ครม.คุมราคา51สินค้า ขึ้นค่ารถทัวร์5สต./กม.

ครม.เคาะคุมราคาสินค้าและบริการปี 65 จำนวน 51 รายการ 11 หมวด ขนส่งฯ ไฟเขียวขึ้นค่าโดยสาร 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร เริ่ม 4 ก.ค.นี้ ขณะที่ บขส.ยังตรึงต่ออีก 3 เดือน กองทุนน้ำมันฯ จ่อลดอุดหนุนพลังงานเหลือ 1 ใน 3 แต่ยังเน้นช่วยกลุ่มเปราะบางมากขึ้น ยังมีหวังเจรจาขอกู้เงินชัดเจนกลางเดือนหน้า

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี 2565 จำนวน 51 รายการ ใน 11 หมวด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยเป็นสินค้าและบริการควบคุมเช่นเดียวกับปี 2564 จำนวน 51 รายการ จําแนกเป็น 46 สินค้า 5 บริการ 11 หมวด ได้แก่ 1.หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง 3.หมวดปัจจัยทางการเกษตร 4.หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ 6.หมวดวัสดุก่อสร้าง 7.หมวดสินค้าเกษตรที่สําคัญ 8.หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค 9.หมวดอาหาร 10.หมวดอื่นๆ และ 11.หมวดบริการ ซึ่งเป็นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 โดยให้ต่ออายุตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2566

สำหรับรายการสินค้าและบริการควบคุมปี 2565 ได้แก่ 1.หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กระดาษทําลูกฟูก กระดาษเหนียว กระดาษพิมพ์และเขียน 2.หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง ยางรถจักรยานยนต์ ยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์บรรทุก 3.หมวดปัจจัยทางการเกษตร กากดีดีจีเอส เครื่องสูบน้ำ ปุ๋ย ยาป้องกันหรือกําจัดศัตรูพืชหรือโรคพืช รถเกี่ยวข้าว รถไถนา หัวอาหารสัตว์ อาหารสัตว์ 4.หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิง 5.หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค เวชภัณฑ์ เกี่ยวกับการรักษาโรค 6.หมวดวัสดุก่อสร้าง ท่อพีวีซี ปูนซีเมนต์ สายไฟฟ้า เหล็กโครงสร้าง รูปพรรณ เหล็กแผ่น เหล็กเส้น

7.หมวดสินค้าเกษตรที่สําคัญ ข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวสําลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด ต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์ มันสําปะหลังและผลิตภัณฑ์ ผลปาล์มน้ำมัน มะพร้าวผลแก่ และผลิตภัณฑ์ ยางพารา ได้แก่ น้ำยางสด ยางก้อน เศษยาง น้ำยางข้น ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครป 8.หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค กระดาษชําระ กระดาษเช็ดหน้า แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสําเร็จรูปเด็กและผู้ใหญ่ สบู่ก้อน สบู่เหลว 9.หมวดอาหาร กระเทียม ไข่ไก่ ทุเรียน นมผง ผลิตภัณฑ์นมพร้อมบริโภคชนิดเหลว ไม่รวมถึงนมเปรี้ยว น้ำมัน และไขมัน ที่ได้จากพืชหรือสัตว์ทั้งที่บริโภคได้หรือไม่ได้ แป้งสาลี มังคุด ลําไย สุกร เนื้อสุกร หอมหัวใหญ่ อาหารกึ่งสําเร็จรูปบรรจุภาชนะผนึก อาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท 10.หมวดอื่นๆ เครื่องแบบนักเรียน 11.หมวดบริการ การให้สิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์เพลงเพื่อการค้า บริการซื้อขาย และหรือบริการขนส่งสินค้าสําหรับธุรกิจออนไลน์ บริการทางการเกษตร บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาลเกี่ยวกับการรักษาโรค และบริการรับชําระเงิน ณ จุดบริการ

ทั้งนี้ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2564 เห็นชอบกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี 2564 ซึ่งจะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 30 มิ.ย.2565 นี้ เพื่อเป็นการดูแลสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการกำหนดราคาซื้อ ราคาจำหน่าย หรือกำหนดเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติทางการค้าอันไม่เป็นธรรม ไม่เกี่ยวกับกรณีราคาสินค้าหรือบริการแพงขึ้นตามกลไกตลาดปกติ

ทางด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น เทียบกับอัตราค่าโดยสารรถประจำทาง พบว่าอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันสะท้อนราคาน้ำมันที่ระดับ 27 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลขยับราคาขึ้นมาเป็น 35 บาทต่อลิตร ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถโดยสารให้ได้รับความเดือดร้อนและเตรียมปรับลด-หยุดเที่ยววิ่ง

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางหมวด 2 (วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด) และ หมวด 3 (วิ่งระหว่างจังหวัด-จังหวัด และอำเภอ-อำเภอ) ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตรา 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งเป็นอัตราที่ปรับขึ้นแล้วเท่าทุน ผู้ประกอบการสามารถดำเนินกิจการได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้โดยสารจนเกินไป โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนรถ บขส. ยังให้ตรึงค่าโดยสารต่ออีก 3 เดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน พร้อมให้เตรียมรถให้เพียงพอต่อความต้องการเดินทางของประชาชน

รายงานข่าวจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่มีความยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานตลาดโลกรวมถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งคงถึงเวลาแล้วที่ต้องทบทวนแนวทางการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศให้มีความเหมาะสมมากขึ้น จากปัจจุบันที่รัฐบาลมีนโยบายให้อุดหนุนราคาเหลือครึ่งหนึ่ง เพื่อตรึงราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาท/ลิตร จากก่อนหน้านี้ให้กองทุนอุดหนุน 100% เพื่อตรึงไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ รัฐบาลคงต้องหาเงินมาช่วยสนับสนุนกองทุน เพราะยอมรับว่าจากนี้ไปสถานะของกองทุนจะติดลบต่อเนื่องตราบใดที่รัฐบาลยังมีนโยบายอุดหนุนราคาพลังงาน ทั้งที่ยังไม่มีเงินจากแหล่งไหนเข้ามาเสริมสภาพคล่อง ขณะที่กองทุนได้ทยอยผ่อนคลายการอุดหนุนมาเป็นระยะๆ แต่ยังคงมาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง และควรเน้นความช่วยเหลือให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างพ่อค้าแม่ค้า ผู้มีรายได้น้อย และอุตสาหกรรมภาคขนส่งที่มีผลต่อราคาสินค้าให้สามารถซื้อเชื้อเพลิงได้ในราคาถูกกว่าในตลาด

 “ในระยะต่อไปอาจต้องมีการทบทวนมาตรการให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ราคาพลังงานตลาดโลกที่ผันผวนสูงให้มากขึ้น แต่ไม่ถึงกับการปล่อยลอยตัว เพราะจะกลายเป็นการสร้างปัญหาหนักเกินไป เช่น อาจปรับลดการอุดหนุนเหลือ 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 ของราคาเชื้อเพลิงได้หรือไม่ จากปัจจุบันอุดหนุนอยู่ครึ่งหนึ่ง ส่วนประชาชนที่มีกำลังซื้อสูงกว่ารัฐอาจช่วยเหลือในเรื่องการให้ส่วนลดผ่านโครงการต่างๆ เช่น ชิมช้อปใช้ หรือเที่ยวด้วยกัน ต่อไปเป็นต้น” รายงานข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกองทุนมีสถานะติดลบ 1.02 แสนล้านบาท โดยกองทุนอุดหนุนราคาดีเซล 11.07 บาท/ลิตร ไม่ให้เกิน 35 บาท/ลิตร ครึ่งหนึ่งของราคาจริงควรจะอยู่ที่ 46.01 บาท/ลิตร คิดเป็นเงินไหลออกจากกองทุนวันละประมาณ 700 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาททุกเดือน ทำให้กองทุนอุดหนุนวันละ 47 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 1,400 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าการหาเงินมาเสริมสภาพคล่องของกองทุนเพื่ออุดหนุนราคาพลังงาน ขณะนี้แนวทางต่างๆ อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งในส่วนของการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินนั้น ได้พูดคุยถึงข้อห่วงใยต่างๆ จนสามารถบรรลุข้อตกลงทุกอย่างได้ลงตัวหมดแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ หรือประมาณกลางเดือน ก.ค. โดยกองทุนยังยืนยันขอกู้ที่วงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามความจำเป็นและเหมาะสม เพราะกองทุนยังมีเงินที่ฝากไว้กับกระทรวงการคลังและธนาคารกว่า 3,300 ล้านบาท และเงินที่ต้องชำระผู้ค้ามาตรา 7 หมุนเวียนใช้อีกวันละประมาณ 79.50 ล้านบาท โดยที่กองทุนไม่ได้ผิดนัดค้างชำระแต่อย่างใด

ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องการนำกำไรส่วนเกินของโรงกลั่นมาเสริมสภาพคล่องกองทุนนั้น สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) อยู่ระหว่างดำเนินการเจรจา อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบการพิจารณาดำเนินมาตรการดูแลราคาพลังงานในประเทศ ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง