‘เสี่ยหนู’ หายสนิท รักษาโควิดฟรียาว

รองโฆษกรัฐบาลย้ำ  รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน ผู้ป่วยโควิดยังรักษาตามสิทธิฟรี! แม้โควิดปรับเป็นโรคประจำถิ่น ขออย่ากังวลเรื่องการรักษา "อนุทิน" หายแล้ว เตรียมกลับมาทำงาน 4 ก.ค.

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,508 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,508 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 0 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 0 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 0 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 3,489 ราย

เสียชีวิต 17 ราย เป็นเพศชาย 7 ราย เพศหญิง 10 ราย สัญชาติไทย 15 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย อายุเฉลี่ย 75 ปี (อายุระหว่าง 52-90 ปี) แยกเป็น ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ราย คิดเป็น 82% ผู้มีอายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 18%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 4,527,777 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 1,883 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 30,681 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดทั่วโลก ล่าสุด มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 553,566,290 ราย เสียชีวิต 6,359,949 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรกคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 89,507,083 ราย, อันดับ 2 อินเดีย 43,488,519 ราย, อันดับ 3 บราซิล 32,434,200 ราย, อันดับ 4 ฝรั่งเศส 31,208,925 ราย และอันดับ 5 เยอรมนี 28,293,960 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 26

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 ยังรักษาฟรี! ตามสิทธิเหมือนเดิม แม้โรคโควิดจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 เป็นต้นไป แต่จะมีการปรับแนวทางการจ่ายค่าบริการสาธารณสุขโรคโควิด-19 ทั้งนี้ บอร์ด สปสช.จะพิจารณาในวันที่ 4 ก.ค.65 ซึ่งประชาชนกลุ่มเสี่ยงโควิดยังขอรับชุดตรวจ ATK ที่ร้านขายยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอปเป๋าตังได้ เมื่อตรวจแล้วติดเชื้อ กลุ่มที่มีอาการไม่มากหรือกลุ่มสีเขียวเข้ารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกแบบเจอแจกจบตามสิทธิรักษา ส่วนกลุ่ม 608 หรือมีอาการรุนแรง จะต้องพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษา หากเกิดอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินตามเกณฑ์สีเหลือง-แดง ยังใช้สิทธิ UCEP Plus เข้ารักษาโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวต่อว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้ สถานการณ์ลดความรุนแรงลง ซึ่งระบบสาธารณสุขมีศักยภาพรองรับได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโรคเกิดขึ้น อาจมีเป็นคลัสเตอร์ขึ้นมาบ้างแล้วลดลงไป ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเหมาะสม มีระบบเฝ้าระวังและเตรียมการรักษาพยาบาล สำหรับข้อกำหนดของ ศบค. เรื่องผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร ที่ให้การสวมหรือถอดหน้ากากเป็นตามความสมัครใจนั้น ยังมีสถานที่ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ ได้แก่ สถานที่นอกอาคารที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจํานวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬาหรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม เป็นต้น ส่วนสถานที่ภายในอาคารที่ต้องสวมหน้ากาก เช่น บนเครื่องบิน รถไฟฟ้าบีทีเอส โรงเรียนและสถานศึกษาที่เป็นที่ปิด เป็นต้น แต่หากมีการจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง ก็สามารถผ่อนปรนการสวมหน้ากากได้

น.ส.รัชดาเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนต้องให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน หากป่วยด้วยโรคโควิด-19 ยังคงสามารถเข้ารักษาตามสิทธิสุขภาพของตนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เหมือนเดิม ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทยที่ได้รับการยกย่องติดอันดับโลกมาโดยตลอด สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการรักษาคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ โดยรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.เป็นต้นมา และอาการดีขึ้นตามลำดับ

ล่าสุด นายอนุทินโชว์ภาพผลตรวจ ATK วันที่ 1 ก.ค.65 เวลา 14.10 และ เวลา 14.15 น. ในการตรวจซ้ำ 2 ครั้ง ซึ่งผลตรวจปรากฏว่าขึ้นเพียง 1 ขีด และเปิดเผยสั้นๆ ว่า “จะไปทำงานในวันที่ 4 ก.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง