อุ๊งอิ๊งถาม‘ลุงตู่’8ปีพอหรือยัง/โพลจี้ไขก๊อก

นิด้าโพลเผยผลสำรวจนายกฯ 8 ปี ปชช.ส่วนใหญ่อยากเห็น "บิ๊กตู่" ประกาศพ้นตำแหน่งไม่เกิน 24 ส.ค. เชื่อ 3 ป.จะไม่มีบทบาทจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า "แรมโบ้" อัดกลับ "นิด้าโพล" มือปืนรับจ้าง นั่งเทียนสำรวจกลุ่มคนตรงข้ามรัฐบาล จี้หยุดทำ ปชช.สับสน ให้รอผลวินิจฉัยของศาล รธน. "พท." ยื่นศาล 17 ส.ค. ขอให้สั่งนายกฯ พักงานก่อน "อุ๊งอิ๊ง" ถามกลับ "ท่านพอหรือยัง" ด้าน "อมรัตน์" เตือนนั่งอยู่บนระเบิดเวลาเพื่ออะไร แกนนำ ศท.ยกนิด้าโพลบี้ให้เร่งไขก๊อก

เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “8 ปี นายกรัฐมนตรีกับอนาคตทางการเมืองของ 3 ป.” สำรวจระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุก ภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ จำนวน 1,312 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนของรัฐธรรมนูญเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 64.25 ระบุว่านายกฯ ควรประกาศว่า 8 ปีคืออยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 24 สิงหาคม 2565 รองลงมา ร้อยละ 32.93 ระบุว่านายกฯ ควรรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี และร้อยละ 2.82 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ  

ส่วนบุคคลในกลุ่ม 3 ป.ที่ประชาชนเชื่อว่าจะยังคงมีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 55.18 ระบุว่าเชื่อว่าทั้ง 3 ป.จะไม่มีบทบาททางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 27.36 ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, ร้อยละ 24.77 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ร้อยละ 19.44 ระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และร้อยละ 5.18 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ  

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงบุคคลในกลุ่ม 3 ป. ที่ประชาชนต้องการให้มีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 80.03 ระบุว่า ไม่ต้องการให้ทั้ง 3 ป.มีบทบาททางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า รองลงมา ร้อยละ 14.25 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,  ร้อยละ 7.39 ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และร้อยละ 7.16 ระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจนิด้าโพลว่า การที่นายกฯ จะอยู่กี่ปีนั้น หากมีคนไปยื่นก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย รอผลวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะดีกว่าไหม นิด้าโพลไม่ควรนำมาเป็นหัวข้อในการสำรวจของประชาชนเช่นนี้ เสมือนมีธงชี้นำ ไม่ควรทำตัวเหนือองค์กรอิสระ และไม่สมควรที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนข้อมูลที่สำรวจความเห็นนั่งเทียนทำหรือไม่ ชักน่าสงสัย มีผลออกมาขัดแย้งตรงกันข้ามกับผลสำรวจของ ดร.นพดล กรรณิกา จากสำนักซูเปอร์โพลตลอดมา ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้นายกฯ ประยุทธ์อยู่บริหารประเทศต่อเพราะมีผลงานชัดเจน

อัด'นิด้าโพล'มือปืนรับจ้าง

นายเสกสกลกล่าวว่า การที่นิด้าโพลสำรวจความเห็นเช่นนี้ อยากที่จะโจมตีนายกฯ และใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองใช่ไหม ทำแบบนี้เพื่ออะไรและทำเพื่อใครหรือไม่ หรือมีธงชักนำใครสั่งมา มีเป้าหมายทางการเมืองทำลายนายกฯ อย่างนั้นใช่ไหม ขอให้นิด้าโพลหยุดทำผลสำรวจโดยอ้างความเห็นประชาชนจะดีกว่า เพราะมาจากการไปสำรวจจากกลุ่มที่เป็นฝ่ายตรงข้าม และมีอคติต่อนายกฯ และรัฐบาลมากกว่า แทนที่จะสอบถามความเห็นจากประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยของประชาชนทั้งประเทศ

"ขอพี่น้องประชาชนอย่าไปเชื่อถือสำนักโพลใดก็ตามที่นั่งเทียนสำรวจ นั่งทำโพลในห้องแอร์ และมีอคติต่อนายกฯ และรัฐบาล สำนักโพลประเภทนี้รับจ้างมาสำรวจมาทำลายมากกว่า มีแต่ทำให้ประชาชนสับสน บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่ว่าเป็นสำนักไหนก็ตาม ที่ชอบทำโพลรับจ้างมาทำลาย ก็ควรหยุดเป็นมือปืนรับจ้าง เพราะเป็นบ่อนทำลายขวัญกำลังใจคนทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชน ประชาชนจะไม่มีวันเชื่อถือถือสำนักโพลมือปืนรับจ้างอีกต่อไป" นายเสกสกลกล่าว

นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ออกมาในทางลบ จะกระทบพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่าเราคงพูดไม่ได้ในเรื่องอนาคต เป็นเรื่องที่ฝ่ายสงสัยจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไปพูดก่อนคงไม่ถูกต้อง เพราะหลักกฎหมายมันมีอยู่แล้วในมาตรา 158 (1) (2) (3) และ (4) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนพูดก่อนเอาเรื่องอคติ และอื่นๆ เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ อยากเรียกร้องว่า เราปกครองภายใต้หลักนิติธรรม ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ฝ่ายใดสงสัยก็ต้องไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตีความ ส่วนฝ่ายไม่สงสัย เขาก็ตีความสนับสนุนอยู่แล้ว มันมีทางออกอย่างนี้เพื่อไม่ทำให้ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดของคนมันแตกต่างกันไป 

"การดำเนินการไม่ว่าฝ่ายไหน การทำตามกติการัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุด ผู้ที่มีอำนาจผูกพันทุกองค์กรคือศาลรัฐธรรมนูญ การทำตามกติการัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุด ผู้ที่มีอำนาจผูกพันทุกองค์กรคือศาลรัฐธรรมนูญ" นายชินวรณ์กล่าว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ว่า เมื่อประเมินกระแสจากประชาชน เขาไม่สนใจข้อกฎหมายแล้ว สนใจข้อเท็จจริง ความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนของประชาชน จึงทำให้มีการรณรงค์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ประเมินตนเองว่าจะอยู่ต่อหรือไม่ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะใช้ข้อกฎหมายเป็นหลักในการทำหน้าที่ต่อในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะยื่นวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ยืนยันว่าเรามีคำร้องประกอบแล้ว โดย 1.ขอให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ 2.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน โดยมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ

'อุ๊งอิ้ง'ถามนายกฯพอหรือยัง

ที่ จ.เชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวภายหลังปราศรัยในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย “ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด” โดยเมื่อถามว่า 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ พอแล้วหรือยัง น.ส.แพทองธาร ตอบว่า "ก็ต้องถามที่ท่านเอง ว่าท่านพอหรือยัง"

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนิด้าโพลสำรวจความเห็นประชาชนพบว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศพ้นตำแหน่งไม่เกินวันที่ 24 ส.ค.นี้ว่า หลังจากฉีกรัฐธรรมนูญมาจนบัดนี้ยังไม่ทำตามสัญญา ถ้าคนที่มีจิตสำนึกจะต้องเอาตัวเองออกจากการเป็นปัญหา แสดงว่านี่สะท้อนจิตสำนึกแล้วว่าโกหกตั้งแต่ตอนยึดอำนาจ ตั้งใจจะอยู่ยาว ควรจะปลดชนวนความขัดแย้งของสังคมได้แล้ว หลังทำตัวเป็นปัญหามา 8 ปี

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังเหมือนมั่นใจ โดยปฏิเสธตอบคำถามเรื่อง 8 ปี  และให้ไปถามศาลรัฐธรรมนูญนั้น นางอมรัตน์กล่าวว่า แสดงว่ากระจกที่เคยมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังเล็กเกินไปหรือเปล่า จะได้เอากระจกบานใหญ่กว่านั้นไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำไมไม่รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน ทำไมเป็นคนน่ารังเกียจไม่รู้จบขนาดนี้ ถ้าพอจะเหลือจิตสำนึกอยู่บ้าง ให้เอาตัวออกจากการเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาความขัดแย้งทั้งปวงของประเทศได้แล้ว ต่อให้คำตัดสินออกมาเป็นคุณกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่จบอยู่ดี ต้องคาดหมายได้แล้วว่าคำตัดสินไม่ใช่จุดที่จะสร้างความสงบเรียบร้อย

"พล.อ.ประยุทธ์จะเอาตัวอยู่เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ไปเพื่ออะไร กระจกบานที่เคยมอบให้มันเล็กเกินไปหรือถึงส่องตัวเองไม่เห็นสักที แล้วพวกลิ่วล้อ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกแต่ละคนมาอยู่ข้างกายก็ไม่ใช่คนที่หวังดีกับนายกฯ หรอก  จะขอเตือนเอาไว้"

วันเดียวกัน นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล รองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์พรรคเศรษฐกิจไทย เปิดสำนักงานประสานงานพรรคเศรษฐกิจไทย อ.เมืองฯ  และ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีประชาชนและสมาชิกพรรคมาร่วมงานคับคั่ง

โดยนายวิชิตกล่าวว่า ในวันนี้ได้เลือกตัวแทนพรรค จ.ประจวบฯ สองเขตเลือกตั้ง พรรคมีความพร้อม มีนโยบายพลิกโฉมประจวบฯ เช่น การพัฒนาพื้นที่ด่านสิงขร โดยจะชูนโยบายการขนส่งอาหารทะเลด้วยรถไฟ 180 กิโลเมตร โดยเชื่อมทะเลสองฝั่งคือ อ่าวไทย/ทะเลอันดามัน ระหว่างไทย/เมียนมา หากทำได้จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชาวประมงและชาวประจวบฯ จากปีละพันล้านเป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งตนจะผลักดันนโยบายนี้ให้เป็นนโยบายพรรค และหลังวันที่ 18 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ทราบว่า หัวหน้าพรรคจะมาประชุมร่วมกับกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อวางนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างยั่งยืนและรวดเร็ว

"วันนี้นิด้าโพลสะท้อนแล้วว่าประชาชนกว่าร้อยละ 60 ไม่ยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ พรรคก็ไม่สนับสนุน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งอยู่นานเศรษฐกิจยิ่งพัง ประชาชนเดือดร้อน วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว ลาออกได้แล้ว การครองอำนาจ 8 ปี แต่บ้านเมืองย่ำแย่ ประชาชนลำบาก วันนี้หากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนจะมีความหวังกับการแก้ไขปัญหาปากท้อง และพรรคพร้อมทำงานด้วยการนำนโยบายพรรคทำงานเพื่อประชาชนทันที" นายวิชิตกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง