “คดีอาญาทั่วไปจะหมดอายุความใน 20 ปี จึงเหลือเวลา 8 ปี และยังเชื่อว่าสาเหตุที่ผู้มีอำนาจชุดนี้ดึงดันจะอยู่ในอำนาจ เพราะอายุความในคดีนี้ด้วย นายทหาร 3 ป. คือบุคคลสำคัญที่ดูแลกองทัพเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เวลานี้มีอำนาจในรัฐบาล แต่เรายังคาดหวังพลังจากประชาชนไม่ให้การสืบทอดอำนาจมีต่อไปและเดินหน้าทวงถามความยุติธรรมในกรอบเวลา 20 ปี เราก็จะสู้และไม่สิ้นหวัง”

วันเดียวกัน ที่อาคารพีซทีวี ซอยรามอินทรา 40 อีกสถานที่หนึ่งของการจัดงานรำลึก 12 ปี 10 เมษายน 2553 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า วันนี้ครบรอบที่เป็นรอบจริงๆ คือ 12 ปี ที่เป็น 12 ปีแห่งความสูญเสีย ตลอดระยะเวลา ถ้านับขบวนการคนเสื้อแดงถอยไปอีก 3 ปี คือปี 2550 ตลอดระยะก็รวมเป็น 15 ปีที่เราปรากฏตัวตนกันอยู่ในประเทศนี้ ทุกกระบวนการที่สามารถไปเรียกร้องหาความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือที่ใดของโลก เราได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วน เพียงแต่ว่าไม่เคยมีที่ไหนสามารถให้ความยุติธรรมกับพี่น้องคนเสื้อแดงได้ นี่เป็นความสูญเสียที่ใหญ่มากที่สุด ความตายและความสูญเสียของคนเสื้อแดงนั้น เป็นความสูญเสียที่มากที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยนี้เคยตั้งมา

นายจตุพรกล่าวว่า ความจริงตั้งแต่ปี 2535 ถึงปี 2553 มาถึงปี 2565 จุดยืนไม่เคยย้ายไปจากตัวของตนเองเลย เป็นภูมิต้านทานต่ำกับคุก แน่นอนที่สุดพอขยับที ไอ้พวกนี้วางแผนขังทุกที ในขบวนการแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมด เป็นคนที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุด เข้า-ออกคุกมากที่สุด และก็ถูกกล่าวหาทั้งที่เข้า-ออกคุก

 “ถ้าคนมันจะทรยศ มันจะเข้าคุกออกคุกถึง 5 ครั้งหรือ ไอ้คนที่ไม่เคยทรยศ ไม่เคยเข้าคุกเลย ผมอยู่ในสนามตั้งแต่วัยเด็กอายุ 20 เศษ จนถึงวันนี้ช่วงปลายของชีวิต ก็ต้องเลือกในการต่อสู้ ยกที่แล้วขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รู้ว่าลงมือวันไหน พวกนี้วางแผนขังแล้วก็ไม่ผิดคาด วันนี้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ฟัง ผมขอร้องว่าอย่าลาออก ประเทศชาติยังเหลือความฉิบหายให้คุณทำอีกได้มากพอสมควร เพราะจุดจบอำนาจต้องรู้จักคำว่านรกมีจริง” นายจตุพรกล่าว

 นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนสภาเปิด ปัญหาคือฝ่ายค้านอย่าผิดสัญญา ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 23 พ.ค. เพราะแน่นอนที่สุดถ้ายื่นไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถยุบสภาได้ แต่ถ้ายืดไปเดือน ส.ค. สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนอีก อย่าไปกลัวว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ยิ่งกลัวยิ่งไม่มีการเลือกตั้ง

 “วันนี้ถ้าคิดเพียงแค่เรื่องการเมือง เชื่อว่าชนะการเลือกตั้งแล้วปกครองประเทศนี้ได้ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560  ที่มีความซ่อนเงื่อนมาก มี ส.ว. องค์กรอิสระอย่างครบถ้วน แต่ยังคิดแค่เรื่องตัวเลขกันอยู่ คิดว่าการเลือกตั้งจะได้เปรียบเรื่องบัตร 2 ใบ แต่ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93 มาตรา 94 เรื่องผู้แทนพึงมี ท้ายที่สุดบัตร 2 ใบจะเท่ากับบัตรใบเดียว นั่นคือเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ บวกพื้นที่ ไม่หารด้วย 100 ตามที่พูด แต่จะหารด้วย 500 จากคะแนนผู้แทนประมาณ 7 หมื่นก็จะตกอยู่ที่ 1.55 แสน เราสู้วันนี้ก็ไม่ได้สู้เพื่อจะล้มลุกคลุกคลานอยู่ตลอดชีวิต บอกเสมอว่าเราสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง เลือกตั้งก็ชนะมาตลอดอยู่แล้ว แต่ปกครองแผ่นดินนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560” นายจตุพรระบุ

ด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดในโลกที่สั่งฆ่าประชาชนด้วยอาวุธของรัฐ  ด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่เปรียบเสมือนยาพิษ เหมือนใบอนุญาตจัดการประชาชน  ความสูญเสียในวันนั้นถูกรองรับด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผู้มีอำนาจหวงแหนกอดเอาไว้เพียงเพื่อคงอำนาจของตนเอง ไม่ต่างกับตอนนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ ไม่ใช่เพื่อจัดการโรคระบาด แต่เพราะขาดกลัวอำนาจของประชาชน สุดท้ายจะเหลือเพียงการตายกับความสูญเสียในความทรงจำที่โหดร้ายและซากปรักหักพังของประเทศกับประวัติที่เลวร้ายสำหรับเยาวชนคนรุ่นหลัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส.สานพลัง สธ เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย สร้างพื่นที่ปลอดภัยปัญหายาเสพติด

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการดำเนินงานและให้กำลังใจผู้ป่วยยาเสพติด ที่รับการบำบัดที่มินิธัญญารักษ์ รพ.อุทัย และชุมชนล้อมรักษ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลลุมพลี อำเภอ