ห่วงเข้าพรรษา การ์ดสูงสู้โควิด สธ.เซ็นซื้อLAAB

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายกฯ ขอ ปชช.มั่นใจ ระบบสาธารณสุขไทยเข้มแข็งพร้อมรับมือ โควิดระลอกใหม่ ขณะที่ "อนุทิน" เซ็นจัดหาแอนติบอดีสำเร็จรูป 2.5 แสนโดส ดูแลผู้ป่วยภูมิต่ำ โวยลั่น "ศบค.-สธ." ไม่ได้ตั้งธงปลดหน้ากากอย่างเดียว โยนมีแต่หน่วยงานอื่นพูด ยันพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอ ด้าน กมธ.งบฯ 66 ทวง mRNA เข็มกระตุ้นให้ประชาชน จี้หยุดซื้อแอสตร้าฯ

เมื่อวันพุธ นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้มีการรายงานพบการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเป็นระลอกเล็กๆ (Small Wave) อาจเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศ ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ และมีผู้เดินทางเข้าและออกประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของประเทศไทยยังเข้มแข็ง โดยรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับส่วนกลางและระดับพื้นที่ ได้มีการเตรียมการรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและมีความพร้อมรับมือทุกด้านเพียงพอคือ หมอพอ เตียงพอ ยาและเวชภัณฑ์พอ รวมถึงเร่งเดินหน้าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั่วประเทศ

“นายกรัฐมนตรียังห่วงใยประชาชน ที่กำลังจะวางแผนเดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาและท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน และเป็นวันเข้าพรรษา ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพและระมัดวังตนเองให้ปลอดภัย ทั้งการเดินทางและการปฏิบัติตน ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ปลอดภัยจากโควิดสายพันธุ์ต่างๆ เกิดขึ้นในขณะนี้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 2,428 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,425 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 3 ราย  และเสียชีวิต 22 ราย

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดหาแอนติบอดีสำเร็จรูป แบบ Long Acting Antibodies (LAAB) เพื่อการป้องกันโควิด-19  โดยยังมีประชากรบางกลุ่มที่รับวัคซีนแล้วร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี หรือภูมิคุ้มกันตกลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดแล้วป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ปลูกถ่ายอวัยวะ หรือปลูกถ่ายไขกระดูกและได้รับยากดภูมิคุ้มกัน

 โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มีการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทุกวัน โดยการลงนามในครั้งนี้จะจัดหาแอนติบอดีสำเร็จรูป หรือ LAAB เข้ามาจำนวนกว่า 2.5 แสนโดส โดยไม่ต้องใช้งบประมาณในการจัดหาเพิ่มเติม ซึ่งทำให้เรามีทั้งวัคซีนและแอนติบอดีสำเร็จรูปมาดูแลประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณี ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอให้ สธ.เสนอ ศบค.ออกมาตรการบังคับให้สวมหน้ากากในพื้นที่ปิดว่า สธ.มีการประชุมอีโอซีทุกเช้า มีคณบดีแพทย์จากสถาบันต่างๆ ร่วมด้วย ขั้นตอนการนำเสนอมีอยู่แล้ว ทุกอย่างเราฟังหมด หากอีโอซีเสนอขึ้นมาผ่าน ศบค. ส่วนใหญ่ก็ผ่าน ที่ผ่านมาเสนออะไรไปก็รับหมด ไม่เคยเห็นมีการไม่เห็นด้วย การได้รับคำแนะนำ ข้อชี้แนะดีๆ จากผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นบุญของ สธ.ที่มีคนเข้ามาช่วยคิดช่วยทำงานมากมาย เราพร้อมอยู่แล้วถ้าเป็นประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุม ศบค.วันที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก่อนประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีการประชุม ศปก.ศบค.หรือชุดเล็ก ก็จะเสนอมาตรการต่างๆ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็เร่งลดหย่อน ถ้าสถานการณ์ตึงก็จะไปดูเป็นจุดๆ ว่าเราควรแก้ไขอย่างไร อย่างช่วงนี้สิ่งที่เราเห็น ศบค.และ สธ.ไม่เคยพูดเลยว่าถึงเวลาปลดหน้ากากแล้ว มีแต่หน่วยงานอื่นพูด

"รัฐมนตรี ปลัด นายกรัฐมนตรี ศบค. พูดแต่ว่าถ้าใส่ได้ใส่เถอะ อย่าไปถอดเลย ทุกอย่างใส่แล้วก็เป็นการลดความเสี่ยงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งนั้น หากอยากจะถอดก็ประเมินสถานการณ์เอา ก็เป็นไปตามที่เราพูดทุกอย่าง ไม่ได้ตั้งเข็มว่าจะถอดหน้ากากอย่างเดียว พอถึงเวลาถ้ามีปัญหาขึ้นมาก็จะเป็นความเคลือบแคลงสงสัย และไปหาคนรับผิดชอบ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร ช่วงนี้ใส่ได้เราก็ใส่ เพื่อตัวเราเอง" นายอนุทินกล่าว

ส่วนที่มีข้อห่วงกังวลว่ามีการติดเชื้อในโรงเรียนเพิ่มขึ้นนั้น นายอนุทินกล่าวว่า สามารถติดได้ทุกที่ที่มีการสัญจรไปมา มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ต้องระวัง ฉีดวัคซีนแล้วช่วยได้เยอะเลย ถึงแม้ติดก็จะไม่เป็นอะไร นี่คือเจตนารมณ์ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลและ สธ.พยายามออกมาชี้แจงว่า ถ้าเราป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ แม้จะติดเชื้อก็จะไม่เป็นอะไร และถึงจะเดินหน้าไม่ว่าจะเป็นโรคประจำถิ่นหรืออะไร ซึ่งในกฎหมายก็ไม่มีโรคประจำถิ่น มีแต่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เราพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นปกติมากที่สุด

วันเดียวกัน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.65 เป็นต้นมา สปสช.ได้มีการปรับระบบการจ่ายชดเชยค่าบริการเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยเปลี่ยนแปลงที่มาของงบประมาณที่จ่ายสำหรับโรคนี้ จากเดิมที่จัดสรรมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ เป็นใช้เงินจากงบประมาณประจำของ สปสช. ที่ยังเหลืออยู่ แต่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชน รวมทั้งขอแนะนำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปรับการรักษาตามระบบที่ตนเองมีสิทธิ หากเป็นผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท

นพ.จเด็จกล่าวว่า นอกจากจะเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำของตนเองแล้ว ยังเข้ารักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งตามนโยบาย 30 รักษาทุกที่ รวมถึงเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่ายระบบบัตรทอง ซึ่งก็คือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบ ควรเข้ารับบริการในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเป็นหลัก

 ที่รัฐสภา น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สภาผู้แทนราษฎร  ระบุว่า ในการพิจารณางบประมาณของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มี กมธ.บางท่านสอบถามถึงการรายงานตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน สะท้อนตัวเลขผู้ติดเชื้อตามความเป็นจริงหรือไม่เนื่องจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ BA.2 BA.4 และ BA.5 ที่กำลังแพร่ระบาดในระลอกที่ 5 สามารถกลายพันธุ์และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง แต่การรายงานตัวเลขของหน่วยงานกลับไม่สะท้อนจำนวนที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อ

“นอกจากนี้ ทาง กมธ.ยังสอบถามเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าว่าหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติปรับลดการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เหลือ 34,500,500 โดส เพราะปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA จึงต้องการทราบว่ากรมควบคุมโรคจะเสนอให้ยุติการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้หรือไม่” น.ส.จิราพรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' สั่ง 'ชลน่าน' แล้วให้จับตาโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิด

นายกฯ สั่งการติดตามสถานการณ์เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ ดูแลประชาชน ย้ำหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่